กกท.เตรียมออกสลากกีฬา ให้ประชาชน มีส่วนร่วม ในการจัดสร้าง รพ.กีฬา

กกท.เดิหน้า สร้าง รพ.กีฬา พร้อมเตรียมออกสลากกีฬา สร้าง รพ.กีฬา ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม พร้อมลุ้นโชคสมทบทุนการแพทย์ เวลานี้กำลังศึกษาขั้นตอน การดำเนินงานในการจัดตั้ง รพ.กีฬาขึ้นมา เพื่อดูแลนักกีฬา ที่จะมีขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย

ดร.ก้องศักด ยอดมณี บอสใหญ่แห่งค่ายหัวหมาก ชี้โครงการสลากกีฬาที่ กกท. กำลังเร่งศึกษาความเป็นได้ จะต่อยอดและผลิดอกออกผลอย่างยิ่งกับวงการกีฬาไทย โดยเงินจากการขายสลากกีฬาจะเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญ ในการจัดจ้าง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ, จัดซื้อยา และอุปกรณ์อันทันสมัย เข้ามาบริการนักกีฬาไทย และประชาชนทั่วไปในโรงพยาบาลกีฬา ที่ กกท.กำลังเร่งผลักดัน

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เผยว่า จากการที่ตนและคณะทำงานกำลังศึกษาขั้นตอนการดำเนินงาน รวมถึงผลดีผลเสียในการจัดตั้งโรงพยาบาลกีฬาขึ้นมา เพื่อดูแลรักษานักกีฬาเป็นครั้งแรกในเมืองไทย โดยคาดว่าทุกอย่างจะเป็นรูปเป็นร่างในเวลา 4 ปีต่อจากนี้นั้น ก็คาดการณ์ว่าจะใช้งบประมาณในการทำโครงการนี้ที่ค่อนข้างสูงมากเลยทีเดียว

ดร.ก้องศักด กล่าวอีกว่า ”ค่าใช้จ่ายในการทำโรงพยาบาลถือว่าค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นค่าบุคลากรทางการแพทย์ ค่ายารักษา ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ และอื่นๆ อีกมายมาย ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่อยากให้เป็นภาระของรัฐบาล หรือจะต้องนำเงินภาษีของประชาชน มาใช้ดำเนินการเพียงอย่างเดียว แต่อยากจะใช้สลากกีฬามาช่วยบรรเทาภาระการจ่ายของแหล่งงบประมาณประจำ ที่ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยจะได้รับอยู่แล้ว”

”นอกจากเงินที่มาของงบประมาณจากรัฐบาล ในส่วนของเงินพัฒนากองทุนกีฬาแห่งชาติแล้ว ผมอยากใช้เงินจากสลากกีฬา เป็นการดึงเงินทุนจากประชาชนด้วยความสมัครใจ และให้เกิดความรู้สึกมีส่วนร่วม โดยที่พวกเขาจะได้มีส่วนในการร่วมพัฒนากีฬาไทยด้วย เพราะต้องยอมรับว่านักกีฬาเป็นผู้เสียสละ สร้างชื่อเสียง ความภาคภูมิใจให้กับประเทศ ผมจึงมีแนวความคิดและอยากจะเอาสลากกีฬาเป็นสื่อ ให้คนได้ทำบุญด้วย”

ผู้ว่าการ กกท. ยังเผยถึงสลากกีฬาอีกว่า ”ประชาชนที่ซื้อสลากกีฬา ยังจะได้ลุ้นโชค ร่วมสนุกกับการซื้อสลาก โดยเงินที่ขายสลากกีฬาจะนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาล ซึ่งก็จะมีการสร้างมูลนิธิขึ้นมา เพื่อให้ประชา ชนเห็นว่า พอซื้อสลากกีฬา หรือบริจาคเงินเข้าโรงพยาบาล จะมีระบบที่มีความโปร่งใส การใช้เงินต่างๆ ผ่านกลไกต่างๆ ของมูลนิธิ และจะมั่นใจได้ว่าทุกบาททุกสตางค์ ที่ให้การสนับสนุนโครงการจะใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด”