ปมไฟฟ้าไม่พอใช้ ดันสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะในท้องถิ่นร่วมแก้

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากกรณีปัญหาความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับการจ่ายกระแสไฟฟ้าบางพื้นที่ร้องเรียนเรื่องไฟตก ไฟติดๆดับๆ ในช่วงปริมาณการใช้สูง เช่น ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาหลายชุมชน หมู่บ้านในเชียงใหม่, ลำพูนเผชิญปัญหาไฟตก ส่งผลต่ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ชำรุด เสียหาย

ดังนั้นแนวทางผลักดันให้เกิดโครงการกำจัดขยะมูลฝอยเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จึงเป็นอีกวาระสำคัญที่ ก.มหาดไทย บูรณาการแผนร่วมกับคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน พิจารณาและมีมติกำหนดการปรับปรุงเงื่อนไข การรับซื้อไฟฟ้าผ่านรูปแบบโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ

ล่าสุด มีเอกสารเสนอแนวทาง ดำเนินการจาก กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (กสถ.) แจ้ง ผวจ. ทุกจังหวัด มอบหมาย ท้องถิ่นจังหวัด ประสาน อปท. ขับเคลื่อนโครงการ ซึ่งมีรูปแบบการลงทุน 2 แบบ โดยแบบแรกต้องดำเนินในที่ดินกรรมสิทธิ์ของอปท.นั้นๆที่มีโครงการรองรับไว้แล้ว และแบบ 2 กรณีไม่มีที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของ อปท.ที่เหมาะสม ให้เลือกใช้ที่ดินซึ่งเป็นของเอกชนได้ แต่ต้องพยายามใช้แบบแรกก่อน

ทั้งนี้ผู้บริหาร ท้องถิ่น ในเชียงใหม่ หลายแห่ง กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ที่เป็นรูปเป็นร่าง เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.ฮอด เป็นของเอกชน ทุกโครงการมีการรับซื้อขยะมูลฝอย เป็นวัตถุดิบจากนครเชียงใหม่ หากมีโครงการ โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ของ ท้องถิ่นขนาดใหญ่ ในพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด, อ.ฝาง หรือแม้แต่เขตเมือง ซึ่งอปท.ระดับนคร พยายามผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง แต่ติดเงื่อนไข ปัญหาที่ดิน ในรัศมี 50 กม. ถ้าประกาศแนวทางที่กสถ.กำหนดไว้ น่าจะเป็นทางเลือก ผลักดันให้โครงการที่ค้างมานานหลายปีมีโอกาสเดินหน้าต่อได้

อย่างไรก็ตามอดีตผู้บริหารท้องถิ่น จ.เชียงใหม่ ซึ่งเคยมีส่วนร่วมวางแผนโครงการโรงไฟฟ้าขยะ ในเชียงใหม่ขนาดใหญ่ มูลค่ามากกว่า 2 พันล้านบาท ยืนยันความพร้อมการลงทุนของทุนจีน นั้นมีสูง มีความพร้อมด้านเงินทุน ในขณะที่ปริมาณขยะในพื้นที่ ตามการแบ่งโซนรับผิดชอบ กระบวนการต่อจากนี้ต้องระมัดระวังความโปร่งใส การบริหารจัดการโครงการที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งมั่นใจว่าโครงการลงทุนขนาดใหญ่แบบนี้ ระดับนโยบายคงไม่ปล่อยให้เกิดปัญหาเช่นที่ผ่านๆมา ในพื้นที่เชียงใหม่ หลายโครงการของท้องถิ่น ที่อยู่ในขั้นตอนตรวจสอบ หาผู้รับผิดชอบการใช้งบฯที่ผ่านๆมาปล่อยให้แผนงานมีปัญหาหลายโครงการ