ลิ้นบอกโรค! รู้โรคได้ ด้วยการแลบลิ้น

เราเคยสังเกตกันหรือไม่ สิ่งแรก ๆ ที่คุณหมอตรวจก่อนก็คือ “ลิ้น” ทำไมต้องต้องตรวจลิ้นก่อน นั่นเป็นเพราะโรคหลาย ๆ โรค ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หรือเกิดความผิดปกติของลิ้นให้เห็นชัดเจน อย่างเช่น โรคมะเร็ง จะทำให้ลิ้นเกิดฝ้าสีขาว ที่กำจัดออกไปไม่ได้

วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” จะมาเล่าเรื่อง ลิ้นบอกโรค ให้ฟัง

ลิ้นคืออะไร

ลิ้น คือ อวัยวะที่อยู่ในปาก มีหน้าที่กลั้วอาหารให้เข้ากัน แล้วส่งลงในลําคอ ช่วยในการออกเสียง และช่วยให้รู้รสชาติอาหาร

การดูลักษณะลิ้น

1.ตัวลิ้น ต้องดูขนาดของลิ้น เช่น อ้วนใหญ่ หรือผอมเล็ก
2.สีลิ้น ตัวลิ้นมีสีซีด หรือแดงสด หรือม่วง
3.ความชุ่มชื้นบนลิ้น ลิ้นมีน้ำชุ่ม หรือแห้ง
4.ฝ้าบนลิ้น เช่น ฝ้ายาวบาง (ถือว่าปกติ) หรือฝ้าขาวหนา หรือฝ้าเหลือง หรือไม่มีฝ้า
5.อาจมีสารบางอย่างที่ทำให้สีของฝ้าแตกต่างกันไป เช่น น้ำนม น้ำผลไม้บางอย่าง ได้แก่ น้ำกระเจี๊ยบ น้ำส้ม เป็นต้น

ลักษณะของลิ้นที่สุขภาพดี

ลิ้นที่สุขภาพดี จะต้องมีสีชมพูอ่อน ปกคลุมไปด้วยปุ่มเล็ก ๆ และต้องไม่มีสีที่เข้ม หรือจุดอยู่บนลิ้น รวมทั้งไม่มีอาการเจ็บ หรือแสบ แต่หากเกิดความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นที่ลิ้น แสดงว่ากำลังมีปัญหาด้านสุขภาพบางอย่างเกิดขึ้น

ความสัมพันธ์ระหว่างลิ้นกับอวัยวะภายใน

1.ลิ้นมีฝ้าสีขาว
เกิดจากการติดเชื้อรา มักเกิดขึ้นหลังจากเจ็บป่วย หรือทานยา ทำให้แบคทีเรียในช่องปากเสียสมดุล นอกจากนี้การมีฝ้าสีขาวที่ลิ้น สามารถบอกได้ถึงโรคไลเคนพลานัส (Lichen planus) แต่ถ้าเห็นว่าบริเวณลิ้นบางที่ มีความแข็ง แบน และเป็นสีขาว และไม่สามารถกำจัดออกไปได้ ถือเป็นสัญญาณของการเกิดฝ้าขาว (Leukoplakia) ในโรคมะเร็ง

2.ลิ้นมีขนบนลิ้น หรือมีสีดำ
การที่ลิ้นของคุณเปลี่ยนสีเป็นสีดำ ก็อาจจะเป็นสัญญาณของการติดเชื้อราที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันอันเนื่องมาจากโรคบางชนิด อย่างเช่น โรคเบาหวาน แต่ถ้าลิ้นของคุณมีขนอ่อน ๆ เกิดขึ้น นั่นคือสัญญาณของปัญหาของสุขภาพช่องปาก ที่ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพหัวใจ คุณอาจกำลังมีความเสี่ยงสูง ที่จะเป็นโรคหัวใจ

3.ลิ้นสีสตรอว์เบอร์รี
หากลิ้นของคุณมีสีแดงเหมือนสตรอว์เบอร์รี คือเป็นสัญญาณเบื้องต้นของโรคคาวาซากิ ซึ่งเป็นโรคที่หายาก และร้ายแรง ที่ทำให้หลอดเลือดทั้งร่างกายเกิดการอักเสบ โดยพบได้มากในเด็ก แต่ถ้าลิ้นของคุณเรียบ และรู้สึกเจ็บในปาก บ่งบอกว่าร่างกายได้รับวิตามิน B3 ไม่เพียงพอ

4.แสบร้อนที่ลิ้น
ถ้าคุณรู้สึกแสบร้อนที่ลิ้น เหมือนกับตอนสัมผัสน้ำร้อน หรือรู้สึกถึงรสชาติของเหล็ก รสขมบนลิ้น แสดงว่าคุณกำลังมีอาการปากแสบร้อน (Burning mouth) หรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น ปากแห้ง ติดเชื้อ กรดไหลย้อน และโรคเบาหวาน นอกจากนี้บางคนยังพบว่า สับปะรด ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก ลูกอม หรือหมากฝรั่ง ก็ทำให้ปากมีอาการแสบร้อนได้เช่นกัน

5.ลิ้นเรียบ
การที่ลิ้นของคุณไม่มีปุ่มเล็ก ๆ ด้านบน อาจเป็นเพราะคุณได้รับสารอาหารบางชนิดไม่เพียงพอ เช่น ธาตุเหล็ก กรดโฟลิค หรือวิตามิน B นอกจากนี้การติดเชื้อ การเป็นโรคแพ้กลูเตน หรือการทานยา ก็สามารถทำให้ลิ้นมีสภาพดังกล่าวเช่นกัน

6.มีตุ่มขึ้น
ใต้ลิ้นถือเป็นบริเวณที่เกิดแผลร้อนในบ่อยที่สุด ซึ่งเป็นตุ่มสีแดงที่มีขนาดเล็ก และทำให้เรารู้สึกเจ็บ ทั้งนี้ตุ่มดังกล่าวจะเกิดขึ้น และหายไปเอง อย่างไรก็ตามการติดเชื้อไวรัส สามารถทำให้เกิดตุ่มเล็ก ๆ บนปลายลิ้น และด้านข้างของลิ้นได้

7.ลิ้นแตก
หากลิ้นของคุณเกิดรอยแตก โดยไม่มีเลือดไหลออกมา เป็นอาการที่เกิดขึ้นตามวัย ยิ่งมีอายุมาก ยิ่งพบได้ง่าย จึงไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะเป็นสัญญาณของอาการป่วยใด ๆ แต่ก็ใช่ว่าจะละเลยได้ เพราะเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรีย อาจเข้าไปอยู่ตามรอยแตกของลิ้นได้ ควรแปรงฟัน รักษาลิ้นให้สะอาด ดื่มน้ำให้เพียงพอ และหมั่นไปพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากอย่างน้อยทุก ๆ 6 เดือน

8.มีติ่งเนื้อเล็ก ๆ ขึ้นที่ขอบลิ้น
หากคุณสังเกตว่ามีติ่งเนื้อเล็ก ๆ เกิดขึ้น โดยไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตุ่มน้ำใส ๆ หรือฝ้าบนลิ้นที่ดูผิดปกติ อาจเป็นติ่งเนื้อที่เกิดขึ้น จากการที่เนื้อเยื่อเจริญเติบโตมากเกินไป จนทำให้กลายเป็นติ่งเนื้อ ซึ่งไม่เป็นอันตราย ส่วนใหญ่ติ่งเนื้อเหล่านี้ กว่าจะสังเกตเห็นได้ก็เป็นปี แต่หากเกิดติ่งเนื้อขึ้นอย่างรวดเร็ว ควรไปหาเพื่อตรวจหาโรคจะดีกว่า

สรุป

ลิ้น บอกโรคได้มากมาย ดังนั้นเราควรดูแลสุขภาพช่องปากให้สะอาด และสุขภาพกายให้แข็งแรงอยู่เสมอนะคะ หากเราสังเกตเห็นความผิดปกติของลิ้น ก็อย่านิ่งนอนใจไป รีบไปหาคุณหมอจะดีกว่าค่ะ เพราะนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคร้ายขึ้นได้ในอนาคต

เรียบเรียงโดย : “เชียงใหม่นิวส์”

อ้างอิงข้อมูลจาก
www.honestdocs.co
www.doctor.or.th
www.health.kapook.com
www.dictionary.sanook.com

บทความที่เกี่ยวข้อง

–เครียดหนัก ! ระวังจะลงกระเพาะ เสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง

–ดื่มนมมากไป อันตรายต่อชีวิต!!!

–เบาหวานเป็นโรคของคนอ้วนจริงหรือ ?

–เป็นมะเร็งในช่องปากนะ! ถ้าบ้วนน้ำยาอย่างเดียวไม่แปรงฟัน

–น้ำเปล่า ดื่มน้อย เสี่ยงติดเชื้อในท่อปัสสาวะ