เช่าโกดังย่านเชียงใหม่ ขน-ส่ง ยาเสพติดข้ามชาติ ไทย-ไต้หวัน ตร.ตามยึดของกลาง เคตามีน 50 กก. มูลค่ากว่า 125 ล้าน พร้อมผู้ต้องหา 4 คน

รอง ผบ.ตร. เปิดแถลงรวบขบวนการยาเสพติดข้ามชาติ เช่าโกดัง ย่านเชียงใหม่ เป็นจุดแพ็คส่งสินค้า ยึดของกลาง เคตามีน 50 กก. มูลค่ากว่า 125 ล้าน พร้อมผู้ต้องหาชาวไทย และไต้หวัน 4 คน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 พ.ค.62 ที่โกดังสินค้า เลขที่ 308 ม.1 ถนนวงแหวนรอบกลาง ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รอง ผวจ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 , สำนักปราบปราบยาเสพติด และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดข้ามชาติ รายสำคัญ จำนวน 4 คน ประกอบด้วยผู้ต้องหาชาวไทย 2 คน ทราบชื่อคือ นายภูสิงห์ ภูมิรุ่งวิกรัย อายุ 34 ปี ที่อยู่ 141/116 หมู่ 3 ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ , น.ส.ศิริพร ศิริไพรวงศ์ อายุ 28 ปี ที่อยู่ 66/5 หมู่ 13 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาวต่างชาติ จำนวน 2 คน คือ Mr.Yang chih kal สัญชาติไต้หวัน อายุ 34 ปี และ Mr.Kao wei chih สัญชาติไต้หวัน อายุ 32 ปี
นอกจากนี้ ได้ดำเนินการตรวจยึดของกลางเป็น วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 (เคตามีน) ชนิดผงสีขาว จำนวนประมาณ 50 กิโลกรัม , กระเป๋าเสื้อผ้า ขนาดใหญ่ สีดำ จำนวน 1 ใบ , ตู้ลำโพง ขนาดกลาง ยี่ห้อยามาฮ่า จำนวน 5 ตู้ , รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน งบ-6668 เชียงใหม่ จำนวน 1 คัน ,รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีเทา ทะเบียน งจ-6518 เชียงใหม่ จำนวน 1 คัน , รถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ต-8763 กทม. จำนวน 1 คัน และโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาทั้งหมด 5 เครื่อง ดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกัน ผลิต และ มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย”

 

โดยทาง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า การจับกุมผู้ต้องหาและของกลางในครั้งนี้ ถือเป็นคดีสำคัญอีกคดีหนึ่ง เนื่องจากเป็นขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ที่มีการทำงานร่วมกัน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.และ ป.ป.ส. ได้ทำการสืบสวนติดตามเบาะแสมาอย่างต่อเนื่อง จนทราบว่า มีนักค้ายาเสพติดชาวไต้หวัน ร่วมกับคนไทย ลักลอบส่งยาเสพติดโดยซุกซ่อนในเครื่องสำอาง หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปประเทศไต้หวัน ผ่านบริษัทขนส่งสินค้า จึงได้ร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ป.ป.ส., หน่วยปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา ประจำ จ.เชียงใหม่ (DEA) , หน่วยสืบสวนพิเศษไต้หวัน( MJIB TAIWAN) และหน่วยกำลังในพื้นที่เพื่อวางแผนการสืบสวน
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 พ.ค.62 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน พบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าว มีความเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติ โดยมีการพบปะกันหลายครั้งและแยกย้ายกัน ชุดสืบสวนจึงได้เฝ้าติดตามพฤติการณ์ จนกระทั่งในช่วงเย็นเวลาประมาณ 17.00 น. พบว่า น.ส.ศิริพร ศิริไพรวงศ์ ขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ต-8763 กทม. เข้าไปที่โกดังสินค้า อาคาร A ถนนวงแหวนรอบกลาง ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ และมีการยกกระเป๋าลักษณะมีน้ำหนักลงจากรถ และนำเข้าไปเก็บไว้ในโกดัง โดยมี นายภูสิงห์ ภูมิรุ่งวิกรัย คอยคุมเชิงอยู่ด้านนอก ต่อมามีชายชาวไต้หวัน 2 คน จึงเชื่อว่ามีการลักลอบนำยาเสพติดเข้าไปเก็บในโกดัง จึงได้มีการจับตาเฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งมั่นใจแล้วและได้มีการขอหมายค้นจากศาล จ.เชียงใหม่ เข้าตรวจค้นภายในโกดังต้องสงสัยดังกล่าว
โดยผลการตรวจค้นพบวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 (เคตามีน) ชนิดผงสีขาว จำนวนประมาณ 50 กิโลกรัม อยู่ภายในโกดัง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ซึ่งเป็นชาวไทย 2 คน และชาวไต้หวัน 2 คน ในเวลาเดียวกัน และจากการสอบถามทางผู้ต้องหาชาวไต้หวันทั้ง 2 คน ทราบว่า มีหน้าที่เป็นคนบรรจุของกลางทั้งหมด จากนั้นจะทำการนำไปซุกซ่อนในตู้ลำโพงขนาดใหญ่ และนำส่งออกทางบริษัทรับส่งสินค้าไปประเทศไต้หวัน ส่วนจะจัดส่งไปที่ไหนนั้นก็ไม่ทราบ ซึ่งเมื่อหากสามารถส่งของทั้งหมดได้แล้ว ก็จะเดินทางกลับประเทศ และไปรับค่าจ้างจากผู้ว่าจ้าง คิดเป็นเงินไทยประมาณ 200,000 บาท แต่เพิ่งมาทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก และถูกจับกุมได้ก่อนจะส่งของทั้งหมด

ส่วน นายภูสิงห์ ภูมิรุ่งวิกรัย มีหน้าที่เป็นผู้ติดต่อซื้อยาเสพติดทั้งหมดมาจากกลุ่มชาวเขา ก่อนจะทำการสางให้ทาง น.ส.ศิริพร ศิริไพรวงศ์ ลำเลียงยาเสพติดมาเก็บไว้ในโกดัง อย่างไรก็ตามจากการจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าจะมีตัวขบวนการรายใหญ่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งจะต้องมีการสอบสวนผู้ต้องหาอย่างละเอียด และขยายผลการจับกุมต่อไป ส่วนของกลางที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดในครั้งนี้ มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 125 ล้านบาท

ร่วมแสดงความคิดเห็น