เชียงใหม่มีรถไฟฟ้าแล้วกี่คัน ? เจาะแนวโน้ม EV ไทย ปี 66-67

ยุคนี้ เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงเทคโนโลยียานยนต์ 

สังเกตได้ว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา เราจะเริ่มเห็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ  Electric Vehicle บนท้องถนนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่กรุงเทพมหานคร หรือแม้แต่เชียงใหม่ของเราเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากการเข้ามาของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนและสหรัฐฯ ประกอบกับเทรนด์การรักษาสิ่งแวดล้อม ที่ถูกพูดถึง จนกลายเป็นกระแสหลักในสังคมไปแล้ว ยิ่งทำให้หลายคนที่จะออกรถใหม่ สนใจรถไฟฟ้ามากขึ้น

ก่อนจะไปถึงลำดับถัดไป เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า “อะไรคือรถไฟฟ้า ( EV )” ?

จากข้อมูลของสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย รถยนต์ไฟฟ้า คือ รถยนต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนอย่างเดียว หรือใช้เครื่องยนต์เผาไหม้ร่วมกันมอเตอร์ไฟฟ้า ทั้งในส่วนของการขับเคลื่อน และผลิตพลังงานไฟฟ้าสะสมในแบตเตอรี่ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงรถยนต์ที่ใช้ก๊าซไฮโดรเจนในการผลิตพลังงานไฟฟ้าเพื่อการขับเคลื่อนอีกด้วย

รถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่

รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด ซึ่งใช้เชื้อเพลิงร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน , รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด ที่สามารถใช้พลังงานจากไฟฟ้าและเชื้อเพลิงคล้ายกับรถยนต์ไฮบริด แต่สามารถชาร์จไฟฟ้าเก็บไว้ในรถยนต์เพื่อขับเคลื่อนมอเตอร์ได้ , รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว และรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง เช่นรถยนต์พลังงานไฮโดรเจน เป็นต้น

สำหรับสถานการณ์รถยนต์ไฟฟ้าในไทย สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานว่า ปัจจุบัน ประเทศไทย ถือเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคอาเซียน โดยมียอดขายแต่ละปีประมาณ 900,000 คัน พบว่าร้อยละ 11 ของยอดขายรถยนต์เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เป็นรถยนต์ไฟฟ้า เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 9 ในเดือนเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว

ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้คาดการณ์ว่า แนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดรถยนต์ไทย ยังคงเติบโตดี คาดว่าภายในปี ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจะอยู่ที่ 68,000 คัน และปี พ.ศ. 2567 จะอยู่ที่ 85,000 คัน โดยหากรัฐบาลเดินหน้ามาตรการกระตุ้นยอดขายและดึงดูดการลงทุนด้านรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ยอดขายอาจปรับเพิ่มขึ้นถึง 100,000 คัน แม้จะเผชิญปัญหาเศรษฐกิจซบเซา รวมถึงการคุมเข้มสินเชื่อ 

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 25 ตุลาคม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงนามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 286/2566 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ โดยนายเศรษฐานั่งเป็นประธานบอร์ดเอง ท่ามกลางการจับตาจากหลายฝ่ายว่าจะเป็นการรื้อโครงสร้างใหญ่ของคณะกรรมการฯ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มที่

โดยการประชุมคณะกรรมการดังกล่าวในสัปดาห์หน้า จะมีวาระสำคัญเร่งด่วน คือ การพิจารณาแพจเกจ EV 3.5 ซึ่งจะเป็นการต่ออายุแพจเกจ EV 3.0 ที่จะสิ้นสุดลงในปีนี้ มีรายละเอียดสำคัญได้แก่ การให้ส่วนลดรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้เงื่อนไขว่าผู้ประกอบการจะต้องตั้งโรงงานผลิตชดเชย รวมทั้งยังมีมาตรการสนับสนุนโรงงานแบตเตอรี่ ซึ่งจะช่วยให้การส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ครบวงจรมากขึ้น

ในจังหวัดเชียงใหม่เอง ก็ถือเป็นอีกพื้นที่ ที่ผู้ประกอบการรถยนต์ไฟฟ้าสนใจเข้ามาท้าชิงส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ ดังจะเห็นได้รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่วิ่งบนท้องถนนมากขึ้นในระยะหลัง ซึ่งกรมการขนส่งทางบก กองแผนงาน กลุ่มสถิติการขนส่ง ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้ 

สถิติจำนวนรถ ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก จำแนกตามชนิดเชื้อเพลิง ณ วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2566 จังหวัดเชียงใหม่มีจำนวนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด 3,395 คัน รถยนต์เบนซิน-ไฟฟ้า 8,622 คัน รถยนต์ดีเซล-ไฟฟ้า 209 คัน รถยนต์เบนซิน-ไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊ก 1,154 คัน รถยนต์ดีเซล-ไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊ก 7 คัน จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 13,387 คัน หรือร้อยละ 0.8 ของจำนวนรถยนต์ทั้งหมดในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีถึง 1,602,243 คัน

แม้ว่าปัจจุบัน จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าในจังหวัดเชียงใหม่ จะมีจำนวนน้อยอยู่ เมื่อเทียบกับจำนวนรถยนต์ประเภทอื่นๆ แต่ในอนาคต หากมาตรการของภาครัฐช่วยให้อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตมากขึ้น  สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่สนใจ เราอาจจะเห็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าบนท้องถนนมากขึ้น

เมื่อถึงจุดนั้น สิ่งที่เราจะต้องติดตามกันต่อ คือระบบโครงสร้างพื้นฐานที่จะรองรับรถยนต์ไฟฟ้า เช่นสถานีชาร์จแบตเตอรี่ จะเพียงพอต่อผู้ใช้งานหรือไม่ รวมถึงกลยุทธ์ทางการตลาดของบรรดาค่ายรถยนต์ต่างๆ ที่จะเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่มากขึ้น จะมีหมัดเด็ดอะไรบ้างที่สามารถช่วงชิงตลาดได้ รวมทั้งนโยบายและมาตรการจากภาครัฐทั้งในส่วนกลางและท้องถิ่น จะช่วยสนับสนุน ต่อยอดและจัดการบริหารรถยนต์ไฟฟ้าในจังหวัดเชียงใหม่อย่างไร

นี่คือคำถามสำคัญ ก่อนที่เทคโนโลยีจะพาชาวเชียงใหม่ก้าวเข้าสู่โลกอนาคตอันใกล้นี้

ที่มา : สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย , PPTV , Thairath , Matichon , กรมการขนส่งทางบก

ร่วมแสดงความคิดเห็น