พี่พิการแทงน้องดับ ลั่นไม่ขอโทษ อ้างถูกถามเมื่อไหร่จะตาย

พี่พิการแทงน้อง ลั่นไม่ขอโทษ อ้างถูกถามเมื่อไหร่จะตาย เลือดขึ้นหน้าลุกขึ้นเซคว้าได้มีดแทงหัวใจดับ

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2567 เวลา 11.50 น. พ.ต.ท.สมเกียรติ รวมเงิน พงส.สภ.เมืองน่าน ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุนครน่าน 191 ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ว่า มีผู้เสียชีวิตจากอาวุธมีด ที่ตึกอุบัติเหตุชั้น 1 รพ.น่าน บาดแผลถูกแทงที่บริเวณกลางหลัง และบริเวณหน้าอกเหนือราวนมด้านซ้าย คมมีดตัดขั้วหัวใจ ทราบชื่อผู้ตาย นายสวิค หรือวิค อายุ 58 ปี พนักงานขับรถวิทยาลัยเทคนิคน่าน บ้านน้ำเกี๋ยน ม.4 ต.น้ำเกี๋ยน อ.ภูเพียง จ.น่านจึงรายงานให้ พ.ต.อ.ชาตรี หทยะวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองน่าน , พ.ต.ท.จักรพงษ์ วงค์ไชย รองผกก.สส.สภ.เมืองน่าน ,พ.ต.ท.สุรศักดิ์ มีเสาเรือน รอง ผกก (สอบสวน)สภ.เมืองน่าน , พ.ต.ต.สุวัฒน์ ศรีบุญเรือง สว.สส.สภ.เมืองน่าน , ร.ต.อ.อนุรักษ์ ขันแก้ว รอง สว.สส.สภ.เมืองน่าน, พร้อมด้วย จนท.ตร.ชุดสืบสวน จำนวนหนึ่ง รุดไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลน่าน

จากการสอบถามญาติ ให้การว่านายสวิคผู้เสียชีวิต อาศัยอยู่บ้านกับบิดาและนาย สุรศักดิ์ อายุ 61 ปี พี่ชาย โดยนายสวิคผู้เสียชีวิต และพี่ชายมักจะมีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำ วันเกิดเหตุ (23/03/67) เวลาประมาณ 09.00 น. ผู้ตายและพี่ชายมีปากเสียงทะเลาะกันและได้เข้าทำร้ายกัน ผู้ตายถูกแทง และได้นำส่ง รพ.น่าน และต่อมาได้เสียชีวิต

หลังจากร่วมกันตรวจชันสูตรพลิกศพแล้ว พ.ต.อ. ชาตรี หทยะวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองน่าน จึงประสานแจ้งให้ พ.ต.อ.ซาญยุทธ ชยมะโน ผกก.ส.ภ.ภูเพียงฯ,พ.ต.ท.วาณัฐพงศ์ สันติพงศธร รอง ผกก.สส.สภ.ภูเพียง จ.น่าน และ พ.ต.ท.ชัยยศ ธนะจิตต์ รอง ผกก.ป.ส.ภ.ฎเพียง จ.น่าน ,พ.ต.ท.บุญมาก กันบุญ สวป.ส.ภ.ภูเพียง,ว่าที่ พ.ต.ต.ดนุทัช กิติยศ สว.สส.สภ.ภูเพียงฯร.ต.อ.บุญส่ง สุยาว,ร.ต.อ.อภิวิชญ์ ใจจันทร์ ,ร.ต.อ.สมบัติ จินต๊ะนา ,ร.ต.อ.พัฒนา ดีปานา,ร.ต.ท.ธวัช ปิงนา,เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจำนวนหนึ่งออกเดินทางไปตรวจทึ่เกิดเหตุพบ ผู้ก่อเหตุรอมอบตัวอยู่แล้ว เป็นชายพิการแขนขาข้างซ้ายอ่อนแรง ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นายสแวน หรือแวน อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายนายสวิค ผู้ตาย จึงทำการควบคุมตัวมามาทำการสอบสวน ผู้ต้องหาคือนายแวน อ้างว่า ระหว่างกำลังจะทานข้าวเช้า นายวิค ซึ่งเป็นน้องชายเข้ามาต่อว่า ว่าสกปรก เมื่อไหร่จะตาย จึงเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นนายวิค ผู้ตายได้กำหมัด ตนจึงลุกขึ้นจะหนี พอดีด้วยตนเองพิการจึงเซไประหว่างเอามือดันตัวไม่ให้ล้ม ได้ไปคว้าเอามีด พอดีกับนายวิค ผู้ตาย เห็น และกำลังหันจะหนี ตนจึงแทงเข้าไปกลางหลัง 1 ที จากนั้น นายวิคได้หันมา ตนจึงจ้วงแทงเข้าไปอีก 1 ทีเข้าที่หน้าอก จากนั้นนายสวิคได้วิ่งหนีไป ตนก็เดินขึ้นบนบ้านชั้น 2 รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เมื่อถามว่า ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ แต่ตอนนี้ได้แทงน้องตายไปแล้วรู้สึกเสียใจ หรืออยากขอโทษอะไรไหม นายแวนตอบว่าไม่รู้สึกเสียใจ ไม่ร้องไห้ด้วยซ้ำ และไม่คิดจะไปขอขมาอะไร เพราะเก็บกดมานานแล้ว มันยังเคยเอาตีนเหยียบคอผม

ส่วน บริเวณบ้านหมู่ที่ 4 ตำบลน้ำเกี๋ยน อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน บ้านที่เกิดเหตุ ทางญาติ ๆ ต่างช่วยกันเก็บของเพื่อหาเสื้อผ้าให้นายวิค ผู้ตายใส่ โดยชาวบ้านเปิดเผยว่า นายวิค เป็นที่รักของทุกคนในหมู่บ้านเป็นคนขยันและมีจิตอาสา กวาดถนน ช่วยงาน และเป็นคนที่ชอบศิลปะ หากบ้านไหนเสียชีวิต นายวิค ก็จะเอาโฟม เอาสีไปนั่งเขียนชื่อ เขียนเจ้าภาพหรีดงานศพให้ ก็เสียใจที่มาด่วนจากไป ซึ่งทั้งคู่ก็เป็นไม้เบื่อไม้เมาทะเลาะกันตลอด สาเหตุก็มาจากเรื่องเงิน โดยก่อนหน้านี้ พ่อของทั้งคู่มีลูก 4 คน ได้ขายที่ดิน และแบ่งเงินให้เท่ากันไปแล้ว โดยนายวิค ได้ดูแลพ่ออยู่บ้าน ส่วนนายแวน ก่อนหน้านี้เคยรับราชการครูที่จังหวัดพะเยาและมีเมียโดยมีลูกติดเมีย 2 คน แต่อยู่กินกันไม่นานก็เลิกกันจากนั้นนายแวนก็เที่ยวเตร่ติดเหล้าจนเงินที่แบ่งกันหมด จนวันหนึ่งเส้นเลือดในสมองแตกทำให้พิการแขนขาข้างขวาอ่อนแรง จึงลาออกจากครูมาอยู่บ้าน โดยมีนายวิค ดูแลทั้งพ่อและพี่ แต่นายแวนก็ขอเงินจากพ่อและนายวิค ทีละแสนสองแสนเพื่อส่งไปให้เมียเก่าและลูกติด

ก่อนวันเกิดเหตุ นายแวนได้ขอเงินพ่อ แต่นายวิคไม่ได้เบิกมาให้ โดยพยานบอกว่าตอนเช้าทั้งสองก็ได้ทะเลาะกันไปรอบหนึ่งแล้ว ขณะที่นายวิคไปเอาเสื้อผ้าของตนและของพ่อในห้องจะมาซัก พยานเห็นว่านายแวนได้เดินเข้าไปในครัว แล้วซ่อนมีดมาทางมือด้านขวาแล้วไปนั่งอยู่ตรงประตู ตนไม่เห็นเหตุการณ์ต่อเพราะกลับบ้านก่อน

จากนั้นได้ยินเสียงนายแสง วัย 86 ปีซึ่งเป็นพ่อ ได้โวกเวกโวยวาย จึงเข้ามาพบนายวิค นอนจมกองเลือดอยู่ริมแท็งค์น้ำ จึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล

ด้านนายแสง วัย 86 ปี พ่อของทั้งสอง เล่าว่า ตนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและไม่ได้ยินอะไร เนื่องจากเป็นโรคหูตึง ตนนั่งผ่าฟืนอยู่หลังบ้าน พอเดินเข้ามาในบ้านก็พบตะกร้าผ้าวางอยู่หน้าประตู ก็แปลกใจ จากนั้นตนได้ขึ้นไปบนชั้น 2 ก็เห็นนายวิค นอนคว่ำอยู่ จะตะโกนถาม ก็เห็นอาการแย่เลยตะโกนให้คนมาช่วย ตนรู้สึกเสียใจเพราะทั้ง 2 คน ก็เป็นลูกของตน ไม่รู้ตายไปจะไปบอกกับเมียที่เสียไปแล้วว่าอย่างไร

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางและแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ให้นายสุรศักดิ์ฯทราบตามข้อกล่าวหาเบื้องตัน นายสุรศักดิ์ฯ ทราบและเข้าใจในข้อกล่าวหาดีแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวผู้ต้องหา ฯ พร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ภูเพียง จ.น่าน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น