อากาศร้อนจัด!! ลิ้นจี่ของเกษตรกรในพื้นที่อ.แม่ใจ จ.พะเยา ได้รับความเสียหายหนัก ทั้งลูกเล็กและมีผิวแตกช้ำ

อากาศที่ร้อนจัดส่งผลกระทบทำให้ลิ้นจี่ของเกษตรกรในพื้นที่อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา ได้รับความเสียหายหนักโดยผลผลิตลดลงรวมทั้งลูกเล็กและมีผิวแตกช้ำ เป็นจำนวนมาก ขณะที่เกษตรจังหวัด ระบุว่า ผลผลิตลิ้นจี่ในปีนี้ลดลงมากกว่า 40% และต่อไปคงต้องให้เกษตรกรพัฒนาคุณภาพของผลผลิตลิ้นจี่ ในรูปเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อชดเชยความเสียหาย

ผลผลิตลิ้นจี่ จำนวนมากของเกษตรกรในพื้นที่หมู่ที่ 8 ตำบลศรีถ้อย อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา ที่มีสภาพแตกและผิวมีรอยช้ำไหม้ เป็นจำนวนมาก เนื่องจากผลกระทบจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดในปีนี้ ส่งผลกระทบทำให้ผลผลิตลิ้นจี่มีผลผลิตที่ลดลง มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งขนาดของผลลิ้นจี่ก็มีขนาดเล็กลง และอยู่ในสภาพความเสียหายเป็นจำนวนมาก
โดยนางนางศรีวรรณ อุดตามะรัง เกษตรกรผู้ปลูกลิ้นจี่ ในพื้นที่หมู่ที่ 8 ตำบลศรีถ้อย อำเภอแม่ใจจังหวัดพะเยา ระบุว่า ในปีนี้ผลผลิตลิ้นจี่ของตนเองนั้นได้รับผลกระทบอย่างหนักเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดของปีนี้ ทำให้ผลผลิตลดลงมากกว่าครึ่งและผลผลิตที่ได้รับก็เกิดการแตกรวมทั้งผิวของลิ้นจี่ เกิดการไหม้ช้ำ และนำไปจำหน่ายในราคาที่ถูกเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้ผลผลิตลิ้นจี่ที่มีผิวไหม้ช้ำจากสภาพอากาศ ราคาเหลือเพียงกิโลกรัมละ 8 บาท ขณะที่ลิ้นจี่ที่สามารถคัดคุณภาพได้ก็อยู่ในราคากิโลกรัมละ 25 บาท ซึ่งในปีที่ผ่านมาในช่วงระยะเวลานี้ผลผลิตลิ้นจี่ดังกล่าว จะมีราคามากกว่า 35 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งผลผลิตในปีนี้ถือว่าทำให้ประสบกับภาวะขาดทุน เนื่องจากผลผลิตส่วนใหญ่ได้รับความเสียหายจากสภาพอากาศที่ร้อนและแสงแดดแรงจ้า จึงทำให้ผลผลิตส่วนใหญ่ได้รับความเสียหายแทบทุกรายในพื้นที่

ขณะที่นายนาวิน อินทจักร เกษตรจังหวัดพะเยา ระบุว่า ในพื้นที่จังหวัดพะเยามีพื้นที่ปลูกลิ้นจี่จำนวน 14,000 ไร่ ซึ่งคาดการณ์ผลผลิตไว้ ประมาณ 7,000 ตัน แต่พบว่าในปีนี้มีสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้ผลผลิตลดลงเหลือเพียงประมาณ 4,000 กว่าตัน ซึ่งต่อไปเกษตรกรต้องทำการปรับตัวเพื่อที่จะทำการผลิตลิ้นจี่คุณภาพที่ สามารถชดเชยผลผลิตที่เสียหายได้ ซึ่งทางเกษตรจังหวัดได้มีการส่งเสริมอยู่ แต่ในขณะนี้มีเพียง 10% เท่านั้นของเกษตรกรที่เข้าสู่ระบบการผลิตลิ้นจี่คุณภาพ และต่อไปต้องขยายพื้นที่ให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อลดปัญหาความเสียหายดังกล่าว และความเสียหายดังกล่าวนั้นถือว่าไม่ได้เป็นการประสบภัยพิบัติ แต่เป็นความเสียหายเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ซึ่งตรงนี้ต่อไปจะถือเป็นการที่จะพัฒนาให้เกษตรกรใช้กระบวนการผลิตแบบเกษตรแปลงใหญ่ที่สามารถควบคุมคุณภาพได้ และลดการเสียหายดังกล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น