303

ทิศทางราคาข้าวตลาดโลก ปี 2023 – 2024 มีความเสี่ยงพุ่งสูง?

ราคาข้าวในตลาดโลกยังมีความเสี่ยงพุ่งสูง? อินเดียสั่งงดส่งออกข้าวเพื่อที่จะรักษาเสถียรภาพราคาข้าวให้กับคนในประเทศ แต่ก็ทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งสูงทำสถิติในรอบ 10 ปี ถ้ามองในแง่ดีบรรดากลุ่มผู้ส่งออกข้าว ซึ่งรวมถึงไทยด้วยน่าจะได้อานิสงส์ แต่ราคาที่พุ่งขึ้นคือภาระของคนในประเทศ และนักวิเคราะห์หลายคนออกมาแสดงความกังวลถึงสถานการณ์ที่จะส่งผลต่อเงินเฟ้อทั่วโลกที่อาจจะพุ่งสูงขึ้นตามอีกระลอกเป็นไปได้ ปัจจุบันราคาข้าวในตลาดโลกผันผวนพอสมควร โดยเฉพาะหลังจากอินเดียประกาศระงับการส่งออกข้าวเมื่อปลายเดือนที่แล้ว เพียง 3 วัน หลังจากข้อตกลงส่งออกธัญพืชรัสเซียล่ม รัฐบาลอินเดียก็เริ่มบังคับใช้คำสั่งห้ามส่งออกข้าว เพื่อรับมือกับปัญหาในประเทศ ทั้งราคาอาหารที่พุ่งสูง อัตราเงินเฟ้อถีบตัวสูงขึ้นและความกังวลถึงผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนินโญ ที่อาจจะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลงในช่วงที่ตรงกับการเลือกตั้งพอดี  แต่การแก้ปัญหาในครั้งนี้ของอินเดียกลับยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ความไม่มั่นคงทางอาหารของโลกให้ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก โดยราคาข้าวในตลาดโลกทะยานขึ้นสูงสุดในรอบมากกว่า 10 ปี ท่ามกลางความกังวลว่าข้าวในฐานะอาหารหลักของคนมากกว่าครึ่งโลกจะกลายเป็นโดมิโน่ตัวแรกที่ล้มก่อนที่ราคาอาหารประเภทอื่นๆ จะพุ่งสูงตามไปด้วยซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลไปถึงราคาพลังงานและค่าครองชีพในที่สุด  นับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมาอินเดียในกระโดดแซงหน้าไทยและก้าวขึ้นเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก ข้อมูลจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ เอฟเอโอ(FAO) ชี้ว่า เมื่อปีที่แล้วอินเดียครองส่วนแบ่งการส่งออกข้าวมากถึง 40% ของทั้งโลกทิ้งห่างไทยที่เป็นอันดับ 2 เกือบ 3 เท่า ตามมาด้วย เวียดนามปากีสถาน และ สหรัฐฯ ข้าวจากอินเดียถูกส่งไปขายยัง 140 ประเทศทั่วโลก ดังนั้นประเทศที่พึ่งพิงการนำเข้าข้าวอินเดีย อย่าง บังกลาเทศ เนปาล เบนินโตโกและมาลี ต้องรับแรงกระแทกจากนโยบายข้าวของอินเดียไปแบบเต็มๆแต่อาจจะมีทางออกอยู่บ้าง เพราะว่ารัฐบาลอินเดียยังเปิดโอกาสให้ชาติอื่นๆ สามารถเข้าไปขอเจรจาซื้อข้าวแบบจีทูจี(G2G) หรือว่ารัฐต่อรัฐได้ซึ่งหลายประเทศเริ่มมีติดต่อเข้าไปแล้ว แต่อินเดียไม่ใช่ผู้ส่งออกข้าวเจ้าเดียวที่ทำให้ตลาดโลกกังวล นั้นเพราะตอนนี้เมียนมากลายเป็นประเทศล่าสุดที่ออกมาประกาศระงับการส่งออกข้าวนาน 45 วัน เพื่อควบคุมราคาในประเทศ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้สิ้นเดือนนี้และแม้ว่าเมียนมาจะไม่ติด 5 อันดับแรกของประเทศผู้ส่งออกข้าวมากที่สุดในโลกในปัจจุบัน แต่หลายคนกังวลเขาว่าประเทศอื่นๆ อาจจะเคลื่อนไหวตามเมียนมา เพื่อชะลอผลกระทบในประเทศและเตรียมตัวรับมือกับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญที่วนกลับมาเกิดอีกครั้งในรอบ 7 ปีก็เป็นไปได้ สถานการณ์นี้เคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อปี 2008 ตอนนั้น เวียดนาม เริ่มจำกัดการส่งออกข้าวตามมาด้วยอินเดีย กัมพูชา และอีกหลายประเทศ จนกลายเป็นวิกฤตข้าวโลกและทำให้ราคาข้าวพุ่งทะลุ 3 เท่าในเวลาเพียงไม่กี่เดือน แต่สถานการณ์ในตอนนี้อาจย่ำแย่และต่างออกไป เพราะว่าวิกฤติโลกร้อนและสงครามรัสเซียยูเครน  เอฟเอโอ รวบรวมข้อมูลราคาส่งออกข้าวรายเดือนในหลายประเทศมาจัดทำเป็นดัชนีราคาข้าวในตลาดโลก พบว่านับตั้งแต่ สองยักษ์ใหญ่ผู้ส่งออกธัญพืชอย่างรัสเซียและยูเครนเปิดฉากทำสงครามเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามความต้องการข้าวที่เพิ่มสูงขึ้นเพื่อทดแทนธัญพืชที่มีลดลงในตลาดโลก สถานการณ์ในปีนี้กระโดดขึ้นไปเลวร้ายกว่าเก่า โดยเฉพาะหลังจากอินเดียระงับส่งออกข้าวราคาข้าวพุ่งสูงขึ้นประมาณ 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วหรือสูงที่สุดในรอบ 12 ปี และดูจากแนวโน้มในปัจจุบันนักวิเคราะห์บางส่วนบอกว่าสถานการณ์นี้อาจจะยังไม่ดีขึ้นในเร็วๆ นี้ แต่อย่าพึ่งวิตกกังวลมากเกินไป เพราะว่าเกษตรกรและพ่อค้าในเวียดนามเองก็เล็งเห็นถึงโอกาสจากราคาส่งออกข้าวของประเทศที่ปรับตัวกระโดดขึ้นสูงถึง 35% ถือว่าสูงที่สุดในรอบ 15 ปี ก็เลยหันมาเร่งปลูกข้าวเพื่อป้อนความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาดโลก แต่ในไทยยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจนเรื่องข้าวที่ราคาภายในประเทศนั้นตกต่ำลงจนเหลือไม่ถึง 10 บาท ขณะที่กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ประเมินว่าในปีหน้าประเทศผู้ส่งออกข้าวรายอื่นๆ เช่น บราซิล ปากีสถาน และเวียดนาม น่าจะเพิ่มการส่งออกทดแทนส่วนต่างของข้าวอินเดียที่หายไป ส่วนปลายปีนี้ไปจนถึงปีหน้ามีการคาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวของทั้งโลกน่าจะเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยโดยเฉพาะในรัสเซีย ยูกันดา และสหรัฐอเมริกา ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า ภาพรวมราคาอาหารในปีนี้จะต่ำกว่าปีที่แล้วแม้ว่าจะเจอคำสั่งห้ามส่งออกข้าวของอินเดียก็ตาม เพราะว่าผลผลิตข้าวรวมไปถึงธัญพืชอื่นๆ น่าจะเพิ่มขึ้นหลังจากนี้ เพราะสภาพอากาศไม่เลวร้ายมากอย่างที่คิด   ท้ายที่สุดแล้วฟ้าฝนเกิดไม่เป็นใจขึ้นมาหรือว่าปรากฏการณ์เอลนีโญเองก็มีผลกระทบที่ร้ายแรงมากขึ้นก็ต้องมาประเมินสถานการณ์กันใหม่ เรียบเรียงโดย : บ่าวหัวเสือ อ่านข่าวเพิ่มเติม : ชาวนาเจียงใหม่น้ำตาตกขายข้าวนึ่งได้กิโล 9 บาท…

ชาวนาเจียงใหม่น้ำตาตกขายข้าวนึ่งได้กิโล 9 บาท…

ชาวนาหลายอำเภอในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ได้ยื่นเรื่องเจรจากับนายวีรพงษ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากราคาข้าวเหนียวสันป่าตองส่งขายได้แค่กิโลกรัมละ 9 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 14 บาท ด้านอธิบดีกรมการค้าภายในบอกว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สั่งการให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและกำชับให้แก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เบื้องต้นได้มีการเปิดจุดรับซื้อใน 7 จังหวัดได้แก่ เชียงราย, เชียงใหม่, แพร่, น่าน, พะเยา, ลำพูน, ลำปาง จำนวน 16 จุด พร้อมกับประสานสหกรณ์โรงสีและผู้รับซื้อจากนอกพื้นที่ให้ช่วยซื้อ โดยช่วยค่าบริการการจัดการค่าขนส่ง ซึ่งคาดว่าจะสามารถพยุงราคาข้าวเปลือกเหนียวใหม่ได้ ส่วนมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ กรมการค้าภายในจะทำแผนเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว ให้กรมบังคับภายในการเปิดจุดรับซื้อถ้ามีความจำเป็นก็พร้อมที่จะเชื่อมโยงผู้ซื้อในต่างจังหวัดเข้ามาเพิ่มเติม เช่น ชัยนาท, พิจิตรและสิงห์บุรี ราคาข้าวเปลือกเหนียวในตอนนี้ทางอธิบดีกรมการค้าภายในบอกว่ายังถือว่าไม่ต่ำกว่าช่วงปีที่ผ่านมาและจากการลงพื้นที่ติดตามการเปิดจุดรับซื้อข้าวเหนียวพบว่าชาวนานั้นเริ่มทยอยเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกเหนียวปี 2566 – 2567 ออกสู่ตลาดผลผลิตข้าวเหนียวในภาพรวมปีนี้มีอยู่ 5.85 ล้านตัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาประมาณ 4% แต่ผลผลิตกระจุกตัวในช่วง ตุลาคม – ธันวาคม มากถึง 80%  ถ้าดูแล้วในภาพรวมทางภาคเหนือก็จะมีผลผลิต 1.46 ล้านตันมากที่สุดคือ เชียงราย 0.43 ล้านตันเชียงใหม่ 0.20 ล้านตัน ส่วนสถานการณ์ด้านราคาปีนี้ถือว่าข้าวเปลือกเหนียวที่เกษตรกรได้รับอยู่ในเกณฑ์ดีมาตลอด เฉลี่ยปีนี้ราคาข้าวเปลือกเหนียวแห้ง 12,800 บาทต่อตัน เดือนกันยายนสูงถึง 15,300 บาทต่อตัน แต่จากการที่ผลผลิตออกกระจุกตัวในช่วงนี้ทำให้ราคามีแนวโน้มเริ่มต่ำลง ข้าวเปลือกเกี่ยวสดอยู่ที่ 9,300 บาท ถึง 9,500 บาทตามคุณภาพข้าวที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวแต่ก็ยืนยันว่ายังไม่ใช่ราคาที่ถือว่าต่ำกว่าปีที่ผ่านมา จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ข้าวเหนียวพันธุ์สันป่าตองที่ครบกำหนดอายุเก็บเกี่ยวจนเหลืองอร่ามครบกำหนดอายุที่ต้องเก็บเกี่ยวเต็มทุ่งนา ส่งผลให้ชาวนาในพื้นจังหวัดเชียงใหม่ เร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตประเด็นหลัก คือ ราคาไม่แน่นอนไม่สามารถคำนวณราคาต้นทุนการผลิตได้ นั้นทำให้กลุ่มชาวนา จังหวัดเชียงใหม่ พยายามเรียกร้องขอให้กรมการค้าภายในและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องช่วยมาแก้ไข ขณะที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ใช้พื้นที่สหกรณ์การเกษตรแม่ริมเป็น หนึ่ง ใน 3 จุดรับซื้อข้าวเหนียวสันป่าตองจากเกษตรกรแต่ก็ไม่สามารถช่วยเกษตรกรได้มากนัก เนื่องจากราคารับซื้อยังต้องอิงกับโรงสีตามกลไกตลาด จากการลงพื้นที่พบว่าชาวนาในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวเหนียวพันธุ์สันป่าตองเนื่องจากเกรงว่าราคาข้าวจะตกลงไปมากกว่าตอนนี้  ชาวนาบอกว่าสาเหตุที่ต้องเร่งเก็บเกี่ยวเนื่องจากไม่มั่นใจเรื่องราคา ถ้าราคาถูกกว่านี้จะยิ่งขาดทุนและข้าวก็ถึงเวลาที่จะต้องเก็บเกี่ยวแล้วถ้าเกี่ยวช้ากว่านี้ก็จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพ สภาพอากาศที่แปรปรวนหากเกิดฝนตกลงมาอีกก็จะยิ่งทำให้ผลผลิตเสียหาย ประเด็นหลักคือราคาไม่แน่นอน เราไม่สามารถคำนวณราคาหรือพยุงราคาหรือประวิงราคาไม่ให้ขึ้นลงได้มันอยู่ที่นายทุนทั้งนั้นอีกอย่างก็คือระยะเวลาเก็บเกี่ยวต้องเกี่ยว […]

ราคาทองคำและเงินบาท ประจำวันอังคารที่ 31 ตุลาคม 2566

ราคาทองคำสปอตปิดตลาดเมื่อคืนลดลง 10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,995 ดอลลาร์ มีแรงเทขายทำกำไรทองคำออกมาบ้าง ถึงแม้ว่าสถานการณ์ในตะวันออกกลางยังรุนแรงอยู่ หลังจากที่ช่วงสุดสัปดาห์อิสราเอลประกาศที่จะยกระดับการโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซาเพื่อกวาดล้างกลุ่มฮามาสเมื่อวานเห็นการเคลื่อนไหวแล้วอิสราเอลมีการเคลื่อนกำลังพลรถถังเข้าทางตอนเหนือของฉนวนกาซา  มีคู่กรณีเพิ่มขึ้นมาบ้างก็คือ เลบานอนและอิสราเอล รักษาการนายกเลบานอน บอกว่าจะพยายามไม่ให้เกิดสงครามระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน เพราะว่าก่อนหน้านี้มีการปะทะกันระหว่างกลุ่มหัวรุนแรงฮิซบอลเลาะห์ทางตอนใต้ของเลบานอนกับอิสราเอล  ส่วนกองทุน SPDR เมื่อวานมีการขายทองคำออกมา 2.31 ตัน วันนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ บีโอเจ(BOJ) ก็คาดการณ์ว่ายังคงใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ 0.1% แต่ว่าแนวโน้มปีหน้าน่าจะยกเลิกนโยบายดอกเบี้ยติดลบแล้วก็เงินเยนมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในอนาคตได้ วันนี้บีโอเจอาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามนโยบายเงินเฟ้อเป้าหมาย แต่ว่าตลาดคาดการณ์ว่าอาจจะมีการปรับเปลี่ยน  ส่วนของสหรัฐฯ จะประกาศข้อมูลเศรษฐกิจ 2 ตัว  1. ดัชนี PMI เขตชิคาโก เดือน ตุลาคม ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 45 2. ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ตลาดคาดการณ์ว่าจะลดลงเหลือ 100.1 แนวโน้มราคาทองคำคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบไซด์เวย์ติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลางจะรุนแรงขึ้นลุกลามบานปลายขยายวงกว้างหรือไม่ ถ้าขยายทองคำก็จะขึ้นไปอีกรอบหนึ่ง  ที่สำคัญคือการติดตามเรื่องการประชุมธนาคารชั้นนำสัปดาห์นี้ ไม่ว่าจะเป็นวันนี้ธนาคารกลางญี่ปุ่น แล้วก็คืนวันพุธ การประชุมเฟด และวันพฤหัส การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ  แนวโน้มน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แนวรับ 1,990 ดอลลาร์ และ1,980 ดอลลาร์ แนวต้าน 2,009 ดอลลาร์ และ แนวต้านสำคัญ 2020 ดอลล่าร์  สำหรับราคาทองแท่งเมื่อวานปรับเปลี่ยน 4 ครั้ง ขายออกช่วงเย็น 34,000 บาท ลดลง 200 บาท จากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมา แนวรับ 33,850 บาท และ 33,750 บาท แนวต้าน 34,050 บาท และ 34,150 บาท  คำแนะนำการลงทุนบางส่วนอาจจะถือต่อไปแล้วก็มีแบ่งขายทำกำไรเป็นช่วงๆ ถ้าเห็นปรับตัวทะลุ 2,000 ดอลลาร์ น่าจะขายไปบางส่วนได้  ส่วนการลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์ย่อตัวลงมา แนะนำซื้อทองสปอตที่ 1,980 ดอลลาร์ คัทลอส 1,970 ดอลลาร์โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์ แนะนำฝั่งซื้อที่่ 2,005 ดอลลาร์ คัทลอส 1,995  ดอลลาร์ เงินบาทเมื่อวานแข็งค่าขึ้นแล้วก็หลุด 36 บาท ปิดตลาดเมื่อวานที่ 35 บาท 90 สตางค์ แข็งค่าขึ้นถึง 23 สตางค์ กดดันราคาทองแท่งพอสมควรทีเดียว ประมาณเกือบ 200 บาท  แนวโน้มเงินบาทอาจจะแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องแต่อาจจะไม่แข็งค่าเท่าเมื่อวานนี้ […]

ค้าปลีกจำกัดการซื้อน้ำตาลทรายบรรจุถุงก่อนปรับราคาอีก 4 บาท

ค้าปลีกขนาดใหญ่ขึ้นป้ายจำกัดการจำหน่ายน้ำตาลทรายบรรจุถุงขนาด 1 กิโลกรัม ทุกยี่ห้อระบุเอาไว้ว่าซื้อได้ไม่เกิน 6 ถุงต่อ หนึ่ง ใบเสร็จ โดยราคาขณะนี้ยังอยู่ที่กิโลกรัมละ 24 ถึง 25 บาท ก่อนที่จะปรับขึ้นอีก 3 บาท ในวันพรุ่งนี้  ขณะที่ร้านสะดวกซื้อบางแห่งพบว่าน้ำตาลทรายบางยี่ห้อไม่มีจำหน่าย จากการสอบถามพนักงานขายระบุว่าสินค้าหมดสต็อก ลูกค้ามาซื้อกันอย่างต่อเนื่อง ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุว่าจากการส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบการจำหน่ายน้ำตาลทรายตาม ห้างค้าส่ง ค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ เพราะมีน้ำตาลทรายวางจำหน่ายและยืนยันสต็อกยังมีของอยู่ ส่วนกรณีที่ห้างจำกัดการซื้อไม่เกิน 6 ถุงต่อ 1 ใบเสร็จ เพื่อป้องกันการกักตุน เพียงแต่ว่าการที่จำกัดการซื้อเนื่องจากมีข่าวออกมาว่าน้ำตาลจะขึ้นราคา 4 บาท ต่อกิโล อาจจะทำให้ผู้บริโภคส่วนหนึ่งที่ทำการซื้อเก็บไว้ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะไม่เกิดผลดีจึงอยากจะขอความร่วมมือว่าไม่จำเป็นต้องซื้อเก็บไว้มากๆ เพราะว่าของไม่ได้ขาด เพราะบริโภคในประเทศแค่ 2.5% ส่งออก 7.5% ในเรื่องของปริมาณคงไม่มีปัญหาอะไร ในส่วนของผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างผู้ประกอบการที่ทำขนมที่ใช้น้ำตาลทรายในทุกๆ วัน วันละกว่า 150 กิโลกรัม ในการผลิต การขึ้นราคาน้ำตาลทรายสร้างความกังวลให้กับผู้ประกอบการอย่างมาก เพราะว่ากระทบกับต้นทุนการผลิตมาก แต่ไม่สามารถปรับขึ้นราคาขนมได้ แต่ต้นทุนสูงขึ้นและไม่ใช่เฉพาะตัวน้ำตาลอย่างเดียว วัตถุดิบตัวอื่นๆ ที่มันมีส่วนประกอบของความหวานก็จะขึ้นมาอีกเท่าตัวนั้นคือปัญหาที่จะตามมากระทบต่อผู้ประกอบการอย่างหลีกเหลี่ยงไม่ได้ ตอนนี้จะปรับราคาขึ้นหรือจะแก้ไขปัญหาอย่างไรก็ต้องยอมรับตรงนี้ไปก่อน ส่วนผู้ประกอบการโรงงานผลิตซอสหวานในจังหวัดเชียงใหม่บอกว่าราคาน้ำตาลทรายที่สูงขึ้นทำให้ทางโรงงานต้องปรับราคาสินค้าขึ้นตามราคาวัตถุดิบ เพราะฉะนั้นผลกระทบถามว่ามีหรือไม่ก็ต้องตอบว่าไม่ได้มีผลกระทบเพราะต้องขึ้นราคาตามวัตถุดิบที่มีต้นทุนเพิ่มขึ้น และเราก็ปรับขึ้นราคาสินค้าเรา ดังนั้นผู้บริโภคคือผู้แบกรับรายจ่ายที่แท้จริง ถ้าพูดกันแบบตรงๆ ก็คือ ผู้บริโภคต้องเป็นผู้จ่ายเงินในส่วนต่างพวกนี้ ให้เราผู้บริโภคก็ต้องแบกรับภาระตรงนี้ไป ในส่วนของชาวไร่อ้อย อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี บอกว่าการปรับราคาน้ำตาลในประเทศที่สูงขึ้นจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชาวไร่เพราะว่าปีนี้ผลผลิตอ้อยน้อยคุณภาพอ้อยต่ำซึ่งเป็นผลกระทบจากภัยแล้งและต้นทุนการเพาะปลูกสูง ค่าน้ำมัน ค่าจ้างแรงงานที่สูงขึ้นแล้วก็ยังมีค่าเช่ารถตัดอ้อยเพราะที่ไร่ตัดอ้อยสด คาดหวังว่ารัฐบาลจะช่วยค่าตัดอ้อยสด 120 บาท ต่อตัน รวมไปถึงประกาศราคาอ้อยขั้นต่ำอยู่ที่ 1,300 ถึง 1,400 บาท ต่อตัน อ้อยจะครอบคลุมต้นทุนการผลิต ถ้าหากว่ามีการปรับขึ้นก็คือจะมีต้นทุนต่อไป สำหรับปริมาณผลผลิตอ้อยปีนี้คาดว่าจะต่ำกว่าเป้าหมายเหลือ 75 […]

เจาะลึกตลาดหุ้นไทย หลังร่วงแรง 170 จุด

อัพเดทสภาวะตลาดหุ้น เนื่องจาก วันที่ 26 ตุลาคม 2566 มีการเคลื่อนไหวที่รุนแรงค่อนข้างมากแต่ไม่ใช่เป็นการเคลื่อนไหวที่รุนแรงเฉพาะในประเทศไทย แต่เป็นทั้งภูมิภาคและในยุโรป หุ้นไทยก่อนหน้านี้ปรับตัวลงมา 170 จุด ในช่วงเวลาประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมาเพราะคิดว่ามีการรีบาวด์กลับมาวันนี้ 26 ตุลาคม 66) ท้ายที่สุดก็ร่วงปรับตัวลงไปอีกประมาณสัก 30 กว่าจุดด้วยกัน ตอนนี้ก็ลงไปประมาณ 2 เดือน 200 จุดด้วยกันอยู่ที่ 1,371.2 จุด ต่ำที่สุดแล้วในรอบ 3 ปี พูดง่ายๆ ตอนที่โควิดก็ยังไม่เท่านี้มาก่อนช่วงปลายโควิดเองก็สูงกว่าแล้วก็ถือว่าค่อนข้างหนักทีเดียว ตั้งแต่ เดือน กันยายน ถึงตอนนี้ปรับลงแล้ว 194 จุด ด้วยกัน เมื่อวาน (26 ตุลาคม 66) ปรับตัวลงไป 30.48 จุด คุณ ภานุวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้าซีเคียวริตี้ประเทศไทย บอกว่า จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ผ่านมาเค้าลางของเศรษฐกิจซึ่งอาจจะลามมายังตลาดหุ้น ตอนนี้เริ่มต้นชัดเจนมากแล้ว โดยเฉพาะช่วงเออร์นิ่งยิว ก็คือส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนของพันธบัตรกับผลตอบแทนของตลาดหุ้น อยู่ในช่วงที่ค่อนข้างแคบ ส่วนก่อนหน้านี้หยวนต้าเตือนให้นักลงทุนลดพอร์ตมาระยะหนึ่งแล้ว ส่วนตัวมองว่าปีหน้าจะเกิดวิกฤตแน่นอนเพียงแต่ว่ามันจะเป็นวิกฤตแบบไหน ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกในช่วงที่ผ่านมามีทั้งส่วนของ อสังหาริมทรัพย์ในจีนที่ยังไม่คลี่คลาย ความเสี่ยงกับหุ้นกู้ของบริษัทในสหรัฐครบกำหนดในปีหน้า ความเสี่ยงจากผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นของธนาคารในสหรัฐฯ ซึ่งก็เกิดปัญหามาแล้วเมื่อกลางปี เช่น ซิลิคอนแวลลีย์แบงก์ (Silicon Valley Bank)’ บอกว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯสูงกว่าช่วงก่อนหน้านี้ และปัญหาแบงก์ต่างๆ ยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะมีคนไปถอนเงินจำนวนมาก จากข้อมูลในอดีตจะเห็นว่าวิกฤติจะเกิดขึ้นในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยสูงเกือบทั้งนั้น สิ่งที่นักลงทุนควรทำในตอนนี้ คือ การขายหุ้นปรับลดพอร์ตในจังหวะที่ตลาดหุ้นพื้นตัวแรง โดยเฉพาะถ้ามีสัญญาณที่ตลาดฟื้นตัวได้ 30 จุด ถึง 50 จุด ตอนนี้ยังไม่เห็นสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยจะเริ่มปรับตัวลง ขณะที่ธนาคารกลางสำคัญยังไม่มีท่าทีว่าจะกลับมาให้ความสำคัญกับตลาดทุน เพราะยังต่อสู้กับแนวรับแรกนั่นก็คือ อินเทเฟชั่นความเสี่ยงของตลาดจะอ่อนตัวลงไปอีก อีกเรื่องที่ต้องระวังคือการอ่อนค่าของเงินในกลุ่มอีเมอร์ จิ้งมาร์เก็ต เมื่อเทียบกับค่าของดอลลาร์ ทำให้ประเทศที่มีหนี้สกุลเงินดอลลาร์สูงอาจจะมีปัญหาได้ แต่บ้านเราหนี้ที่เป็นสกุลเงินตราต่างประเทศต่ำมาก เพราะส่วนใหญ่หนี้ของรัฐบาลจะเป็นการกู้ภายในประเทศ คือ เป็นหนี้สกุลเงินบาทเป็นหลักก็เลยไม่น่าจะได้รับผลกระทบอย่างหนักเท่ากับประเทศที่มีหนี้เป็นเงินสกุลดอนลาร์  ที่นี่เมื่อวานเองก็ปรับตัวลงไป 30 จุด ตัวที่ทำให้มีการขับเคลื่อนปรับตัวลงคืออะไร ก็คือ DELTR ELECTRONICS ปรับตัวลงไป หุ้น DELTR ปรับตัวลดลงไปติดลบไป 10.5% ไปปิดที่ราคาเมื่อวานนี้ 72 บาทสลึง ต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ส่วนภาพรวมถือว่าตลาดอ่อนแอเพราะแรงซื้อก็หายไป แรงกดดันจากการหุ้นไทยร่วงทำจุดต่ำสุด นักลงทุนบางส่วนก็ใช้กลยุทธ์ช๊อต อะเกนพอร์ต (Short Against Port) เป็นต้นเพราะ ที่นี่ถ้าไม่รวมผลกระทบจาก DELTR ดัชนีเซ็ทเมื่อวานนี้ก็จะติดลบประมาณ 1.4 […]

ราคาทองคำและเงินบาท ประจำวันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม 2566

ทองคำสปอตปิดตลาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ในช่วงวันราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 1,993 ดอลลาร์ แต่ว่าช่วงกลางคืน มีแรงเทขายออกมาหลังจากที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ออกมาแข็งแกร่งมาก  สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางก็ยังคุกรุ่นอยู่แต่ว่าอิสราเอลบอกว่าอาจจะชะลอการโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซา เพื่อกวาดล้างกลุ่มฮามาส ส่วนสหรัฐเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 3 ออกมาแข็งแกร่งมากเพิ่มขึ้น 4.9% เป็นการขยายตัวแข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี และมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 4.5%  เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นกดดันราคาทองคำ ทำให้ตลาดประเมินว่าเฟด อาจจะต้องตรึงดอกเบี้ยระดับที่สูงยาวนานมากขึ้น ส่วนกองทุน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิม  คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาพีซีอีพื้นฐาน ตัวนี้เป็นอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายที่ เฟด ใช้มองว่าต้องต่ำกว่า 2% ให้ได้ เดือน กันยายนตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อเทียบรายปี ตัวเลขดูเหมือนลดลงเพราะว่า เดือน สิงหาคม 3.9% แต่ถ้าเทียบรายเดือนจะเร่งตัวสูงขึ้นตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% จากที่ เดือน สิงหาคม เพิ่มขึ้น 0.1% ถ้าเกิดตัวชะลอตัวลงก็อาจจะช่วยหนุนราคาทองคำได้บ้าง  แนวโน้มราคาทองคำทางด้านเทคนิคมองว่าเคลื่อนไหวลักษณะที่น่าจะเป็นไซต์เวย์อัพ แต่เชื่อว่าในช่วงระหว่างวันอาจจะเคลื่อนไหวในกรอบที่ค่อนข้างจะแคบอยู่ กรอบการเคลื่อนไหว 1,970 ดอลลาร์ ถึง 1,990 ดอลลาร์ ขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,990 ดอลลาร์ ผ่านขึ้นไปได้แนวต้านสำคัญยังอยู่ที่ 2,000 ดอลลาร์ แนวรับ 1,970 ดอลลาร์ และ 1,960 ดอลลาร์ สำหรับราคาทองแท่งของสมาคมเมื่อวานปรับเปลี่ยน 4 ครั้ง ขายออกช่วงเย็น 34,150 บาท เพิ่มขึ้น 400 บาท เห็นราคาทองคำที่ 34,000 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงทีเดียว  แนวรับ 33,900 บาท และ 33,800 บาท แนวต้าน 34,100 บาท และ 34,200 บาท  สำหรับกลยุทธ์การลงทุนก็ถ้ามีอยู่แนะนำขายทำกำไรบางส่วน ถ้าทองคำสปอร์ตส์เข้าใกล้ 2,000 ดอลลาร์ เพราะว่าสัปดาห์หน้าจะมีการประชุม เฟด รออยู่ด้วย ก็จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ทองคำอาจจะมีความผันผวนได้ ส่วนการลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์เน้นฝั่งซื้อเป็นหลัก เก็งกำไรได้ถ้าทองคำสปอต 1,960 ดอลลาร์ คัทลอส 1,950 ดอลลาร์ โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์ส เก็งกำไรฝั่งซื้อที่ 1,980 ดอลลาร์ คัทลอส 1,970 ดอลลาร์ สำหรับท่านที่ถือโกลด์ฟิวเจอร์ โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์ แนะนำคล้ายๆ กันว่าอาจจะขายทำกำไรบางส่วนก็ได้ถ้าทองคำสปอร์ตเข้าใกล้ 2,000 ดอลลาร์ ในส่วนของเงินบาทปิดตลาดช่วงกลางคืน เคลื่อนไหวค่อนข้างจะทรงตัว […]

เชียงใหม่มีรถไฟฟ้าแล้วกี่คัน ? เจาะแนวโน้ม EV ไทย ปี 66-67

ยุคนี้ เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงเทคโนโลยียานยนต์  สังเกตได้ว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา เราจะเริ่มเห็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ  Electric Vehicle บนท้องถนนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่กรุงเทพมหานคร หรือแม้แต่เชียงใหม่ของเราเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากการเข้ามาของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนและสหรัฐฯ ประกอบกับเทรนด์การรักษาสิ่งแวดล้อม ที่ถูกพูดถึง จนกลายเป็นกระแสหลักในสังคมไปแล้ว ยิ่งทำให้หลายคนที่จะออกรถใหม่ สนใจรถไฟฟ้ามากขึ้น ก่อนจะไปถึงลำดับถัดไป เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า “อะไรคือรถไฟฟ้า ( EV )” ? จากข้อมูลของสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย รถยนต์ไฟฟ้า คือ รถยนต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนอย่างเดียว หรือใช้เครื่องยนต์เผาไหม้ร่วมกันมอเตอร์ไฟฟ้า ทั้งในส่วนของการขับเคลื่อน และผลิตพลังงานไฟฟ้าสะสมในแบตเตอรี่ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงรถยนต์ที่ใช้ก๊าซไฮโดรเจนในการผลิตพลังงานไฟฟ้าเพื่อการขับเคลื่อนอีกด้วย รถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด ซึ่งใช้เชื้อเพลิงร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน , รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด ที่สามารถใช้พลังงานจากไฟฟ้าและเชื้อเพลิงคล้ายกับรถยนต์ไฮบริด แต่สามารถชาร์จไฟฟ้าเก็บไว้ในรถยนต์เพื่อขับเคลื่อนมอเตอร์ได้ , รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว และรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง เช่นรถยนต์พลังงานไฮโดรเจน เป็นต้น สำหรับสถานการณ์รถยนต์ไฟฟ้าในไทย สำนักข่าว […]

ราคาทองคำและเงินบาท ประจำวันพุธที่ 25 ตุลาคม 2566

ราคาทองคำปรับตัวลงเนื่องจากแรงเทขายทำกำไร ราคาทองคำสปอตปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เนื่องจากแรงเทขายทำกำไรหลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 10% ภายใน 2 สัปดาห์จากประเด็นสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาส ปิดตลาด เมื่อคืน 1,970 ดอลลาร์ ลดลงไปเพียง 1.6 ดอลลาร์ สถานการณ์ในตะวันออกกลางยังตึงเครียดอยู่ในอิสราเอลบอกว่าเตรียมเทียบโจมตีภาคพื้นดินเพื่อกวาดล้างกลุ่มฮามาส ก่อนหน้านี้ก็มีการโจมตีภาคอากาศอย่างหนักหน่วงอยู่  ส่วนเมื่อคืนสหรัฐเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิต และภาคการบริการ เดือน ตุลาคม ออกมาดีเกินคาดทั้ง สองตัว ดัชนีการผลิต PMI เดือนตุลาคม ออกมาเพิ่มขึ้นเป็น 50 ขณะที่ตลาดประเมินว่าจะออกมาลดลงเหลือ 49.5 ดัชนี PMI ภาคการบริการ เดือน ตุลาคม ออกมาเพิ่มขึ้นเป็น 50.9 สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงเหลือ 49.9 เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น กองทุน SPDR เมื่อวานนิ่งถือครองเท่าเดิม ประเด็นที่ต้องติดตามแน่นอนเรื่องสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางติดตามกันต่อไป คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ เดือน กันยายน ตลาดประเมินว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 678,000 ยูนิต แนวโน้มราคาทองคำทางด้านเทคนิคถ้าดูกราฟแท่งเทียนจะเห็นว่า แรงซื้อ แรงขาย พอๆกัน ดังนั้นแนวโน้มราคาทองคำก็น่าจะเคลื่อนไหวลักษณะที่เป็นไซต์เวย์ อาจจะไม่ได้เคลื่อนไหวแบบหวือหวามากอันนี้คือทางเทคนิค นอกจากพื้นฐานจะมีปัจจัยอะไรที่รุนแรงเข้ามา ดังนั้นก็มองว่ากรอบการเคลื่อนไหวก็คงจะอยู่ประมาณ 1,950 ถึง 1,980 ดอลลาร์ แนวรับ 1,950 ดอลลาร์น่าจะรับอยู่ แต่ถ้าเกิดรับไม่อยู่ก็อาจจะหลุดลงมาแล้วก็จะมีแรงเทขายพอสมควรทีเดียว แนวรับสำคัญถัดไป 1,930 ดอลลาร์ เป็นแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ส่วนแนวต้าน 1,980 ดอลลาร์ และแนวต้านสำคัญ 2,000 ดอลลาร์ สำหรับราคาทองแท่งของสมาคมเมื่อวานปรับเปลี่ยน 4 ครั้ง ขายออกช่วงเย็น 33,700 บาท ลดลง 50 บาทประเด็นหลักๆ ก็มาจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นด้วย รวมทั้งราคาทองตลาดโลกที่ปรับตัวลง  แนวรับ 33,600 บาท และ 33,400 บาท แนวต้าน 33,850 บาท และ 34,050 บาท สำหรับการลงทุนถ้าเป็นการลงทุนระยะสั้นเจาะเทรดดิ้งตามกรอบประมาณ 1,950 ดอลลาร์ ถึง 1,980 ดอลลาร์ ได้ คือเขาซื้อเก็งกำไรที่ 1,950 ดอลลาร์ แล้วก็ขายทำกำไรที่ 1,980 ดอลลาร์ ขึ้นไป  ส่วนการลงทุนถ้าเกิดคิดว่าอยากจะขายทำกำไรออกมาดีมั้ยถ้าเห็นใกล้ๆ ประมาณ 1,980 ดอลลาร์ แล้วก็ประมาณ 2,000 ดอลลาร์ น่าจะเป็นจุดที่ขายทำกำไรออกมาดีกว่า ส่วนการลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์เก็งกำไรฝั่งซื้อที่ 1,950 ดอลลาร์ คัทลอส1,910 ดอลลาร์ โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์ซื้อเก็งกำไรที่ 1,975 ดอลลาร์ คัทลอส 1,965 ดอลลาร์ […]

กรมวิชาการเกษตรแจ้งเกิดส้มโอพันธุ์ใหม่ กวก.พิจิตร 1

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ส้มโอเป็นไม้ผลเศรษฐกิจที่สำคัญ มีแหล่งปลูกที่สำคัญในจังหวัด พิจิตร สมุทรสงคราม เชียงราย นครปฐม นครศรีธรรมราช ปราจีนบุรี ชัยภูมิ กาญจนบุรี ชัยนาท และสุราษฎร์ธานี พันธุ์ที่เกษตรกรนิยมปลูก ได้แก่ ทองดี ขาวใหญ่ ขาวแตงกวา ขาวน้ำผึ้ง ท่าข่อย และทับทิมสยาม โดยทั่วไปส้มโอให้ผลผลิตได้ตลอดทั้งปี ส่วนใหญ่บริโภคภายในประเทศ และมีการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ได้แก่ จีน เวียดนาม และฮ่องกง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบว่าสายพันธุ์ส้มโอมีการกระจายตัวอย่างหลากหลายในแต่ละแหล่งปลูก ทำให้ส่งผลต่อคุณภาพและปริมาณผลผลิตในบางพื้นที่ไม่ได้คุณภาพและผลผลิตต่ำ ผลผลิตไม่สม่ำเสมอ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตร กรมวิชาการเกษตร จึงพัฒนาปรับปรุงพันธุ์ส้มโอเพื่อให้มีความหลากหลายในด้านของสีเนื้อและรสชาติ ทนทานต่อโรคและแมลง ให้ผลผลิตสูง ผลมีคุณภาพดี เหมาะสำหรับส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกเป็นการค้า เพิ่มโอกาสทางการตลาดตลอดจนการส่งออกในอนาคต เพื่อตอบสนองของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตรได้คัดเลือกสายต้นจากการเพาะเมล็ดซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งในการปรับปรุงพันธุ์ส้มโอ โดยขั้นตอนการปรับปรุงพันธุ์เริ่มในปี 2545 – 2549 คัดเลือกพันธุ์ส้มโอพันธุ์ทองดีจากการเพาะเมล็ดจำนวน 200 ต้น สามารถคัดเลือกได้สายต้นส้มโอที่มีรสชาติดี […]

เชียงใหม่วางแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเตรียมรับท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น

รถ 3 ล้อเครื่องนำนักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมวัดต่างๆในตัวเมืองเชียงใหม่รวมทั้งร้านให้บริการเช่าชุดไทยและก็ช่างภาพเป็น หนึ่ง ในธุรกิจบริการที่เริ่มมีลูกค้าเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งถือเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่กลุ่มมัคคุเทศก์ที่เคยได้รับผลกระทบหนักในช่วงโควิด 19 ยาวนานถึง 3 ปีตอนนี้เริ่มมีงานกลับมามากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไปจากการเที่ยวเป็นกลุ่มใหญ่แล้วก็ใช้มัคคุเทศก์เพียง 1 คน ตอนนี้เขาหันมาเที่ยวเฉพาะครอบครัวหรือว่ากลุ่มเพื่อนกลุ่มเล็กลง ถือว่าเป็นโอกาสในการกระจายงานให้กับมัคคุเทศก์ นายกสมาคมมัคคุเทศก์เชียงใหม่ระบุว่าปัจจุบันมัคคุเทศก์ที่เคยว่างงานกลับมาทำงานแล้วประมาณ 60% ซึ่งมัคคุเทศก์ภาษาจีนในเชียงใหม่มีความพร้อมทั้งเรื่องคุณสมบัติและปริมาณรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างเพียงพอ ส่วนนะกรุงเทพฯภาษาเกาหลีก็ยังเป็นเงื่อนไขที่จะมีทัวร์ลีดเดอร์ที่เป็นเจ้าของภาษามาทำงานควบคู่กับมัคคุเทศก์ในพื้นที่ ส่วนที่ยังขาดแคลนก็คือ มัคคุเทศก์ภาษาเวียดนามซึ่งทางสมาคมฯพยายามหาทางออก กำลังจะเชื่อมโยงกับทางภาคอีสานในจังหวัดที่ พูดภาษาเวียดนามได้มาสอนมัคคุเทศก์เชียงใหม่ เพื่อที่จะรองรับกับตลาดเวียดนามที่กำลังจะมาเชียงใหม่ สิ่งที่มัคคุเทศก์ต้องการและมีการร้องเรียนไปยังภาครัฐก็คือเรื่องสวัสดิภาพและสวัสดิการ เพราะว่ามัคคุเทศก์เป็นงานอิสระไม่มีเงินเดือนและค่าตอบแทนเป็นงานไป พอไม่มีเงินเดือนประจำจึงไม่สามารถทำประกันสังคมได้ หากรัฐบาลจะมีนโยบายช่วยเหลือมัคคุเทศก์ก็อยากจะให้มีระบบประกันสำหรับมัคคุเทศก์โดยที่มีเงื่อนไขและสวัสดิการความคุ้มครอง ที่มากกว่าผู้ประกันสังคมตามมาตรา 40  ในส่วนของหัวหน้า อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ได้ให้ข้อมูลว่าเราคาดหวังว่านักท่องเที่ยวจีนจะเพิ่มขึ้นกับมาตรการวีซ่าฟรีของรัฐบาล จึงต้องเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวกันอย่างเต็มกำลัง ในปีนี้ทั้งปีมียอดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติกว่า 800,000 คน ที่มีการเดินทางเข้ามา และก็คาดว่าน่าจะมียอดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีทำรายได้เข้าอุทยานได้มากกว่าเดิม ดอยอินทนนท์เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว และช่วงนี้ฝนตกแต่ก็ถือว่าเป็นปกติ ส่วนสภาพอากาศช่วงนี้อุณหภูมิลดต่ำสุดเหลือแค่ 9.6 องศาถือว่าเป็นเลขตัวเดียวในรอบปีทีเดียว อุณหภูมิที่ลดลงอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ถ้าหากใครขึ้นไปดอยอินทนนท์คงจะสัมผัสอากาศหนาวตลอดทั้งปี โดยปกติอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยแค่ 12 ถึง 18°C เท่านั้น นั้นทำให้ในปีนี้ประเมินว่าไฮซีซั่นน่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากกว่าปีที่ผ่านมา ถ้าดูจากตัวเลขของนักท่องเที่ยวที่ผ่านมา ช่วงที่นักท่องเที่ยวมากที่สุดก็คือในช่วง เดือน พฤศจิกา ธันวาคมและมกราคม ตอนนี้นับถึงแค่เดือนกันยายน จำนวนนักท่องเที่ยวแตะที่ 800,000 คนจัดเก็บรายได้ขึ้นไปที่หลัก ร้อยล้านบาท แนวโน้มทิศทางตัวเลขนักท่องเที่ยวน่าจะเพิ่มขึ้นและอาจจะเก็บรายได้มากกว่าร้อยล้านบาทขึ้นไป ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามแตกต่างไปในแต่ละช่วงเวลา แล้วก็ตามบรรยากาศและสถานที่เหมือนกัน เช่น ช่วงปลายฝนต้นหนาว นายเกรียงไกร ไชยพิเศษ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากข้อมูลพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นวันละเกือบ 3,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่าคนไทย คนไทยจะมาท่องเที่ยวเยอะในช่วง เดือน พฤศจิกา ถึง เดือน ธันวาคม ซึ่งจะหนาวสุดและเกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งเหมือนกับทุกปี อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์มีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายและจำนวนมาก เช่น น้ำตกขนาดใหญ่อย่าง น้ำตกวชิรธาร น้ำตกแม่ยะ น้ำตกสิริภูมิ และน้ำตกแม่ปาน ทุกแห่งเป็นน้ำตกที่ช่วงปลายฝนต้นหนาวและจำนวนฝนที่ตกมีจำนวนมากจะสวยงามเป็นพิเศษ  ส่วนแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติแล้วยังมีแหล่งท่องเที่ยว ทางวัฒนธรรม ประเพณีหรือวิถีชีวิตของชาวบ้าน เช่น ทุ่งนาป่าปงเปียงที่เป็นนาขั้นบันไดที่ใหญ่และเมื่อข้าวเริ่มออกรวงเป็นสีเหลืองทองจะสวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง ของประเทศไทย ทุกปีการเดินทางขึ้นดอยอินทนนท์ เราก็เจอปัญหาเรื่องของอุบัติเหตุเกิดขึ้นเหมือนกันปี ใครที่ยังไม่เคยขับรถขึ้นดอยอินทนนท์หัวหน้าอุทยานแนะนำว่า ด้วยลักษณะภูมิประเทศของดอยอินทนนท์เป็นดอยที่ที่ค่อยๆไต่ระดับขึ้นระยะทางจาก อำเภอจอมทองขึ้นไปสู่ยอดดอยประมาณ 10 กิโลเมตร การขึ้นดอยอินทนนท์นั้นก็คือต้องไต่ระดับความสูง สิ่งสำคัญคือรถต้องมีความพร้อม คนขับต้องเตรียมพร้อมร่างกายพักผ่อนให้เพียงพอ ที่สำคัญคือต้องปฏิบัติตามกฎการจราจร เนื่องจากดอยอินทนนท์มีแหล่งท่องเที่ยวตั้งแต่เชิงดอยไปจนถึงยอดดอย หลายคนอาจจะมุ่งเป้าขึ้นไปที่ยอดดอยขับยาว 10 กิโลเมตรซึ่งก็ค่อนข้างที่จะใช้เวลา แนะนำนักท่องเที่ยวแวะเที่ยวแต่ละจุดค่อยๆ ไต่ระดับเพื่อเป็นการพักรถหรือผ้าใบเบรกไปในตัวด้วย อาจจะไปเที่ยวบริเวณใกล้ๆ กับอำเภอจอมทอง เช่น น้ำตกขุนกลาง น้ำตกวชิรธารน้ำตกแม่ยะ แวะไหว้พระธาตุ ที่ วัดพระธาตุศรีจอมทอง วรวิหาร แล้วค่อยไต่ขึ้นไป ยอดดอย เรียบเรียงโดย : บ่าวหัวเสือ

ราคาทองคำ-เงินบาท ประจำวันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม 2566

สงครามอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ดันราคาทองคำพุ่งขึ้น 10%  ราคาทองคำสปอตปรับตัวเพิ่มขึ้น 10% ภายใน สอง สัปดาห์หลังจากที่เกิดสงคราม ระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสก็ทำให้มีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ในการสงครามก็รุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นเกิดเหตุการณ์ระเบิดที่โรงพยาบาลในฉนวนกาซานายกอิสราเอลก็บอกสงครามยังไม่สิ้นสุดในเวลาอันสั้นนี้ด้วยแล้วยังโจมตีทางอากาศตอนเหนือของฉนวนกาซาอย่างหนักหน่วงอยู่  อย่างไรก็ดีทองคำที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเยอะ วันศุกร์ขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยาที่ 2,000 ดอลลาร์เริ่มเห็นแรงเทขายทำกำไรออกมา เมื่อวานเห็นแรงเทขายทำกำไรออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปิดตลาดลดลง 8.5 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,972 ดอลลาร์ ส่วนกองทุน SPDR สัปดาห์ที่แล้วเข้ามาซื้อทองคำ 0.87 ตันเป็นการซื้อหนักเมื่อวันศุกร์ถึง 15 ตัน หลังจากที่ขายทองคำติดต่อกันมา 6 สัปดาห์ เมื่อวานกลับมาขายทองคำอีกรอบแล้วขายออกมา 3.17 ตัน สำหรับประเด็นที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสติดตามกันต่อไปเหตุการณ์ก็ต้องดูว่าจะขยายลุกลามบานปลายหรือเปล่า ตอนนี้ก็มีเหตุการณ์ความตึงเครียดระหว่างชายแดนเลบานอนกับอิสราเอลด้วย  ประเด็นที่ต้องติดตามอื่นๆ ประเด็นเรื่องเศรษฐกิจ มีการประชุมธนาคารกลางยุโรป และสหรัฐจะมีการเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 3 ดัชนีราคาพื้นฐาน พีซีอี(PCE) เดือนกันยายน มีการแถลงของประธานเฟดด้วย ส่วนคืนนี้สหรัฐจะเปิดเผย ดัชนีพีเอ็มไอ(PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการ เดือน ตุลาคม ตลาดประเมินว่าทั้ง 2 ตัวน่าจะลดลงเหลือ 49.5 และ 49.9   แนวโน้มราคาทองคำหลังจากที่เห็นราคาทองคำขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญทางใจาที่ 2,000 ดอลลาร์ ก็เริ่มเห็นแรงเทขายทำกำไรออกมา ถ้าดูทางเทคนิคคาดว่าราคาทองคำน่าจะอยู่ในช่วงของการปรับฐานอาจจะเคลื่อนไหวในกรอบที่แคบลง  กรอบการเคลื่อนไหว 1,960 ดอลลาร์ และ 1,980 ดอลลาร์ แนวรับ ดอลลาร์ 1,960 และ 1,950 ดอลลาร์ แนวต้าน 1,980 ดอลลาร์ และ 2,000 ดอลลาร์ สำหรับราคาทองแท่งของสมาคมเมื่อวานปรับเปลี่ยน 5 ครั้งขายออก 34,200 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันเสาร์  แนวรับ 33,800 บาท 33,700 บาท แนวต้าน 34,000 บาท 34,200 บาท สำหรับกลยุทธ์การลงทุนก็ยังคงให้ติดตามสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสเป็นหลักอยู่เพราะทองคำขึ้นแรงรอบนี้จากสงคราม ถ้าสถานการณ์ดูเหมือนถึงเครียดลดน้อยลงเนี่ยก็มีอะไรเทขายออกมาอย่างแน่นอน แล้วก็เจาะปรับตัวลงแรงนะครับ  ระยะสั้นแบ่งขายทำกำไรบางส่วนไปก่อนและบางส่วนอาจจะถือต่อไป ปรับตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้าน […]

ราคาทองคำ-เงินบาท ประจำวันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม 2566

สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ทองคำปรับขึ้นร้อนแรง พุ่งไม่หยุด ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นร้อนแรงทำจุดสูงสุด ในรอบ 2 เดือน จากประเด็นความกังวลเรื่องสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาส ว่าจะมีความรุนแรงขึ้น แล้วก็จะขยายวงกว้างขึ้น หลังจากที่มีเหตุการณ์ระเบิดลงมาในฉนวนกาซา วันอังคารที่ผ่านมา นักลงทุนก็ยังมีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอยู่  สำหรับการแถลงของ เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด อาจจะผิดหวังนิดนึง ท่านไม่ได้พูดว่าเฟดจะยุติการขึ้นดอกเบี้ย ยังเป็นห่วงและเงินเฟ้ออยู่ ท่านแถลงว่าเฟดมีความมุ่งมั่นที่จะควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่เป้าหมาย 2%  ส่วนกองทุนSPDR เมื่อวานนิ่งๆ ถือทองคำเท่าเดิม  ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเมื่อคืนออกมา ต้องบอกว่ามีทั้งดีและแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ตัวเลขที่ออกมาดีก็คือจำนวนผู้ขอการว่างงาน ยอดขายบ้านมือสอง ที่ออกมาแย่ก็คือดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟด สาขา ฟิลาเดลเฟีย แล้วก็ดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจ ที่สำคัญน่าจะเป็นจำนวนผู้ขอการว่างงานออกมาดีทีเดียวลดลงเหลือ 198,000 ราย ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะออกมา 201,000 ราย แต่ดูเหมือนก็ไม่ค่อยมีผลกระทบกับทองคำ ทองคำยังให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่องสงครามเป็นหลักอยู่  ราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืน 1,973 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 26 ดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นถึง 1.34 %   สำหรับคืนนี้สหรัฐไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ประเด็นสำคัญตอนนี้คงเป็นเรื่องสงครามระหว่างอิสราเอล ฮามาสจะรุนแรงขึ้นหรือไม่ จะนิ่งอยู่อย่างนี้หรือว่าจะสงบลงได้ ก็ทองคำก็จะผันผวนตามประเด็นเรื่องสงครามขึ้น  แนวโน้มราคาทองคำคาดว่า จะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,980 ดอลลาร์ ตรงนี้เป็นหน้าด่านสำคัญทีเดียวเลยประเมินว่าน่าจะมีแรงเทขายทำกำไรออกมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในตะวันออกกลางอยู่ ทองคำก็จะนิ่งเพราะสถานการณ์นิ่งนี้ แต่ถ้าสถานการณ์คลุกขึ้นมา ทองคำก็พร้อมจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้  ทองคำให้แนวรับ 1,950 ดอลลาร์ และ 1,940 ดอลลาร์ แนวต้านสำคัญ 1,980 ดอลลาร์ ที่มองว่าน่าจะมีแรงเทขายออกมาแล้ว ถ้าผ่านขึ้นไปได้แนวต้านถัดไป 1,987 ดอลลาร์ สำหรับราคาทองแท่งของสมาคมเมื่อวานปรับเปลี่ยน 5 ครั้ง ขายออกช่วงเย็น 33,600 บาท เพิ่มขึ้น 300 บาท ราคาทองคำแท่งเมื่อวานทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกแล้ว ขึ้นไปเฉียดๆ 34,000 บาท แนวรับ 33,700 บาท 33,600 บาท แนวต้าน 34,000 […]

1 2 3 4 5 6 20