โค้ชโต่ยหามือขวาใหม่ มาแทนโค้ชโชค ที่ไม่ผ่าน เกณฑ์ของ เอไลเซนส์

ต้องถอยออกมาก่อน โค้ชโชค’ถอยเป็นสตาฟฟ์ตามกฎAFC เผยเกณฑ์สำคัญตั้ง “โค้ชโต่ย” คุมช้างศึกยาวต่อจากคิงส์คัพ แม้ยังไม่จบโปรไลเซนส์ แต่ต้องผ่าน “ครึ่งทาง” ให้ได้ จึงมีโอกาสที่ “เอเอฟซี” อนุมัติกรณีพิเศษ แต่ต้องหาผู้สวมบทบาท “มือขวา” คนใหม่ เพราะ “โค้ชโชค” ยังไม่ผ่านเกณฑ์เอไลเซนส์ ต้องถอยไปเป็น “แบ๊กอัพ”

จันทร์ที่ 22 เมษายน 2562 ตามที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ประกาศแต่งตั้งโค้ชทีมชาติไทย ลุยศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ที่จะเตะในเดือน มิ.ย.นี้ ที่ จ.บุรีรัมย์ โดย “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน และ “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ เป็นผู้ช่วย

ขณะที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ ระบุเพิ่มเติมว่า มีโอกาสที่จะให้ โค้ชโต่ย เป็นเฮดโค้ชช้างศึกต่อเนื่อง แม้เจ้าตัวยังอยู่ระหว่างอบรมโปรไลเซนส์ ยังไม่จบอบรมตามเกณฑ์ของ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย(เอเอฟซี) แต่หากจบช่วงที่ 2 (โมดุล 2 จากตลอดคอร์สมี 4 โมดุล) สามารถเสนอต่อ เอเอฟซี พิจารณาอนุญาต โดยหลังคิงส์คัพ จะมีฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกรออยู่ในเดือน ก.ย.

นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศ และรองโฆษกสมาคมฯ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกับทีมข่าวกีฬาเดลินิวส์ ระบุว่า เรื่องที่จะขออนุญาต เอเอฟซี เพื่อแต่งตั้งคุมต่อเนื่อง แม้จะยังไม่จบโปรไลเซนส์นั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ โค้ชโต่ย ต้องสำเร็จโมดุล 2 ที่จะเสร็จสิ้นก่อนศึกคิงส์คัพ จากนั้นจะยื่นขอเป็นกรณีพิเศษไปยังเอเอฟซี ทั้งนี้ประเทศไทย เพิ่งมีการอบรมโปรไลเซนส์แค่ 1-2 ปี มีผู้จบแค่ประมาณ 20 คน ซึ่งนี่เป็นจุดที่เอเอฟซีจะอนุโลมให้ได้ ทว่า

“ตอนนี้ถือว่าโค้ชโต่ย เป็นโค้ชทีมชาติไทยเต็มตัว ไม่ใช่ชั่วคราว สมาคมฯ เห็นผลงานที่ทำมาตั้งแต่ เอเชียนคัพ 2019 อย่างไรก็ตามการจะคุมต่อเนื่องยาวนานเพียงใด ขึ้นอยู่กับผลงานอยู่แล้ว แม้โค้ชต่างชาติมาทำ ก็ต้องดูผลงานอยู่ดี” นายพาทิศ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงตำแหน่งผู้ช่วยโค้ช ซึ่งเอเอฟซีระบุว่าต้องจบ เอไลเซนส์ ทว่าปัจจุบัน โชคทวี พรหมรัตน์ จบ ซีไลเซนส์ ซึ่ง นายพาทิศ ตอบว่า กรณีทัวร์นาเมนท์สำคัญ ไม่สามารถใส่ชื่อ โชคทวี เป็นผู้ช่วยโค้ช แต่สามารถให้อยู่ในทีมสตาฟฟ์โค้ชได้ ในเกมแข่งขันจึงมีบทบาทมากไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องหาคนใหม่มาอยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยโค้ช.

ร่วมแสดงความคิดเห็น