วันนี้ (15 พฤษภาคม 2562) พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิโครง การหลวง ได้เดินทางไป จ.เชียงใหม่ เพื่อประชุมคณะกรรมการกลั่นกรอง และขับเคลื่อนการปฏิบัติงานตามนโยบาย ครั้งที่ 8/ 2562 ณ ห้องดอยคำ อาคารฝึกอบรม สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์ การมหาชน) เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวง ให้เป็นไปตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระราชปณิธาน สืบสาน รักษา ต่อยอดงานของมูลนิธิโครงการหลวง ให้มีความต่อเนื่อง มั่นคง และยั่งยืน นับเป็นมรดกสำคัญที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานไว้
เวลา 09.00 น. องคมนตรี ประธานคณะกรรรมการบริหาร มูลนิธิโครงการหลวง ได้เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง และขับเคลื่อนการปฏิบัติงาน ตามนโยบายของมูลนิธิโครงการหลวง พร้อมทั้งติดตามความคืบหน้าการดำเนิน และให้นโยบายการทำงานแก่คณะอนุกรรมการฯ รวมทั้งสิ้น 22 คน โดยมีประเด็นสำคัญในการประชุมได้แก่ การปรับแผนยุทธศาสตร์มูลนิธิโครงการหลวง ระยะ 4 ปี (พ.ศ. 2562-2565) ซึ่งอยู่ระหว่างการทบทวนรายละเอียด ในยุทธศาสตร์มูลนิธิโครงการหลวง 6 ยุทธ ศาสตร์
ได้แก่ 1) ยุทธศาสตร์การวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ และการสร้างนวัตกรรม ที่เหมาะสมต่อการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างมั่นคงและยั่งยืน 2) ยุทธศาสตร์การพัฒนาอาชีพบนฐานความรู้ ที่เหมาะสมต่อสภาพภูมิสังคม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชนโครงการหลวง ให้สามารถพึ่งตนเองและเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ 4) ยุทธศาสตร์การฟื้นฟู และรักษาสิ่งแวดล้อมในชุมชน และป่าต้นน้ำลำธารให้มีความสมบูรณ์ 5) ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการการตลาด เพื่อสังคม และ 6) ยุทธศาสตร์การพัฒนามูลนิธิโครงการหลวง เป็นองค์กรที่มีคุณธรรม มีระบบปฏิบัติงานที่ดีและมีความยั่งยืน
รวมถึงการจัดทำแผนกลยุทธ์ การดำเนินงานของหน่วยปฏิบัติย่อย เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินให้บรรลุเป้าหมาย ของแผนยุทธศาสตร์มูลนิธิโครงการหลวง การพิจารณาส่งมอบต้นพันธุ์กุหลาบพันปี จำนวน 16 ชนิด แบ่งเป็นกลุ่มพันธุ์ท้องถิ่น 6 ชนิด และพันธุ์ต่างประเทศ 10 ชนิด รวมทั้งสิ้น 163,929 ต้น แก่ศูนย์ฯ/สถานีฯ โครงการหลวง โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง และหน่วยจัดการต้นน้ำแม่กลาง สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสม และมีความพร้อมในการปลูกและดูแลรักษาต้นกุหลาบพันปี เพื่อนำไปอนุรักษ์ และเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพันธุ์พืชต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้รับฟังรายงานผลการเข้าร่วมประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ด้านการพัฒนาทางเลือกจากประเทศสมาชิก ในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และพัฒนายุทธศาสตร์ เพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการโครงการ ซึ่งจัดขึ้นโดย UNODC เมื่อวันที่ 6 – 10 พฤษภาคม 2562 ณ เมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว ที่ประชุม UNODC ได้รายงานตัวเลขพื้นที่ปลูกฝิ่น จากการสำรวจระหว่างปี 2560-2561 พบว่า พื้นที่ปลูกฝิ่นแหล่งใหญ่ที่สุดของโลก ยังคงเป็นอัฟกานิสถาน มีพื้นที่ปลูกฝิ่นเพิ่มขึ้น 63% รองลงมา คือ เมียนมา ที่มีพื้นที่ปลูกฝิ่นลดลง 10%
ในการประชุมครั้งนี้ ผู้แทนของมูลนิธิโครงการหลวง คือ รศ.ธีระ วิสิทธิ์พานิช พร้อมด้วยผู้แทนสถาบัน วิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง ยังได้บรรยายสรุปความเป็นมา และการดำเนินงานตามแนวทางพระราชทาน ในการปลูกพืชทดแทนฝิ่นของโครงการหลวง ในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา และเชิญชวนผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ เข้าร่วมการประชุมวิชาการนานาชาติ ที่โครงการหลวง และ สวพส. จะจัดขึ้นในเดือนธันวาคม ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่ ซึ่งผลงานของโครงการหลวงนั้น ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งประกอบด้วย ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ UNODC ประจำสำนักงานกรุงเทพฯ สำนักงานใหญ่ ณ กรุงเวียนนา เมียนมา สปป.ลาว รวมทั้งผู้แทนจากประเทศกัมพูชา และจีน เป็นอย่างมาก
ร่วมแสดงความคิดเห็น