303

ยี่เป็งจบ ดราม่าไม่จบ โซเชียลจวกยับ ภาพซากไฟแห่งความสุข

ยี่เป็งจบแล้ว แต่ความงดงามของเมืองเชียงใหม่ยังไม่จบเพื่อเป็นการต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยว เทศบาลนครเชียงใหม่จะเปิดไฟประดับถนนท่าแพในวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ของทุกสัปดาห์ เวลา 18.00 – 02.00 น. แถม ขยายเวลาเก็บภาพความประทับใจของไฟประดับถนนท่าแพ ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความสวยงามของแสงไฟท่ามกลางลมหนาวของเมืองเชียงใหม่ จนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 แต่หลังจากเทศกาลแห่งสีสันจบไป เชียงใหม่ก็กำลังจะเริ่มต้นเทศกาลใหม่ๆ แต่ใครขะไปรู้ ว่าแสงไฟอันสวยงามที่ดับลงนั้น ถูกจบลงที่ไหน ? หากไม่ได้ทำหน้าที่ประดับตกแต่งให้สวยงามแล้ว วันนี้ (17 พ.ค.67) โซเชียลแชร์กันสนั่น เมื่อบังเอิญมีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่ง เผยภาพซากแห่งความสุข เป็นโครงไฟต่างๆ คล้ายคุ้นกับที่เคยเห็นในช่วงเทศกาล แต่ใช่หรือไม่ ก็คงต้องใช้สายตาเทียบกันเอาเองว่าคุ้นหรือไม่ งานนี้โดนวิจารณ์กันล้นหลาม ว่าเสียดายงบประมาณและเสียดายอุปกรณ์ต่างๆ ที่ทุ่มทุนไปกว่า 10 ล้านบาท แต่วันนี้อยู่ในสภาพตากแดด ตากฝนที่ตกลงมา ถ้าจะให้เชียงใหม่นิวส์เล่า หรือนำข้อความทั้งหมดมานำเสนอก็คงจะไม่หมด เพราะหลายคนก็แชร์กันไปสามร้อยกว่าแชร์แล้ว ไปในทางเดียวกัน ในขณะที่ผู้สื่อข่าวเชียงใหม่นิวส์ ลงพื้นที่ตรวจสอบ เวลา 15.00 น. (17 พ.ค.67) พบเจ้าหน้าที่กำลังรื้อโครงสร้างดังกล่าว และกำลังทำความสะอาดบริเวณด้านหลัง สวนหลวง ร.9 […]

แฉอีก ตุ๊กๆ เชียงใหม่ แพงไปไหม ใกล้แค่ 3 นาที ร้อยบาท

หลังจากข่าวตุ๊กตุ๊กไทยแลนด์ ที่กรุงเทพฯมหานคร ได้เป็นกระแสอย่างต่อเนื่อง จากชาวญี่ปุ่นที่โดนขูดเลือดขูดเนื้อ ฟันราคาไป 6,000 บาท ทำเอาคนแห่คอมเมนต์วิจารณ์ยับเอาเปรียบต่างชาติกันสนั่นโลกออนไลน์ หนึ่งในคอมเมนต์ที่ชาวโซเชียลแสดงความคิดเห็นถึงจังหวัดเชียงใหม่ด้วยเช่นกัน แม้ว่าเรื่องราวของรถแดง ยังกระฉ่อนไม่หาย เรื่องใหม่ก็แฉกันต่อแบบชัดๆ แม้จะมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปจัดการหลายครั้ง แต่ประเด็นดังกล่าวก็มีมาให้เห็นเรื่อยๆ โดยโพสต์ดังกล่าว บอกว่า เป็นเหมือนโรคร้ายที่เหมือนกันทั้งประเทศครับ ที่เชียงใหม่ก็ใช่ย่อย ผมไปยืนรอเพื่อนมารับ ระหว่างรอก็มีตุ๊กๆ เข้ามาถามจะไปไหน แต่ผมไม่ไป แกเลยจอดรถผู้โดยสาร มีผู้โดยสารชาวต่างชาติมาถามจะไปวัดพระสิงห์ จะจากจุดที่ขึ้นระยะทางแค่นี้ ตุ๊กๆ จะเอา 100 บาท นักท่องเที่ยวเดินหนีเลยครับ แล้วแกก้บ่นว่าเป็นเพราะแกร๊ปที่ทำให้ไม่มีคนขึ้น นั่นไง ยังบะฮู้ตั๋วป้อ ซึ่งภายหลังโพสต์นี้ได้แพร่ออกไป ก็มีคอมเมนต์ต่างมาตอกย้ำอีกว่า….สงสัยอยากตามรอยรถแดงเชียงใหม่,พอเขานั่งแกร็ปก็บ่นอีก และอื่นๆอีกมากมาย อย่างไรก็ตาม ผู้โพสต์ได้แนบภาพระยะทางไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตรเป็นแผนที่ให้เห็นได้ชัด เกิดคำถามว่าราคาแพงไปหรือเปล่า

พายุสุริยะ เยือนโลกสุดสัปดาห์นี้ ใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปี

แจ้งเตือน พายุสุริยะที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปีจะมาเยือนโลกสุดสัปดาห์นี้ แต่ไม่เป็นอันตราย ผู้สังเกตในละติจูดสูงเตรียมพบกับออโรร่า วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม 2024 NOAA ได้แจ้งเตือนถึงการตรวจพบพายุสุริยะที่มีความรุนแรงระดับ G4 ต่อมาได้ยกระดับพายุขึ้นเป็นระดับ G5 ซึ่งเป็นระดับความรุนแรงของพายุสุริยะที่สูงที่สุด สำหรับประเทศไทย ด้วยตำแหน่งที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรจึงทำให้ประเทศไทยของเราถูกปกป้องโดยสนามแม่เหล็กโลกเป็นอย่างดี พายุสุริยะในครั้งนี้จึงแทบไม่มีผลกระทบอย่างใด อย่างไรก็ตาม คนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศแถบละติจูดสูงอาจจะสามารถสังเกตการณ์แสงออโรร่าได้ตลอดช่วงสุดสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม พายุสุริยะอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่อาจจะอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของสนามไฟฟ้า เช่น ดาวเทียมสื่อสารที่โคจรอยู่เหนือชั้นบรรยากาศของโลก และในบางครั้งอาจจะส่งผลกระทบต่อกริดจ่ายไฟฟ้าภาคพื้นโลก สำหรับประเทศที่อยู่ในละติจูดสูง เช่นพายุสุริยะ G5 ที่เกิดขึ้นในปี 2003 นั้นส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับชั่วคราวในประเทศสวีเดน และสร้างความเสียหายให้กับหม้อแปลงไฟฟ้าบางส่วนในอาฟริกาใต้ ทั้งนี้ พายุสุริยะนั้นเกิดขึ้นจากการปลดปล่อยมวลจากดวงอาทิตย์ (Coronal Mass Ejection: CME) มวลจากดวงอาทิตย์เหล่านี้เกิดขึ้นจากอนุภาคมีประจุ ซึ่งเมื่ออนุภาคมีประจุเหล่านี้เกิดการเคลื่อนที่ อาจจะส่งผลรบกวน และเบี่ยงเบนสนามแม่เหล็กของโลก เมื่อสนามแม่เหล็กของโลกเกิดการรบกวน จะทำให้อนุภาคบางส่วนสามารถเข้ามายังชั้นบรรยากาศด้านบนของโลกได้ เกิดเป็นแสงเหนือ-แสงใต้ ที่เราเรียกกันว่า “แสงออโรร่า”

รื้อแล้วหลังดราม่าถล่มยับ เสวียนปลูกต้นไม้บนถนนกลางเมืองลำพูน

ผู้สื่อข่าวเชียงใหม่นิวส์ รายงานเทศบาลฯส่งคนลุยรื้อเรียบแล้วหลังโดนวิจารณ์ โครงการวางเสวียนปลูกต้นไม้บนถนนกลางเมืองลำพูน เขตเทศบาลเมืองลำพูน ต.ในเมือง อ.เมืองลำพูน ด้านหลังวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ตลอดสายยาวกว่า 200 เมตร และเมื่อเรื่องราวถูกนำไปโพสต์เผยแพร่ในโซเชียลฯ ทำให้ชาวลำพูนต่างก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก ล่าสุดวันนี้(10 พ.ค.) โครงการดังกล่าวต้องยุติเพราะทานกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไม่ไหว โดยเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเมืองลำพูน ได้มาทำการรื้อเสวียน-ต้นไม้ ที่อยู่กลางถนนออก และทำการปลูกไม้ดอกไม้ประดับที่ริมถนนแทนดังกล่าว ทั้งนี้  บ้างก็บอกว่าไม่ถูกต้องไม่เหมาะสม บ้างก็บอกว่าความคิดใคร ถามคนลำพูนหรือยัง บ้างก็บอกว่าทำให้ถนนแคบและกีดขวางการจราจร บ้างก็บอกว่าถนนเส้นดังกล่าวมีโรงเรียนอนุบาลตั้งอยู่ทำให้ผู้ปกครองเดือดร้อนในการรับส่งลูกหลาน

“เงินดิจิทัล 10,000 บาท” คลังเคาะเกณฑ์ เช็กเลย ใครมีสิทธิได้รับ

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุ ที่ประชุมคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตมีมติเห็นชอบการกำหนดรายละเอียดหลักเกณฑ์ของผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ดังนี้ อัปเดตหลักเกณฑ์ผู้มีสิทธิเงินดิจิทัล 10,000 บาท ล่าสุด เกณฑ์รายได้วัดจากฐานข้อมูลเงินได้ของกรมสรรพากร ณ ปี 2566 สิ้นสุดไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 66 กำหนดว่าจะต้องไม่เกิน 840,000 บาท

ด่วน! ไฟไหม้พื้นที่ป่าอนุรักษ์ อช.ถ้ำผาไท เสียหาย 50 ไร่

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รายงานภารกิจดับไฟป่า ที่เรียกได้ว่า ใช้ระยะเวลานานกว่า 4 ชั่วโมง ในการเข้าระงับเพลิงดังกล่าว ซึ่งนายไพโรจน์ อาจิริยะ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมไฟป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง รายงานผลการปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าของพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการเชิงพื้นที่ อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท โดยสถานีควบคุมไฟป่าพื้นที่สงวนชีวมณฑลห้วยทาก ประจำวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 เจ้าหน้าที่สถานีฯและผู้นำชุมชนและสมาชิกเครือข่ายฯ ออกปฏิบัติงานตรวจสอบการเกิดจุดความร้อน(hotspot) ระบบ Viirs ดาวเทียม suomi จำนวน 4 จุด พบไฟไหม้ป่าอยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ อช.ถ้ำผาไท พิกัด 47Q 0581219 UTM 2052409 พิกัด 47Q 0581019 UTM 2052553 พิกัด 47Q 0580655 UTM 2052479 และพิกัด 47Q 0580445 UTM 2052619 พบไฟไหม้บริเวณบ้านกลาง ม.5 […]

คมนาคมลงพื้นที่ ตรวจเส้นทางสร้างรถไฟฟ้าเชียงใหม่

วันที่ 8 มกราคม 2567 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นางสาวณภัทรา กมลรักษา ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง) นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และนายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ลงพื้นที่ตรวจราชการและติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะทางราง ทางถนน และทางอากาศ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายสาโรจน์ ต.สุวรรณ รองผู้ว่าการ (กลยุทธ์และแผน) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และคณะผู้บริหาร รฟม. ร่วมลงพื้นที่ โดยคณะได้ลงพื้นที่สำรวจแนวเส้นทางรถไฟฟ้าในอนาคต ของโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ บริเวณสถานีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสถานีศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปภาพรวมเกี่ยวกับโครงการฯ ทั้งนี้ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ เป็นการติดตามการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งระบบขนส่งทางราง ทางถนน และทางอากาศ ซึ่งนับเป็นการบูรณาการภารกิจด้านการคมนาคมขนส่ง ภายใต้กำกับของกระทรวงในทุกมิติอย่างครอบคลุม เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางและระบบขนส่งสาธารณะในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เข้าด้วยกัน อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในพื้นที่และรองรับการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในอนาคต […]

ราคาทองคำและเงินบาท ประจำวันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2567

สัปดาห์แรกของปีนี้ราคาทองคำปรับตัวลงจากแรงเทขายทำกำไรเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นจาก 2 ประเด็น 1.ตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐแข็งแกร่งเกินคาด 2. ตลาดกังวลว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยสูงยาวนานมากขึ้น ตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐฯไม่ว่าจะเป็นตัวเลขการจ้างงานเอดีพี(ADP) ที่ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี ก็ออกมาเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ประกาศคืนวันศุกร์ ออกมาเพิ่มขึ้น 216,000 ตำแหน่งมากกว่าตลาดคาดการณ์ ว่าจะเพิ่มขึ้น 168,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ 3.7%  สำหรับประเด็นที่ตลาดกังวลว่า “เฟด” จะตรึงดอกเบี้ยสูงยาวนานมากขึ้นมาจาก 2 ประเด็น ก็คือการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟด สะท้อนให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่เฟดบางท่าน บอกว่า“เฟด” อาจจะต้องตรึงดอกเบี้ยสูงอีกระยะหนึ่ง และก็ต้องรอดูตัวเลขเงินเฟ้อก่อนว่าจะลดลงหรือไม่ ส่วนประธานเฟด สาขา เรดมอนด์ ก็มีการให้สัมภาษณ์กับซี เอ็น บี ซี(CNBC) บอกว่าเฟดอาจจะขึ้นดอกเบี้ยต่อไปก็ได้ถ้าเกิดเงินเฟ้อไม่ได้ลดลง ก็เลยกลายเป็นปัจจัยลบกับทองคำ  ทางด้านกองทุน SPDR สัปดาห์แรกของปี ขายทองคำออกมา 9.51 ตัน ทองคำสปอต์ปิดตลาดวันศุกร์ที่ 2,045 ดอลลาร์ ตลอดทั้งสัปดาห์ลดลง 17 ดอลลาร์ แต่ถ้าเป็นวันศุกร์เทียบกับวันพฤหัสบดี กลับมาฟื้นตัว 2.5 ดอลลาร์ มีแรงซื้อกลับเข้ามาหลังจากที่ตัวเลขภาคการบริการออกมาย่ำแย่ ดัชนีไอเอสเอ็ม(ISM) ภาคการบริการออกมาลดลงต่ำกว่าที่ตลาดการคาดการณ์ไว้มากก็เลยทำให้มีแรงซื้อทองคำกลับเข้ามา  สัปดาห์นี้ประเด็นที่ต้องติดตาม 3 ประเด็น คือ 1. เงินเฟ้อสหรัฐแล้วก็จีน เดือน ธันวาคม  2. การแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด  3. การเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันในวันเสาร์ เงินเฟ้อของสหรัฐฯจะประกาศซีพีไอ(CPI)ในวันพฤหัสบดี แล้วก็พีพีไอ(PPI)ในวันศุกร์ อาจจะเป็นปัจจัยลบกับทองคำเพราะว่าตัวเลขอาจจะเร่งตัวสูงขึ้น ตลาดคาดการณ์ว่าตัวเลขซีพีไออาจจะเพิ่มขึ้น 3.2% แล้วก็พีพีไออาจจะเพิ่มขึ้น 1.3% หลังจากที่ เดือนก่อนหน้านี้ตัวเลขอยู่ที่ 3.1% กับ 0.9%  ส่วนการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันอาจจะเป็นปัจจัยช่วยหนุนราคาทองคำในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวลงได้  แนวโน้มราคาทองคำทางด้านเทคนิคอาจจะดูเหมือนจะไซด์เวย์มีแรงเทขายออกมาวันศุกร์ แต่ก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาลักษณะบ่งบอกว่าน่าจะเป็นไซด์เวย์ดาวน์ แนวรับ 2,030 ดอลลาร์ และ 2,024 ดอลลาร์ แนวต้าน 2,050 ดอลลาร์ และ 2,063 ดอลลาร์ สำหรับราคาทองแท่งให้ แนวรับ 33,450 บาท 33,300 บาท แนวต้าน 33,650 บาทแล้ว 33,800 บาท การลงทุนในทองแท่งรอดูว่าย่อลงมา 2,024 ดอลลาร์ ถึง 2,030 ดอลล่าร์ ทยอยสะสมมีอยู่ถือต่อไปขายทำกำไรบางส่วนได้  ส่วนโกลด์ฟิวเจอร์เก็งกำไรฝั่งซื้อ 2,030 ดอลลาร์ ตัดขายขาดทุนที่ 2,024 ดอลลาร์ […]

ส่องมาตรการ Easy E – Receipt ลดหย่อนภาษีสูงสุด 50,000 บาท

กรมสรรพากรเผยหลักเกณฑ์มาตรการ “Easy E-Receipt” ลดหย่อนสูงสุด 50,000 บาท เริ่ม 1 มกราคม 2567 ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2567 เฉพาะที่ได้รับ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt เท่านั้น ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการ Easy E-Receipt เพื่อสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศช่วงต้นปี 2567 หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการในราชอาณาจักร ตั้งแต่ 1 ม.ค. – 15 ก.พ.2567 ตามจำนวนจ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท เฉพาะที่ได้รับ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt  คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการ “Easy E-Receipt” เพื่อสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศในช่วงต้นปี 2567 ซึ่งจะเป็นแรงส่งให้เศรษฐกิจในภาพรวมขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง โดยผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล) สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการในราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 […]

ราคาทองคำประจำวันอังคาร ที่ 2 มกราคม 2567

สวัสดีปีใหม่ ปี 2567 ปีมังกรทองและหวังว่าจะเป็นปีที่ดีของทุกๆท่านหลังจากที่ปีที่แล้วเป็นปีที่ดีของทองคำทั้งทองตลาดโลก ทองแท่งในประเทศ ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำลายสถิติราคาสูงสุดเดิมที่เคยมีมา ปิดสิ้นปี ราคาทองคำตลาดโลกอยู่ที่ 2,062ดอลลาร์ ให้ผลตอบแทน 13% ส่วนทองแท่งในประเทศปิดสิ้นปี 33,650 บาท ให้ผลตอบแทนเท่ากัน 13% ปีนี้ก็คงมีคำถามว่าราคาทองคำยังปรับตัวขึ้นได้ต่อไหมจะทำลายสถิติราคาสูงสุดเดิมที่เคยมีมาได้หรือไม่ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ราคาทองคำก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำลายสถิติราคาสูงสุดเดิมที่เคยมีมาอย่างต่อเนื่อง ช่วงเกิดวิกฤตโควิด ปี 2020 ราคาทองคำทำลายสถิติราคาสูงสุดที่ 2,075 ดอลลาร์ ในวันที่ 7 สิงหาคม ปี 2022 เกิดสงครามรัสเซียยูเครนราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉียดทำลายสถิติราคาสูงสุดเดิมที่เคยมีมาที่ 2,069 ดอลลาร์ในวันที่ 8 มีนาคม  ปี 2023 ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นทำลายสถิติราคาสูงสุดเดิมที่เคยมีมา จำนวน 2 ครั้ง เกิดวิกฤติภาคธนาคารในสหรัฐฯและยุโรป แล้วก็มีการคาดการณ์ว่า “เฟด” อาจจะยุติการขึ้นดอกเบี้ยทำให้ทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นทำลายสถิติราคาสูงสุดเดิมที่เคยมีมาที่ 2,144 ดอนลาร์ ในวันที่ 4 พฤษภาคม แล้วก็ช่วงปลายปีวันที่ 4 ธันวาคม ราคาทองคำ ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 2,144 ดอลลาร์ จากการที่คาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เป็นขาลง  สำหรับปีนี้ 2567 ก็คงมีปัจจัยที่สับสนทำให้ทองคำอาจจะไปได้ต่อแล้วก็มีโอกาสที่จะทำทำลายสถิติราคาสูงสุดเดิมที่เคยมีมาได้ โดยมี 3 ประเด็นหลักที่ต้องติดตาม คือ ปัจจัยที่ 1. แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลง แรงกดดันเงินเฟ้อโลกมีแนวโน้มลดลงทำให้ธนาคารกลางชั้นนำไม่ว่าจะเป็น“เฟด” “อีซีบี” “บีโออี” ได้ยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นไปแล้วในปีที่แล้ว แล้วก็ปีนี้ก็คืออัตราดอกเบี้ยจะเป็นขาลง ที่สำคัญน่าจะเป็น“เฟด” ที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่เป็นขาลงทำให้เงินดอลลาร์น่าจะมีทิศทางอ่อนค่าลงแล้วก็จะเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำอย่างชัดเจนมากขึ้น ซึ่งในมุมมองของตลาดก็คาดการณ์ว่า “เฟด” น่าจะลดดอกเบี้ยในปีนี้ถึง 6 ครั้ง ถึงแม้ว่าประมาณการอัตราดอกเบี้ยของ “เฟด” คาดการณ์ว่าจะลดดอกเบี้ยเพียง 3 ครั้งก็ตาม  ปัจจัยที่ 2. ปีนี้เป็นปีแห่งการเลือกตั้งทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นเอเชีย สหรัฐฯและยุโรป มีการเลือกตั้งที่ “สหรัฐ” “อังกฤษ” “รัสเซีย” “อินเดีย”และไต้หวัน ดังนั้นความไม่แน่นอนจากผลการเลือกตั้งของหลายประเทศก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของพรรคที่ชนะการเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นนโยบายเศรษฐกิจ การค้าต่างประเทศการเมืองระหว่างประเทศ ที่สำคัญก็คือน่าจะเป็นการเลือกตั้งของไต้หวัน แล้วก็การเลือกตั้งของสหรัฐฯ ซึ่งตรงนี้อาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ได้ ในเดือนนี้ก็จะเป็นการเลือกตั้งของไต้หวันก็จะมี 2 ขั้วพรรคการเมืองก็คือในส่วนของพรรค DPP  ก็จะเน้นนโยบายให้ไต้หวันเป็นสังคมประชาธิปไตย ส่วนอีกขั้วหนึ่งก็คือ ในส่วนของพรรคเคเอ็มที(KMT)แล้วก็พรรคทีพีพี(TPP)ตรงนี้มีจุดยืนต่ออนาคตของไต้หวันในทิศทางเดียวกันก็คือโครงสาธารณะไต้หวันที่เป็นอยู่แล้วก็จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับจีนมากขึ้นตอนนี้ก็อาจจะทำให้ มีความเสี่ยงที่จะเกิดความตึงเครียดระหว่างจีนและเกาะไต้หวันมากขึ้นได้ขึ้นอยู่กับพรรคไหนที่ชนะการเลือกตั้ง ส่วนช่วงปลายปีเป็นการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายเศรษฐกิจ นโยบายการค้า การเมืองระหว่างประเทศโดยเฉพาะกับจีนว่าจะทำสงครามการค้าต่อหรือไม่ ตรงนี้ก็อาจจะมีผลแล้วก็จะมีความเสี่ยงต่อภูมิศาสตร์ได้ถ้าเกิดนโยบายในเรื่องของ การทหาร การเมือง ระหว่างประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงไป  ส่วนปัจจัยที่ 3  เป็นความต้องการจากธนาคารกลางที่แข็งแกร่งจากกระแสที่ยากที่จะลดการพึ่งพิงเงินดอลลาร์แล้วก็เข้าซื้อทองคำและเงินทุนสำรองมากขึ้น ตั้งแต่ปี 2565 ธนาคารกลางทั่วโลกพากันเข้าซื้อทองคำ […]

RTC เปิดให้บริการแล้ว วิ่งรถเมล์รอบเมืองเชียงใหม่

ภายหลังจากที่ทดลองเดินรถเมล์รอบเมืองเชียงใหม่ ในที่สุด RTC Chiang Mai City Bus เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ของวันที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมา และเวลา 16.30 น. ได้มีการจัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ณ ท่าอากาศนานาชาติเชียงใหม่ โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  นายทศพล เผื่อนอุดม , ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ นาวาอากาศโทรณกร เฉลิมแสนยากร , ท่านขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ คุณมานพ พุทธวงศ์ , เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เครือข่ายภาคเอกชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก สำหรับรถเมล์ RTC Chiang Mai City Bus ให้บริการในสาย 24 โดยวิ่งจาก สนามบินเชียงใหม่ – วันนิมมาน – ประตูช้างเผือก – ประตูท่าแพ – ตลาดดอกไม้ – ประตูเชียงใหม่ […]

รุ่งหรือร่วง ? เศรษฐกิจไทย ปีมังกรทอง 2567

ใกล้จะสิ้นสุดปี 2566 แล้ว ถือเป็นอีกปีที่เศรษฐกิจไทยยังไม่สดใสเท่าที่ควร ตามรายงานตามติดเศรษฐกิจไทยขอบธนาคารโลก ประจำเดือนธันวาคม 2566 โดยในไตรมาส 3 ของปีนี้ เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงตามเศรษฐกิจโลก โดยเติบโตเพียงร้อยละ 1.5 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก แม้จะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการล่วยเหลือค่าครองชีพ การบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยวแล้วก็ตาม สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีหน้า 2567 คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 3.2 เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่เติบโตที่ร้อยบะ 2.5 จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ที่กลับไปสู่ระดับปกติในปี 2568 ก่อนการระบาดของโรคโควิด – 19 การส่งออก ตามสภาวะการค้าโลกที่ปรับตัวดีขึ้น แม้จีน ประเทศคู่ค้าหลัก กำลังอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และการบริโภคของภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง ซึ่งยังไม่ได้รวมกับนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น แต่ในขณะเดียว สภาวะสังคมผู้สูงอายุ จะส่งผลต่อศักยภาพการเติบโตในทศวรรษนี้ ซึ่งชะลอตัวลงที่ร้อยละ 0.5 จากทศวรรษก่อน ขณะที่การลงทุนจากภาครัฐสะดุดลงจากความล่าช้าในการออกพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2567 รวมถึงปัญหาหนี้สาธารณะ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และความผันผวนของราคาพลังงาน ยังคงกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีหน้า นอกจากนี้แล้ว […]

1 2 3 20