“พระตำหนักดาราภิรมย์” พระตำหนักของเจ้าดารารัศมี

พระตำหนักดาราภิรมย์และสวนเจ้าสบาย ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ จากตัวเมืองมาตามทางหลวงหมายเลข 107 สายเชียงใหม่-ฝาง จนถึงกม.ที่16 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าค่ายดารารัศมี พระตำหนักดาราภิรมย์ในอดีตเคยเป็นตำหนักที่ประทับของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงเป็นอาคารที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และคุณค่าทางด้านสถาปัตยกรรม ด้วยเป็นอาคารพักอาศัยขนาดใหญ่ครึ่งตึกครึ่งไม้มีรูปแบบสวยงามตามยุคสมัยที่ก่อสร้างคือเมื่อประมาณ 80 กว่าปีที่แล้ว

เนื่องจากไม่มีหลักฐานเวลาที่ก่อสร้างแน่ชัดของพระตำหนักดาราภิรมย์และสวนเจ้าสบาย แต่จากการศึกษาเอกสารประวัติศาสตร์และรูปแบบสถาปัตยกรรมประมาณว่าพระตำหนักน่าจะก่อสร้างอยู่ในระหว่างปี พ.ศ.2470 และเป็นไปได้ว่าอาจมีการเสด็จไปประทับอาคารชั่วคราว ระหว่างการก่อสร้างพระตำหนักเหมือนกับกรณีการเสด็จประทับที่พระที่นั่งวิมานเมฆ ระหว่างการก่อสร้างพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังสวนดุสิตของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ในการก่อสร้างพระตำหนักขึ้นในบริเวณที่ดินแห่งนี้ พระราชชายาเจ้าดารารัศมีทรงวางแผนผังกำหนดเขตอาณาบริเวณด้วยพระองค์เองทั้งหมดว่าตรงไหนจะสร้างพระตำหนัก ตรงไหนเป็นทางเดิน สวนดอกไม้ สวนผลไม้ สวนครัวและที่นา ทรงเลือกสภาพภูมิประเทศและทิศทางลม แสงสว่างอย่างละเอียดรอบคอบ แม้ระหว่างที่เริ่มก่อสร้างพระตำหนักนั้น พระองค์ทรงไปควบคุมบัญชาการด้วยพระองค์เอง ในชั้นแรกได้ก่อสร้างตัวอาคารตำหนักขึ้นก่อน ชั้นล่างเป็นการก่ออิฐ ชั้นบนเป็นอาคารไม้ปนอิฐ แต่มีพื้นที่อาคารชั้นบนบางส่วนที่ต้องการรับน้ำหนักเป็นประจำก่ออิฐถือปูนและเทคอนกรีตมีมุขบันไดคอนกรีตอยู่ทางเหนือยื่นออกไปเป็นส่วนหนึ่งต่างหากจากตัวบันไดหน้า ซึ่งกว้างประมาณ 3 เมตรเศษ

ต่อจากมุขบันไดหน้านี้เข้าไปเป็นหน้ารับแขก ซึ่งอยู่ทางครึ่งด้านทิศตะวันออก ส่วนหน้าของตัวอาคารและทำเป็นห้องเสวยครึ่งหนึ่งด้านตะวันตก ถัดเข้าไปเป็นห้องบรรทมซึ่งอยู่ตอนกลางตัวอาคารซีกนี้ ระหว่างห้องพระทางด้านตะวันออกต่อไปเป็นห้องประทับอยู่ทางด้านใต้ แล้วจึงเป็นห้องสรงและห้องพระบังคน อยู่ทางด้านตะวันตกต่อจากห้องประทับนี้ไปทางด้านใต้ เป็นชานซึ่งมีบริเวณกว้างขวางปูพื้นด้วยคอนกรีตหยาบกันลื่น มีเรือนไม้เลื้อยขึ้นคลุมไว้..อย่างไรก็ตามจากสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ทั้งพระตำหนักและสวนเจ้าสบาย มิได้มีลักษณะตรงตามข้อความทั้งหมด เข้าใจว่าอาจเป็นเพราะการดัดแปลงซ่อมแซมในภายหลัง

พระตำหนักดาราภิรมย์เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้สูงสองชั้น โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ชั้นล่างเป็นใต้ถุนโล่ง กั้นเป็นห้องบางส่วน ชั้นบนแบ่งกั้นเป็นห้องต่าง ๆ เพดานสูงมีช่องลมเป็นไม้ฉลุโดยรอบ ด้านหน้าอาคารมีซุ้มเทียบรถยนต์หลังคาซุ้มเป็นดาดฟ้าคอนกรีต รูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นแบบบ้านไทยทรงฝรั่งที่ปรับให้เหมาะสมกับดินฟ้าอากาศคล้ายคลึงกับพระที่นั่งวิมานเมฆหรือบ้านพักอาศัยในย่านสาธร สีลม ที่สร้างในยุคสมัยเดียวกัน
ลักษณะสำคัญอีกประการหนึ่งของพระตำหนักดาราภิรมย์และอาคารก่อสร้างในยุคเดียวกัน คือการออกแบบอาคารโล่ง โปร่งเพื่อให้อากาศระบายได้โดยธรรมชาติ ได้แก่เพดานห้องชั้นบนจะยกสูง มีช่องลมไม้ฉลุเป็นรูปดาว (สัญลักษณ์ประจำพระองค์) เหนือผนังให้ลมพัดผ่าน หลังคาทรงสูงมีห้องใต้หลังคาและใต้ถุนชั้นล่างเปิดโล่งทั้งหมด ดังนั้นจะพบว่าพระตำหนักนั้นเย็นสบายโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับบ้านเรือนในปัจจุบัน

พระตำหนักดาราภิรมย์และสวนเจ้าสบายนับเป็นสถานที่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเคยเป็นที่ประทับของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ผู้เป็นปูชนียบุคคลของชาวล้านนา ผู้นำวิทยาการสมัยใหม่เข้ามาสู่ดินแดนภาคเหนือ ทรงใช้พระตำหนักเป็นสถานที่ประกอบพระกรณียกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมพื้นเมืองความภาคภูมิใจของชนชาวเชียงใหม่อีกประการหนึ่งนั่นคือ ความสวยงามด้านสถาปัตยกรรมที่มีคุณค่าของพระตำหนักดาราภิรมย์ ที่ได้จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ส่วนพระองค์ไว้ตามห้องต่าง ๆ อย่างน่าชม เช่นห้องบรรทม ห้องพักผ่อน ห้องจัดแสดงพระกรณียกิจ ห้องสรง ส่วนชั้นล่างจัดแสดงเครื่องมือทางการเกษตรและเครื่องทอผ้า ซึ่งเปิดให้ท่านได้เข้าชมและมาเยี่ยมเยือนทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 9.00 – 17.00 น. นอกจากนั้นยังได้จัดจำหน่ายของที่ระลึกอันเกี่ยวเนื่องกับพระราชชายาเจ้าดารารัศมีไว้จำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวได้หาซื้อในราคาย่อมเยาอีกด้วย.

บทความโดย : จักรพงษ์ คำบุญเรือง

ร่วมแสดงความคิดเห็น