บอนสี -ไม้ด่างยังแรง เตือนระวังปั่นราคา รับกระแสนิยมปลูก

ผู้ประกอบการค้าไม้ดอก ไม้ประดับ ย่านตลาดคำเที่ยง เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ช่วงโควิด 19 แพร่ระบาด ผู้คนอยู่บ้าน มีเวลามากขึ้น ทำให้หันมาสนใจปลูกต้นไม้ เพื่อผ่อนคลาย และเป็นงานอดิเรกทำ ส่งผลให้ยอดขายดีขึ้น แต่ไม่มาก ส่วนประเด็นพวกบอนสี ไม้ด่างนั้น มีลูกค้าเข้ามาถาม เลือกซื้อหาบ้าง

“ราคามีตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพัน ขึ้นอยู่กับสายพันธ์ และกระถาง ส่วนราคาที่สูงๆนั้น เข้าใจว่าน่าจะเป็นราคาในสื่อสังคม ที่นิยมแลกเปลี่ยนกันในวงการคนรักบอนสี และไม้ด่างมากกว่า ซึ่งความยิยมปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้ประเภทต่างๆ เป็นไปตามยุคสมัย ช่วงที่ผ่านๆ มาก็มีความนิยม กล้วยไม้, โป๊ยเซียน, บอนไซ, ปาล์ม,ลีลาวดี พอมายุคนี้มีทั้งบอนสี,ไม้ด่าง,มอนสเตอร่า, กล้วยด่าง พวกต้นไม้ที่แปลกๆ กันเป็นส่วนใหญ่ ยิ่งเปิดราคา ติดตามสื่อสังคม เห็นรายได้ ที่เปิดตัวกันมา แล้วนำมาเปรียบเทียบกับคนค้าขาย ในวงการบ้านเรา บางคนเพาะต้นไม้ขายมาทั้งชีวิต ยังมีเก็บเก็บไม่ถึงล้าน แต่ที่ขายๆกัน หยิบจันเงินหมื่น เงินแสนกันรายวัน ขนเงินเป็น ล้านๆมากองต่อหน้า แลกเปลี่ยนต้น
กล้วยก็มี เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันว่าใช่ปกติวิสัยในชีวิตจริงมากน้อยเพียงใด”

ทั้งนี้ทีมข่าว ได้สอบถามความคิดเห็น ประชาชนรที่มาเลือกซื้อต้นไม้ ย่านตลาดคำเที่ยง เชียงใหม่พบว่า กลุ่มที่ชื่นชอบต้นไม้แตกต่างกัน บางส่วนชอบไม้ผล บางคนชอบไม้ใบ ไม้ประดับ และ พืชสวนครัว ส่วนหนึ่ง อาจเลือกหาต้นไม้ตามกระแสไปปลูก เพื่อสร้างเรื่องราวแลกเปลี่ยนในสื่อสังคมก็มีเจ้าของสวน ไม้ประดับ ย่านบ้านโป่ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ รายหนึ่งกล่าวว่า กระแสความนิยม บอนสี ไม้ด่างขณะนี้ เป็นไป ตามภาวะการณ์ ที่ ผู้คน อยู่บ้าน ทำงานที่บ้าน ลูกๆเรียนออนไลน์ มีเวลาว่าง มีการติดตามโซเชี่ยล พอเห็นข้อมูล เรื่องราวที่เผยแพร่กัน เลยอยากทดลอง เริ่มทำแบบนั้น

“จะใช้คำว่าแนะนำ มากกว่า คำเตือนมากกว่า คือ การทำอะไรที่ชอบ เป็นงานอดิเรก แล้วอาจมีช่องทาง เป็นรายได้เสริม โดยไม่สุ่มเสี่ยง ลงทุนมาก ถึงขั้นไปซื้อบอนสี กระถางละหลายๆพัน มาแยกกอ มาทดลองเพาะเลี้ยง เสนอขายผ่านสื่อสังคม เป็นการใช้เวลาที่เกิดประโยชน์ในช่วงนี้ได้ แต่ควรศึกษา เรียนรู้ให้รอบด้าน เข้าไปสืบค้นข้อมูลแค่สไลด์ ไถหน้าจอมือถือ อยากรู็อะไรพิมพ์ลงไป ได้คำตอบทันที แค่บอนสีบ้านเรา หัวบอนราคาหลักสิบ ไม่แพง มาเพาะเลี้ยงแยกปลูกในกระถางสวยๆ โพสต์ขายได้ ของแบบนี้ราคาอยู่ที่ความพึงพอใจ ถ้าเสนอไป ผู้ซื้อยอมรับ การซื้อขายย่อมเกิดขึ้นอย่าลืมว่า บอนสี ไม่ใช่มีแค่ในบ้านเรา ไม่ว่าจะอิเหนา ,ลูกไม้ป่า, กรุงไกเซอร์,วัวแดง,พญาจงอาง ,นกกระทาชมพู เห็นราคา1-2 หัว พร้อมส่ง 199 บาท แต่ฮกหลง ต้นละ 8,500 – บอนสีจีน ต้นละ 20 ลงกระถางสวยๆ ใบงามๆขายกันหลักร้อยถึงพัน อยู่ที่คนซื้อพึงพอใจทั้งนั้น แต่ละปี แหล่งผลิตแถวๆภาคกลาง กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา ผลิตออกมาในตลาดปีละ 2-3 แสนกระถาง ต่อปี ไม่นับรวมที่ทะลักเข้ามาตอนนี้จากการนำเข้าแถวเชียงของ เชียงราย ล๊อตละ 7-8 แสนต้น ถ้าคิดจะโดดเข้ามาวงการนี้ศึกษาให้รอบคอบ”

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตุว่าข้อมูลการนำเข้าบอนสี ผ่านด่านฯเชียงของ เชียงราย ระบุที่เริ่มตั้งแต่ช่วง มิย.ที่ผ่านมานั้นจะมีปริมาณ 14,700 ต้น คิดเป็นมูลค่า 399,750.13 บาท มูลค่าต่อต้น 27.19 บาท , กค. นำเข้า 40,302 ต้น มูลค่ากว่า 1.2 ล้านบาท และช่วง ก.ย. 2564 นำเข้า 792,316 ต้น มูลค่า 17,004,145.46 บาท มูลค่าต่อต้น 21.46 บาท ราคาจำหน่ายในพื้นที่เฉลี่ยต้นละ 100-200 บาท และมี ผู้ค้าจาก ตลาดคำเที่ยง นำมาขาย ในราคาใกล้เคียงกัน ตลาด
บอนสีที่ใหญ่ที่สุดในไทยอยู่ที่ตลาดจตุจักร, ตลาดต้นไม้กาญจนาภิเษก, ตลาดมีนบุรี และตลาดกลุ่มเฟซบุ๊ก

“ในวงการบอนสี ยกย่องว่าเป็น ราชินีแห่งไม้ใบ เริ่มนำมาจากยุโรป ช่วงปี 2425 สายพันธุ์ที่นิยมสมัยนั้นคือ กระนกกระทา และถมยาประแป้ง ช่วงต่อๆมาจะมีบอนสีเจ้ากรุงไกเซอร์ ,บอนสีเจ้ากรุงเดนมาร์ก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านไม้ประดับ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ แนะนำว่าไม้ใบใช้เวลาในการเพาะปลูก อย่าด่วนตัดสินใจ แต่ละต้นใช้เวลาเจริญเติบโต แต่วงการขยับราคาแบบรายวัน ตามสื่อสังคมจะเห็น การโพสต์ขายรายชั่วโมง ราคา กลุ่มไม้ด่างก็เช่นกัน คิดจะเข้าวงการ อย่าเล่นตามกระแสกลุ่มที่ลงทุน หวังผลกำไร จะแตกต่างจากกลุ่มแรกๆ ที่ ปั่นจนเกิดกระแสนิยม รอตกเบ็ดล่อกลุ่มหน้าใหม่ๆ ที่อิงราคาตามหน้าเพจ ราคาขึ้นลงรายวัน ยิ่งกว่าราคาหุ้น กระถาง หลักหมื่น หลักแสน ไม่เป็นไปตามกลไกตลาด เป็นความพอใจของเจ้าของเงิน แต่พอเกิดปัญหาเงินที่ทุ่มทุนไปหายวับกับลูกเล่นการตลาดแบบนี้ หน่วยงานที่ดูแล ด้านคดีความก็ต้องออกมาสะสาง ไม่แตกต่างจากวงการธุรกิจ ธุรกรรมยุคมาไวเจ็บเร็ว เจ๊งแรง”

ร่วมแสดงความคิดเห็น