กรมอนามัย แนะนักวิ่งมาราธอน เตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนแข่ง ย้ำผู้จัดงานยึดปฏิบัติตามคู่มือ สหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ

พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยสนับสนุนให้ประชาชน ทุกเพศ ทุกวัย มีกิจกรรมทางกายในชีวิตประจำวัน โดยการวิ่งมาราธอนเป็นหนึ่งในรูปแบบการมีกิจกรรม ทางกาย ซึ่งมีการออกแบบให้มีการวิ่งต่อเนื่องในระยะทางไกล นักวิ่งจำเป็นต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนแข่ง ผ่านการฝึกซ้อมอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ร่างกายมีการปรับตัวให้พร้อม กับกิจกรรมทางกายที่มีความเข้มข้นสูงและระยะเวลานาน หากร่างกายไม่พร้อม จะทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบไหลเวียนโลหิตและหายใจ รวมทั้งระบบกล้ามเนื้อ โดยจะมีอาการหน้ามืด หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก เจ็บกล้ามเนื้อ รวมถึงหมดสติ และหัวใจหยุดเต้นได้ นักวิ่งจึงควรเตรียมตัวและอุปกรณ์ป้องกันแสงแดด เช่น หมวก แว่นตากันแดด ครีมกันแดด ไว้กับตัวด้วย
​พญ.พรรณพิมล กล่าวต่อไปว่า การวิ่งมาราธอนในระดับโลกนั้น สหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ (International Association of Athletics Federations: IAFF) ได้จัดทำมาตรฐานการ จัดกิจกรรมวิ่งประเภทถนน โดยเน้นที่การออกแบบการแข่งขัน ทั้งการวางเส้นทาง ความปลอดภัย จัดให้มีน้ำดื่มและอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกกับผู้เข้าร่วมการแข่งขัน สำหรับในส่วนของประเทศไทย พบว่าได้มีการนำมาพัฒนาต่อยอด โดยคณะกรรมการมาตรฐานการจัดงานวิ่งไทย ด้วยการสนับสนุนจากสมาพันธ์ ชมรมเดิน-วิ่ง เพื่อสุขภาพไทย สสส. และสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 และปรับปรุงในปี พ.ศ. 2562 ซึ่งในคู่มือได้ระบุการจัดกิจกรรมวิ่งประเภทถนนไว้ชัดเจน ว่าการจัดการแข่งขัน วิ่งมาราธอนต้องมีหน่วยแพทย์ รถพยาบาล ประจำตลอดการแข่งขัน รวมถึงจุดปฐมพยาบาลตลอดเส้นทางการแข่งขัน โดยเฉพาะตำแหน่งที่มีความเสี่ยงสูง ว่าอาจมีผู้บาดเจ็บ หรือตำแหน่งที่ยากต่อการเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล​
​“นอกจากนี้ จุดบริการปฐมพยาบาลหลัก ควรมีเครื่องมือและบุคลากรเทียบเท่ากับจุดให้บริการทางการแพทย์หลังเส้นชัย จุดบริการปฐมพยาบาลระดับรองลงไป ควรตั้งอยู่คู่กับจุดให้น้ำ เพื่อปฐมพยาบาลและช่วยให้นักวิ่งคลายความไม่สบายกายเล็กๆน้อยๆ เช่น อาการพองและเสียดสี และเพื่อขนย้ายผู้ป่วยที่มีอาการหนัก ไปยังสถานที่ซึ่งมีอุปกรณ์รองรับที่เหมาะสมต่อไป โดยควรมีจุดบริการปฐมพยาบาลทุก 5 กิโลเมตร และตั้งอยู่ในระยะประมาณ 100 เมตร หลังจากจุดให้น้ำ ทั้งนี้ ขอให้ผู้จัดงานวิ่งมาราธอนได้ยึดถือแนวทางปฏิบัติตามคู่มือสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมกิจกรรม” อธิบดี กรมอนามัย กล่าวในที่สุด

ร่วมแสดงความคิดเห็น