หลังโซเซียล สงสัยรถยกสวมทะเบียน เจ้าของอู่รถยกยันหอบหลักฐานรถจดทะเบียนถูกต้องทั้ง 2 คัน ไม่มีสวม

เจ้าของอู่รถยกเชียงใหม่แจงยิบกรณีรถ2คันป้ายทะเบียนหมายเลขเดียวกัน ยอมรับผิดและขอโทษที่นำของอีกคันไปติดให้อีกคัน เนื่องจากกำลังทำป้ายใหม่แทนของเดิมที่ชำรุด พร้อมหอบหลักฐานยืนยันรถจดทะเบียนถูกต้องทั้ง2คัน ไม่มีสวมทะเบียนหรือปลอมแผ่นป้าย โดยพบ ตร.จ่ายค่าปรับและชี้แจงขนส่งแล้ว

จากกรณีที่ช่วงบ่ายวันที่ 20 เม.ย.62 เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันหลายคันซ้อนบนถนนเชียงใหม่-พร้าว ขาออกเมือง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในเขตรับผิดชอบของสถานีตำรวจภูธรแม่โจ้ โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือและตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้มีผู้บันทึกภาพบริเวณที่เกิดเหตุ รวมทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่โจ้ ได้ทำการโพสต์แจ้งเหตุดังกล่าวในเพจเฟซบุ๊ค “สถานีตำรวจภูธรแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่” ด้วย อย่างไรก็ตามปรากฏว่ามีผู้ใช้โซเชียลมีเดียสังเกตเห็นว่าในภาพมีรถยนต์กระบะ 2 คัน ที่มีหมายเลขทะเบียน กธ 89 เชียงใหม่ เหมือนกัน โดยคันหนึ่งเป็นรถกระบะสีเงิน ยี่ห้อนิสสัน และอีกคันเป็นรถกระบะเหมือนรถตำรวจ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากถึงความผิดปกติ ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่ารถกระบะทั้ง 2 คัน เป็นรถยกของเอกชน

วันนี้(22 เม.ย.62) นางสายทอง แฮร์โบลด์ อายุ 49 ปี เจ้าของอู่รุ่งเรืองบุญทวีและเจ้าของรถยก เปิดเผยพร้อมเอกสารหลักฐานทะเบียนรถว่า รถยนต์ที่เป็นรถยกทั้ง 2 คัน เป็นของตัวเอง รวมทั้งเป็นรถที่มีทะเบียนและครอบครองถูกต้องตามกฎหมาย และป้ายทะเบียนที่ใช้ก็ไม่ได้เป็นป้ายทะเบียนปลอมหรือเป็นการสวมทะเบียนแต่อย่างใด ซึ่งมีเอกสารหลักฐานครบถ้วนทั้งหมด อย่างไรก็ตามยอมรับผิดว่ามีการนำป้ายทะเบียนของรถอีกคันหนึ่งไปติดที่รถอีกคันหนึ่ง โดยป้ายหมายเลขทะเบียน กธ 89 เชียงใหม่ นั้น ที่จริงแล้วเป็นของรถยกยี่ห้อมิตซูบิชิ ที่ดูคล้ายรถตำรวจ เพราะเป็นรถที่ประมูลมาจากรถปลดประจำการตั้งแต่ปี 2552 แล้วนำมาดัดแปลงเป็นรถยก พร้อมจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนรถยี่ห้อนิสสัน เป็นรถที่เพิ่งซื้อมาใหม่เมื่อปลายปีที่แล้ว และแจ้งป้ายทะเบียนชำรุดเพื่อขอทำใหม่กับทางสำนักขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอออกป้ายทะเบียนใหม่ ซึ่งสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ทำให้แล้วแต่ยังไม่ได้ไปรับมา

โดยในช่วงที่ผ่านมาได้นำป้ายหมายเลขทะเบียน กธ 89 เชียงใหม่ อีกแผ่นหนึ่งของรถยกยี่ห้อมิตซูบิชิ ไปติดให้กับรถยกยี่ห้อนิสัน เวลาที่จะนำออกไปใช้ทำงานเคลื่อนย้ายรถที่เกิดอุบัติเหตุตามที่ต่างๆ ระหว่างที่ยังไม่ได้รับแผ่นป้ายใหม่ เนื่องจากเป็นกังวลและเลี่ยงปัญหาการถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ ซึ่งยอมรับว่าผิดแต่ทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไม่มีเจตนาจะกระทำผิดกฎหมาย เพราะคิดว่ารถทั้ง 2 คันเป็นของตัวเองและเป็นรถที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมด จึงไม่น่าจะมีปัญหาใด จนกระทั่งวันที่ 20 เม.ย.62 ที่เกิดอุบัติเหตุรถชนกันหลายคัน ได้รับประสานให้ไปช่วยเคลื่อนย้ายรถที่จุดเกิดเหตุดังกล่าว จึงรีบออกไปทันทีและไม่คาดคิดว่าจะกลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักขึ้นมา โดยเฉพาะการกล่าวหาว่าใช้ทะเบียนปลอมหรือสวมทะเบียน ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้สวมทะเบียนและป้ายทะเบียนเป็นของจริง เพียงแต่มีการนำไปติดให้กับรถอีกคันหนึ่งเท่านั้น

ทั้งนี้นางสายทอง บอกว่า ยอมรับผิดและขอโทษสังคมต่อสิ่งที่ทำลงไปจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โต รวมทั้ง ซึ่งวานนี้(21 เม.ย.62) ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่โจ้ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ใช้เครื่องหมายที่นายทะเบียนออกให้สำหรับรถคันหนึ่งกับรถอีกคันหนึ่ง และเสียค่าปรับจำนวน 1,000 บาท ไปแล้ว ขณะที่วันนี้(22 เม.ย.62) ได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อชี้แจงแล้วด้วย ซึ่งหลังจากนี้จะทำทุกอย่างให้ถูกต้องเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีก ส่วนที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ทะเบียน กธ 89 เชียงใหม่ นั้น เป็นเลขทะเบียนสวยแต่มาใช้กับรถยกได้อย่างไรนั้น ทะเบียนดังกล่าวตัวเองได้มาจากรถยนต์เก่าที่ซื้อไว้ใช้เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งรถคันนั้นจดทะเบียนเมื่อปี พ.ศ.2539 โดยที่ในสมัยนั้นเลขดังกล่าวอาจจะยังไม่เป็นเลขสวยต้องประมูลเหมือนปัจจุบัน ต่อมาปี พ.ศ 2561ได้ขายรถยนต์คันดังกล่าวไป จึงทำเรื่องที่สำนักงานขนส่งขออนุญาตสลับหมายเลขกับรถยกยี่ห้อมิตซูบิชิอย่างถูกต้อง เพราะต้องการจะเก็บหมายเลขทะเบียนดังกล่าวไว้ และใช้มาตลอดถึงปัจจุบัน ซึ่งไม่ได้เป็นการทำป้ายทะเบียนปลอมหรือสวมทะเบียนแต่อย่างใด.

ร่วมแสดงความคิดเห็น