8693

(มีคลิป) โอลีฟ เตือนภัย หลังโดนมนุษย์ป้าหลอกทอนเงินผิด

โอลีฟ แม่ค้าโตเกียว โดนจนได้ มนุษย์ป้า อาศัยโอลีฟกำลังชุลมุน กับการขายขนม เข้ามาสั่งขนม 200 บาท อ้างให้แบงก์พัน กว่าจะรู้ตัวป้า เผ่นไปแล้ว ก็ระวังเรื่องนี้มาตลอด มาเจอกับตัวเองจนได้ ฝากเตือน แม่ค้าพ่อค้าให้ระวัง เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 17 ก.พ. 66 นางสาวอรัญญา อภัยโส หรือโอลีฟ แม่ค้าขนมโตเกียวเนยกรอบ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้มาเปิดบูธ ขายขนมโตเกียวเนยกรอบ งาน “ผู้หญิงทำมาหากิน” ที่เซ็ลทรัลพระราม 2 กทม. ซึ่งปรากฏว่า มีลูกค้าเข้ามาซื้อขนมตนจำนวนมาก และได้มีป้าคนหนึ่ง ใส่เสื้อสีขาวกางเกงยีนส์เดินเข้ามาสั่งซื้อขนมโตเกียวกับตน ป้าบอกว่าซื้อ 200 บาท ช่วงนั้นชุลมุนมาก และเพื่อนของตนก็ไม่มีใครอยู่ โดยมีลูกค้าก่อนหน้านั้นซื้อขนมโตเกียวเนยกรอบและให้แบงก์พันตนและตนก็ทอดให้เรียบร้อย ส่วนป้าดังกล่าวก็ได้บอกกับตนว่า เขาได้จ่ายแบงก์พันให้กับโอลีฟ ไปแล้ว โอลีฟ ด้วยความรีบ เพราะลูกค้ารุมเยอะมาก เลยได้ทอดเงินให้ป้า ดังกล่าวไป 800 บาท […]

“ปลัดจอมแฉ” เตือนคนต่างด้าวอย่าหลงเชื่อทำบัตรประชาชน

เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2566 ทาง “ปลัดจอมแฉ” นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ และประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (ส.ปอ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้พบว่ามีกลุ่มคนแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐโฆษณาเชิฝญชวนในกลุ่มคนต่างด้าวว่าสามารถช่วยเหลือในการทำบัตรประจำตัวผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนให้ได้ สำหรับคนต่างด้าวที่ไม่มีบัตร แลกกับการเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายรายละ 40,000-70,000 บาท และให้ไปทำบัตรที่อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ โดยคนต่างด้าวกลุ่มหนึ่งได้นำเรื่องมาสอบถามและปรึกษาตัวเองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่อย่างไร เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการหลอกลวงและทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งเบื้องต้นจากการที่ตัวเองตรวจสอบจากภาพถ่ายตัวอย่างบัตรดังกล่าวที่ระบุบ้านเลขที่ว่าอยู่ในอำเภอเวียงแหง พบว่าเป็นบัตรปลอมอย่างแน่นอน เพียงแค่ตกแต่งนำชื่อและภาพถ่ายของบุคคลใส่เข้าไปเท่านั้น ส่วนหมายเลขบัตรและลักษณะบัตร รวมทั้งรายละเอียดต่างๆ ของบัตรไม่ถูกต้อง นอกจากนี้จากการตรวจสอบฐานข้อมูลตามที่อยู่ในบัตรพบว่าบ้านเลขที่ดังกล่าวมีอยู่จริง แต่ไม่มีรายชื่อบุคคลตามบัตรตัวอย่างอยู่ในทะเบียนบ้าน จึงเชื่อได้ว่าการโฆษณาเชิญชวนดังกล่าวเป็นการหลอกลวงอย่างแน่นอนและแจ้งเตือนว่าอย่าหลงเชื่อเด็ดขาด ทั้งนี้ ปลัดอำเภอสันทราย กล่าวด้วยว่า กรณีการหลอกลวงลักษณะดังกล่าวที่มีการแอบอ้างเจ้าหน้าที่รัฐว่าสามารถช่วยทำบัตรประจำตัวฯได้นั้น เป็นขบวนการที่ทำกันมานานแล้ว แต่ยังมีผู้เสียหายที่เป็นกลุ่มคนต่างด้าวที่ต้องการมีบัตรประจำตัวฯ ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่ออยู่เสมอ เนื่องจากขบวนการที่ก่อเหตุทราบจุดอ่อนและช่องโหว่ดีว่า สำหรับคนต่างด้าวแล้วการมีบัตรประจำตัวฯ มีความสำคัญจำเป็นอย่างยิ่งต่อการใช้ชีวิตในประเทศไทย เพราะทำให้มีสิทธิในการทำธุรกรรมต่างๆ ได้อย่าง จึงมักจะหลงเชื่อได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการอ้างเจ้าหน้าที่รัฐสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งไม่แน่ชัดว่าที่จริงแล้วมีส่วนเกี่ยวข้องร่วมขบวนการด้วยหรือไม่ ขณะที่เมื่อผู้เสียหายทราบว่าถูกหลอกลวงก็มักจะไม่กล้าแจ้งความดำเนินคดีหรือเป็นพยาน จึงทำให้ไม่สามารถเอาผิดทางกฎหมายกับขบวนการดังกล่าวได้และลอยนวลก่อเหตุซ้ำซาก ซึ่งกรณีนี้ตัวเองเตรียมนำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนให้สืบสวนติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ขณะที่หากมีผู้เสียหายก็จะแจ้งความดำเนินคดีฐานความผิดฉ้อโดงด้วย นอกจากนี้เตรียมรวบรวมข้อมูลเพื่อเสนอขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) ช่วยตรวจสอบด้วย […]

มิจฉาชีพฉวยโอกาส แอบอ้างรับบริจาคเงินช่วย กรณีน้องดอมเสียชีวิต

ฉวยโอกาส แอบอ้างรับบริจาค เงินช่วย กรณีน้องดอมเสียชีวิต ด้าน อบจ.เชียงรายขึ้นประกาศเตือน จากกรณีที่ นายดวงเพชร พรหมเทพ หรือน้องดอม อายุ 17 ปี 1 ใน 13 คนในทีมหมูป่าอะคาเดมี ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง ได้เสียชีวิตขณะเดินทางไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษตามทุนของมูลนิธิซิโก้ ได้มีประกาศจากทางมูลนิธิว่าจะไม่มีการเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือใดๆ เพื่อป้องกันการแอบอ้างของมิจฉาชีพ ทั้งนี้ทางโค้ชซิโก้รับจะพยายามประสานงานเพื่อนำร่างของน้องดอมกลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตามความประสงค์ของครอบครัวน้องดอมให้ได้ ล่าสุดทางเพจขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ได้เผยแพร่ข้อคาวมประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมอีกว่าครอบครัวของน้องดอมไม่มีการเปิดรับบริจาคใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งนางอาทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย ได้มอบหมาย นายฐิติวัชร ไลศิริพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ลงพื้นที่ไปเยี่ยมครอบครัวของน้องดอมที่ อ.แม่สาย เพื่อให้กำลังใจครอบครัวของน้องดอมนำโดยนางธนพร พรหมเทพ ผู้เป็นมารดา นางธนพรได้ให้ข้อมูลว่าขณะนี้มีผู้ไม่หวังดีแอบอ้างเปิดรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือครอบครัวน้องดอมจำนวนมาก ซึ่งครอบครัวขอแจ้งว่าไม่มีการเปิดรับบริจาคแต่อย่างใด จึงได้ประชาสัมพันธ์มาเพื่อให้ประชาชนได้ทราบ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

เตือนภัย! มิจฉาชีพหลอกแจก “อั่งเปาออนไลน์”

รองโฆษก ตร. ออกโรงเตือนประชาชนระวังมิจฉาชีพออกอุบาย หลอกแจก “อั่งเปาออนไลน์” ย้ำระมัดระวังอัคคีภัยในช่วงเทศกาลตรุษจีน.วันนี้ (18 ม.ค.66) เวลา 08.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการหลอกลวงออนไลน์ในช่วงเทศกาลตรุษจีน.พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณฯ กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 20-22 มกราคม 2566 จะเป็นช่วงเทศกาลวันตรุษจีน ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ของคนไทยเชื้อสายจีนและปัจจุบันกลุ่มโจรออนไลน์มักจะอาศัยจังหวะตามเทศกาลต่างๆ ฉวยโอกาสหลอกลวงประชาชน โดยในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ มิจฉาชีพอาจชักจูงให้เหยื่อหลงเชื่อว่ามีการ “แจกอั่งเปาฟรี” แล้วส่งลิงก์เพื่อให้เรากรอกข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ หรืออาจจะหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันที่สามารถควบคุมมือถือระยะไกล หรือ แอปรีโมท แล้วทำการดูดเงินในบัญชี หากเราได้รับ SMS ในลักษณะดังกล่าวห้ามกดลิงก์โดยเด็ดขาด รวมถึงไม่กรอกข้อมูลส่วนตัวใดๆ กรณีมีข้อความเลขรหัสเข้าเครื่องโทรศัพท์ไม่ทราบที่มาที่ไป ห้ามเผยแพร่บุคคลอื่นทราบ หากเผลอกดลิงก์ติดตั้งแอปฯ แปลกปลอมดังกล่าว ให้รีบลบหรือรีเซต เครื่องใหม่ทันที หากโทรศัพท์ไม่ค้างหรือดับ วิธีที่ตัดทุกอย่างคือ “เปิดโหมดเครื่องบิน” หากเครื่องค้างให้ กดปุ่มเปิด-ปิดแช่ไว้ เป็นการตัดสัญญาณโทรศัพท์เครือข่ายอินเทอร์เน็ตทันที ทั้งนี้ การประกอบพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษในเทศกาลตรุษจีนทุกปีจะเป็นอีกช่วงหนึ่งที่มีสถิติการเกิดอุบัติภัยสูงกว่าปกติ ทั้งเพลิงไหม้ […]

(มีคลิป) มิจฉาชีพ นำภาพอาคารอ้างเป็นที่พัก

น่าน เจ้าของตึกร้องสื่อ มีมิจฉาชีพนำภาพอาคาร อ้างเป็นที่พัก ไปหลอกคณะครูนักเรียน ที่จะมาแข่งศิลปหัตถกรรมนักเรียน จองที่พักมีผู้เสียหาย เสียเงินจองที่พักไปแล้วกว่า 10 ราย เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 ที่อำเภอเมือง จังหวัดน่าน นายธวัชชัย เจ้าของอาคารพาณิชย์ที่ยังสร้างไม่เสร็จร้องกับสื่อมวลชนว่า มีมิจฉาชีพนำภาพอาคารพาณิชย์ของตนเอง ไปหลอกคณะครูนักเรียนที่จะมาแข่งขันงานศิลปหัตถกรรม ที่จังหวัดน่าน ในช่วงวันที่ 2-4 ก.พ. 66 นี้ และรวมถึงนักท่องเที่ยว ที่จะมาที่จังหวัดน่านด้วย โดยตอนนี้มีผู้เสียหายแล้ว จำนวน 7 คน ที่มาแจ้งกับเจ้าของอาคารพาณิชย์หลังดังกล่าว ว่าถูกหลอกให้โอนเงินค่าที่พักหลายพันบาท โดยอาคารพาณิชย์หลังดังกล่าว ตั้งอยู่บนถนนสายน่าน-ทุ่งช้าง ห่างจากสนามบินประมาณ 1กิโลเมตร ซึ่งอาคารพาณิชย์นี้มีทั้งหมด 6 คูหา แต่ยังอยู่ในระหว่างก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ โดยทางเจ้าของอาคารพาณิชย์แจ้งว่า อาคารหลังดังกล่าวนี้ สร้างไว้เพื่อทำธุรกิจครอบครัว ไม่ได้เปิดเป็นโรงแรม หรือที่พักแต่อย่างใด โดยมิจฉาชีพจะนำลิงค์ที่พักไปวางในกลุ่ม หาที่พักในจังหวัดต่างๆ เพื่อหลอกให้ผู้หลงเชื่อนั้นโอนเงินจองที่พัก ซึ่งล่าสุด ใช้อาคารพาณิชย์ในจังหวัดน่าน หลอกกลุ่มคณะครูที่จะมาแข่งขัน ศิลปหัตถกรรมระดับชาติ ที่จังหวัดน่าน […]

“ม่อนแจ่ม” แจงเพจปลอมรับจองที่พัก นทท.เสียหายกว่า 100 ราย

“ม่อนแจ่ม” แจงเพจปลอมรับจองที่พัก นักท่องเที่ยวเสียหายกว่า 100 ราย มูลค่ากว่า 1 ล้าน แจ้งความดำเนินคดีฐานฉ้อโกง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปลอมเพชบุ๊ค แนะสังเกตยอดผู้ติดตามหลักแสน ไม่ใช่หลักพัน สอบถามข้อมูลโดยตรง ก่อนตกเป็นเหยื่อ วันที่ 1 มกราคม 2566 ที่ม่อนสายลม บ้านหนองหอยใหม่ หมู่ 11 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นายวิชิต เมธาอนันต์กุล นายกเทศมนตรีตำบลแม่แรม พร้อมนายเอกรินทร์ นทีไพรวัลย์ แกนนำวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่ม นายชัยชนะ สุขพิกุลปัญญา อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11 ในฐานะผู้บริหารม่อนสายลม แถลงข่าวกรณีปัญหามิจฉาชีพ สร้างเพจที่พักปลอมหลอกลวงนักท่องเที่ยวพร้อมแอบอ้างเป็นผู้ประกอบการรับจองที่พักและร้านอาหาร บนม่อนแจ่ม แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของเชียงใหม่ ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและสร้างความเสียหายแก่นักท่องเที่ยวจำนวนมาก นายวิชิต กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่มีวันหยุดยาวหลายวัน มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาพักที่ม่อนแจ่มจำนวนมาก ทำให้มีมิจฉาชีพกลุ่มหนึ่ง สร้างเพชบุ๊คที่พักปลอมหลายแห่ง โดยแอบอ้างชื่อที่พัก และนำรูปที่พักไปใช้ เพื่อหลอกลวงนักท่องเที่ยว ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ประกอบการ และที่พักที่ถูกแอบอ้าง […]

(มีคลิป) มิจฉาชีพแอบฉกเงินบัตรคนจนสาวพิการ

มิจฉาชีพแอบฉกเงินบัตรคนจนของสาวใบ้ ด้านแม่วอนอย่าซ้ำเติมผู้พิการไม่มีรายได้ วันที่ 18 ธ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีหญิงหูหนวกชาว ต.สันทรายงาม อ.เทิง จ.เชียงราย ถูกมิจฉาชีพแอบโยกเงินในสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนหายเกลี้ยง ทั้งที่ยังเป็นช่วงต้นเดือน เจ้าตัวและญาติยืนยันยังไม่ได้ไปกดใช้งาน โร่แจ้งทางธนาคารขอช่วยตรวจสอบ ล่าสุดรู้จุดใช้จ่ายเงินแล้ว วอนขอมิจฉาชีพอย่าหาทำอีก! เพราะลูกสาวเป็นผู้พิการไม่มีรายได้ ต้องอาศัยบัตรคนจนและเบี้ยพิการเลี้ยงชีพ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับนางเทียน (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ชาวบ้าน ต.สันทรายงาม อ.เทิง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นมารดาของ น.ส.ดา (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ผู้พิการหูหนวก เป็นใบ้ตั้งแต่กำเนิด โดยได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ที่ผ่านมา ลูกสาวได้นำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนไปซื้อของที่ร้านค้าในละแวกใกล้บ้าน แต่ทางร้านค้าเช็คบัตรดูแล้ว ปรากฏว่าไม่เหลือยอดเงินอยู่ภายในบัตรเลย จึงกลังมาบอกให้ตนทราบ ทีแรกลูกสาวก็เข้าใจว่าแม่หรือคนในบ้านนำบัตรไปรูดซื้อของหรือเปล่า แต่ตนและคนในบ้านยืนยันว่าไม่มีใครเอาไปใช้ เพราะลูกสาวเป็นผู้พิการหูหนวกมาตั้งแต่เกิด เป็นใบ้ ที่ผ่านมาทุกเดือนก็อาศัยเงินจากเบี้ยผู้พิการเดือนละ 800 บาท และเงินซื้อของจากบัตรคนจนอีกเดือนละ 300 บาท ไม่มีรายได้อย่างอื่น […]

ธปท.แจงเพจขายแบงก์ปลอม เป็นมิจฉาชีพหลอกให้โอน

นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้ช่วยผู้ว่าการสายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้แจงว่า ตามที่มีกระแสข่าวการโพสต์ขายธนบัตรปลอมบนสื่อออนไลน์ในวันที่ 9 ธันวาคม 2565 นั้น ธปท. รับทราบและติดตามประเด็นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้ประสานกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และเร่งสั่งการให้มีการสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อปราบปรามและระงับเหตุแล้ว ในเบื้องต้น ธปท. ขอชี้แจงว่า  1. ผู้เกี่ยวข้องกับการซื้อ-ขายธนบัตรปลอม หรือการเปิดเพจขายธนบัตรปลอมจะมีความผิดตามกฎหมายอาญา โดยผู้ทำธนบัตรปลอมต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสี่แสนบาท ส่วนผู้ที่ใช้โดยรู้ว่าเป็นธนบัตรปลอมต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสามแสนบาท 2. เพจลักษณะดังกล่าว มักเป็นช่องทางของมิจฉาชีพในการหลอกลวงให้โอนเงิน ซึ่งผลการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า เพจในข่าวเป็นเพจหลอกลวงผู้ซื้อให้โอนเงิน โดยไม่ได้ขายธนบัตรปลอมจริง และบัญชีธนาคารที่เพจใช้ให้ลูกค้าโอนเงิน เป็นบัญชีที่ถูกร้องเรียนว่าใช้ในการหลอกลวง ประชาชนควรระมัดระวังเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ทั้งนี้ สำหรับประชาชนทั่วไปควรเพิ่มความระมัดระวัง และตรวจสอบธนบัตรก่อนรับ โดยหากธนบัตรจริงจะสามารถสังเกตเห็นลวดลายบนธนบัตรเคลื่อนไหวได้ และหากยกส่องดูจะเห็นลายน้ำและแถบสีที่เป็นเส้นตรง (สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bot.or.th/Thai/Banknotes/Pages/identify.aspx)

เตือนภัยผูกบัญชีกับแอปชอปปิ้ง ระวังเงินหาย

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กล่าวว่าจากกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับมีผู้เสียหายผูกบัญชีธนาคารไว้กับแอปพลิเคชันขายของออนไลน์ ต่อมาทราบว่าเงินในบัญชีถูกนำไปชำระค่าสินค้าหลายรายการ ความเสียหายกว่า 50,000 บาท โดยไม่ทราบสาเหตุนั้น ขอประชาสัมพันธ์ เตือนภัยกรณีการผูกบัญชีธนาคาร บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ไว้ชำระค่าสินค้ากับแอปพลิเคชันต่างๆ รวมถึงระมัดระวังการกรอกข้อมูลทางการเงินผ่านเว็บไซต์ปลอม หรือแอปพลิเคชันปลอม ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 269/5 ผู้ใดใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการ ที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ก็จะมีความผิดตาม พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(1) ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือความผิดตามกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากได้รับความเสียหายให้ทำการตรวจสอบรายการเดินบัญชี รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อแจ้งความกับพนักงานสอบสวนตามขั้นตอนกฎหมาย หรือพบเบาะแสการกระทำผิด สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนหมายเลข 1441 หรือหมายเลขโทรศัพท์ 081-866-3000 […]

(มีคลิป) เดือดร้อน! ถูกลวงเป็นสมาชิกสมาคมฌาปณกิจสงเคราะห์

ชาวบ้าน ต.แม่ลอย อ.เทิง เดือดร้อนหนัก! ถูกชักชวนเป็นสมาชิกสมาคมฌาปณกิจสงเคราะห์ แต่ถูกเบี้ยวไม่จ่ายเงิน เสียหายกว่า 15 ล้านบาท วันที่ 6 พ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณี ชาวบ้านที่ ต.แม่ลอย อ.เทิง จ.เชียงราย ได้รับความเดือดร้อน หลังจากมีผู้ชักชวนเข้าร่วมเป็นสมาชิกสมาคมฌาปณกิจสงเคราะห์แห่งหนึ่ง โดยจะมีการเรียกเก็บค่าแรกเข้า 3,000 บาท และจ่ายรายเดือนๆละ 530 บาท ซึ่งกรณีเสียชีวิต ญาติจะได้รับเงินจำนวน 85,000 บาท ซึ่งช่วงแรกจะได้รับเงินตามสัญญา แต่พอนานๆไป ปรากฏว่าไม่ได้เงิน บางคนติดค้างมานานเกือบปี พอไปทวงถามคนชักชวนก็ผลัดผ่อนมาเรื่อย ล่าสุดสมาคมฯได้งดการเคลื่อนไหวมาตั้งแต่เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ชาวบ้านทั้งคนที่รอเงินฌาปณกิจสงเคราะห์และคนที่เป็นสมาชิก จึงได้นัดรวมตัวกันที่บ้านเกี๋ยงดอย ม.13 ต.แม่ลอย อ.เทิง เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม อยากได้เงินที่จ่ายรายเดือนให้กับทางสมาคมฯคืน ดร.ชูชาติ วชิรานนท์ ผู้ประสานงาน กล่าวว่า ตนได้รับการร้องทุกข์จากชาวบ้านในพื้นที่ ต.แม่ลอย อ.เทิง จ.เชียงราย กรณีเมื่อประมาณปี 2561 […]

(มีคลิป) หนุ่มหลอกรับจำนำรถ ก่อนเอาไปจำนำต่อเตนท์มือสอง

เตือนภัยหนุ่มหลอกเปิดเพจรับจำนำรถ เจ้าของไถ่คืนกลับพบรถหายไปแล้วถึง 16 คัน บ่ายเบี่ยงอ้างสารพัด ที่แท้เอาไปจำนำต่อเต้นท์มือสอง ผู้เสียหายเดือดร้อนหนักผ่อนรถฟรีไม่มีรถใช้ รวมตัวร้องเรียนคดีไม่คืบหน้า​ กลุ่มผู้เสียหายที่จังหวัดเชียงใหม่ออกมาเตือนภัยสังคม หลังถูกชายคนหนึ่งเปิดเพจเงินด่วนรับนำรถ แต่สุดท้ายไปขอไถ่ถอนพบว่ารถหาย พบหลายคันถูกจำนำต่ออีกทอดหนึ่ง ผู้เสียหายช้ำใจต้องผ่อนลม ขณะที่แจ้งความไปแล้วคดีไม่คืบหน้า คนก่อเหตุยังลอยนวลวอนตำรวจเร่งตามจับ ​วันที่ 31 ต.ค.65 กลุ่มผู้เสียหายหลายคนนำหลักฐานเป็นใบแจ้งความให้ดำเนินคดีและบันทึกประจำวันจากหลายโรงพักในจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน เปิดเผยเรื่องราวกับสื่อมวลชนหวังเตือนภัยสังคม โดยผู้เสียหายบอกตรงกันว่าได้นำรถยนต์ส่วนตัวไปจอดจำนำไว้กับชายคนหนึ่งที่ได้ประกาศโฆษณาให้บริการเงินด่วนรถแลกเงินในสื่อสังคมออนไลน์ แต่สุดท้ายเมื่อนำเงินไปไถ่ถอน รถกลับหาย โดยมีการบ่ายเบี่ยงและอ้างเหตุผลสารพัด จนกระทั่งผู้เสียหายบางรายมาทราบภายหลังว่ารถถูกนำไปจำนำต่อ ​นายอภิชาต อายุ 44 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย บอกว่า ก่อนหน้านี้ตั้งใจทำงานเก็บเงินมานานกว่า 2 ปี กว่าจะได้เงิน 150,000 บาท ไปดาวน์รถกระบะฟอร์ดเรนเจอร์ที่ใฝ่ฝัน แต่หลังจากผ่อนมาประมาณ 4 ปี เกิดประสบปัญหาการเงินและเห็นเพจรับจำนำเชียงใหม่ จึงติดต่อนำรถไปจอดจำนำจำนวนเงิน 50,000 บาท เมื่อเดือนตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา กับชายคนดังกล่าว โดยตอนวันที่นำรถไปจอดจำนำถูกหักดอกเบี้ยร้อยละ 10 งวดแรกพร้อมกับเสียค่าจอดรวมเป็นเงิน 7,500 บาท ทำให้ได้รับเงินจริง […]

รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สวมรอย ผกก.เชียงราย ลวงเงิน 100 ล้าน

29 ต.ค. 65 ตร.ตามจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังเคยบุกไปถึงกัมพูชา แต่หนีกลับไทยมาได้ เจ้าตัวสารภาพสิ้นเริ่มทำตั้งแต่ พ.ย.64 ทำไปทำมาผลงานดี บอสไต้หวันเลื่อนตำแหน่งให้เป็นสาย 3 อ้างเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง ยศพันตำรวจเอก ผกก.สภ.เมืองเชียงราย หลอกเหยื่อได้เฉลี่ยเดือนละ 7-8 ล้านบาท เคสใหญ่ๆ รายล่าสุดร่วมกับเพื่อนหลอกหมอที่ชุมพร ได้ถึง 101 ล้าน.ผู้ต้องหาสารภาพอีกว่า แก็งคอลเซ็นเตอร์แก็งนี้ มีพนักงานเป็นคนไทยประมาณ 50-60 คน ในส่วนของเงินเดือนที่ได้การทำงานตั้งแต่เริ่มงาน ช่วง 1-3 เดือนแรก จะได้เงินเดือนประมาณ 20,000 บาท แต่ภายหลังเป็นพนักงานเก่า จึงได้ปรับเงินเดือนเพิ่มเป็น 30,000 บาท และได้ค่าคอมมิชชั่นจากการหลอกลวง 3% และคอมมิชชั่นล่าสุดที่สามารถหลอกลวงได้ 101 ล้าน ได้เงินสดมากว่า 2.5 ล้านบาท และเคสเก่าที่เคยหลอกลวงได้ 40 ล้านบาท ตนได้เงินประมาณ 1,400,000-1,500,000 บาท และเคสเก่าที่เคยหลอกลวงได้ 10 ล้านบาท ได้เงินสด […]

1 3 4 5 6 7