ปลัดจอมแฉพาน้องสาว หนุ่มเป็นศพลอยน้ำปิง ยื่นหนังสือภาค 5

ความคืบหน้ากรณีพบศพชายนิรนาม ตายริมตลิ่งแม่น้ำปิง พื้นที่บ้านป่าเดื่อ ต.ขัวมุง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 2 มิถุนายน 65 ที่ผ่านมา ต่อมาได้มีญาติของคนตายได้ออกมายืนยันว่าศพดังกล่าวเป็นพี่ชาย โดย น.ส.กฤตพร (สงวนนามสกุล) หรือ น.ส.กล้วย วัย 28 ปี ชาว ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ได้ออกมายืนยันว่า ศพดังกล่าวเป็นพี่ชายของตนเอง ชื่อนายเกียรติศักดิ์ หรือ “อาร์ม” (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มชายรักชาย ซึ่งขณะนี้พี่ชายตนเสียชีวิตผ่านมาเกือบ 1 เดือนแล้ว คดียังไม่คืบหน้าผลนิติเวชฯและดีเอ็นเอยืนยันเอกลักษณ์บุคคลทางนิติเวชฯ ซึ่งญาติสงสัยพี่ชายของตนถูกฆาตกรรมด้วยความผิดปกติหลายประเด็น

น.ส.กล้วย น้องสาวผู้ตายเปิดเผยว่า ยอมรับว่าพี่ชายตนเป็นเพศที่ 3 ได้พักอาศัยอยู่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก่อนหน้านี้พี่ชายตนได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับ พ่อและแม่ ว่าอยากกลับไปเยี่ยมบ้านรับประทานอาหารฝีมือแม่ ไม่มีวี่แววว่าจะคิดสั้นแต่อย่างใด คืนเกิดเหตุ กล้องวงจรปิดได้บันทึกภาพพี่ชายกำลังเดินออกจากคอนโดฯ สะพายกระเป๋า 1 ใบ โดยสวมเสื้อยืด กางเกงขายาว เดินมุ่งหน้าออกไปหน้าปากซอยคอนโดฯ ช่วงเวลาเวลา 01.22 น. ของวันที่ 1 มิถุนายน ก่อนที่พี่ชายจะกลายเป็นศพ กล้องวงจรปิดบริเวณร้านกาแฟหน้าคอนโดฯของพี่ชาย จับภาพขณะพี่ชายกำลังเดินออกจากคอนโดฯ สะพายกระเป๋า 1 ใบ โดยสวมเสื้อยืด กางเกงขายาว เดินมุ่งหน้าออกไปหน้าปากซอยคอนโด ก่อนที่จะมากลายเป็นศพจมน้ำปิง เสียชีวิตอย่างปริศนา ซึ่งศพพี่ชายมีร่องรอยเป็นบาดแผลฉกรรจ์ที่บริเวณหางตาด้านขวา เลือดไหลเปรอะเต็มศีรษะ ใบหน้ามีบาดแผลฟกซ้ำอีกหลายแห่ง จึงมั่นใจว่าถูกฆาตกรรมมาจากที่อื่น แล้วคนร้ายโยนศพทิ้งน้ำปิง

นอกจากนี้ ยังสงสัยชายคนสนิทซึ่งทราบมาอีกทีว่า ก่อนหน้าที่พี่ชายจะเสียชีวิต พี่ชายได้พักอาศัยกับชายคนหนึ่งพักอยู่กันได้ 1-2 ปี คาดว่าได้คบหากับพี่ชายแบบลับๆ ซึ่งหลังเกิดเหตุตนเองได้เดินทางไปสอบถามกับนิติคอนโดฯ ที่พี่ชายพักได้ข้อมูลจากนิติคอนโดฯ ว่า ก่อนหน้าที่พี่ชายจะเสียชีวิต วันที่ 31 พฤษภาคม พี่ชายได้ทำการยกเลิกการสแกนใบหน้าชายคนสนิทคนนี้ ออกจากการเข้าคอนโดฯแห่งดังกล่าว

หลังจากพี่ชายเสียชีวิตยังไม่มีผลนิติเวช และผลยืนยันเอกลักษณ์บุคคลยังไม่ออกมา ทางครอบครัวก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ 1 เดือนแล้ว ศพพี่ชายก็ยังไม่ได้ออก ยังอยู่โรงพยาบาล อีกทั้งคดีก็ไม่คืบหน้า ขณะนี้ได้มีหนังสือแจ้งหนี้จาก กยศ.ให้ไปชำระหนี้ จำนวน 150,400 บาท ปัจจุบันคงเหลือ 94,739.08 บาท ทางครอบครัวเดือดร้อนมาก พ่อมีอาชีพเป็นลูกจ้างรายวัน แม่มีอาชีพเลี้ยงวัว ได้ส่งเสียให้พี่ชายจนเรียนจบมีงานทำหวังจะได้พึ่งพาเป็นเสาหลักของครอบครัว แต่ก็มาเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมด้วยให้สื่อช่วยตามหาความจริง

ซึ่งตนเองยืนยันว่า พี่ชายไม่มีวันคิดฆ่าตัวตายเด็ดขาด เพราะเขาเป็นคนที่รักสุขภาพมาก ระมัดระวังเรื่องการกินทุกอย่าง ไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ และชอบดำน้ำ ว่ายน้ำเป็น พี่ชายจะไปคิดสั้นกระโดดสะพานฆ่าตัวตายเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้ เป็นคนรักครอบครัว รักพ่อรักแม่ และเป็นเสาหลักของบ้าน ก่อนหน้าพี่ชายจะตายยังบอกกับตนเองและครอบครัวว่า จะกลับไปหาที่บ้านอาทิตย์หน้า พี่ชายไม่น่าจะคิดฆ่าตัวตาย นอกจากนี้ ก่อนจะเสียชีวิต ได้ไปยกเลิกการสแกนใบหน้าของคนสนิทที่พี่ชายเคยคบหา ทำไมต้องยกเลิก ประกอบกับ 3 วันก่อนเกิดเหตุ มีญาติๆ เห็นพี่ชายมีร่องรอยเขียวช้ำบริเวณหน้าผาก ซึ่งพี่ชายอาจจะถูกใครบางคนทำร้ายหรือไม่ นอกจากนี้ตนยังสงสัยว่า ทำไมพี่ชายต้องเดินออกมาจากคอนโดฯ และขึ้นรถจักรยานยนต์กับชายปริศนา หากเรียกบริการรับรถส่ง ก็เรียกให้มารับในคอนโดฯ ได้ ซึ่งคนที่มารับอาจจะลวงให้พี่ชายออกมาก็ได้ กล้องในคอนโดฯจะได้ไม่เห็น ก่อนจะพาพี่ชายไปทำร้าย

นอกจากนี้ จากการสืบสวนของตำรวจยังพบว่า หลังผู้ตายถูกชายปริศนารายหนึ่งรับตัวขึ้นรถจักรยานยนต์ไป สัญญาณการใช้โทรศัพท์ของผู้ตายครั้งสุดท้ายเวลา 03.53 น. ของวันที่ 1 มิ.ย. ไปหลุดตกอยู่บริเวณริมแม่น้ำปิง ใกล้วัดป่าแดด ห่างจากคอนโดฯผู้ตาย ประมาณ 12 กิโลเมตร และจุดที่พบสัญญาณโทรศัพท์ครั้งสุดท้ายนี้อยู่ห่างจากจุดพบศพบริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำปิง ใกล้วัดป่าเดื่อ 9 กิโลเมตร และห่างจากคอนโดฯผู้ตายกว่า 20 กิโลเมตร ทำให้เป็นที่น่าสงสัยว่าพี่ชายตนอาจถูกฆ่าจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งไว้บริเวณดังกล่าว

ด้าน น.ส.พิม (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นญาติผู้ตาย เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่นายอาร์ม จะเสียชีวิต 3 วัน ผู้ตายได้วีดีโอคอล มาคุยกับตนเรื่องเป็นธุระหาสมุดบัญชีธนาคารให้ และได้พูดคุยกันเป็นปกติ และสังเกตเห็นผู้ตายมีรอยฟกช้ำที่หน้าผาก จึงสอบถาม แต่นายอาร์มกลับปิดกล้องและไม่ยอมพูดถึง ขณะที่ญาติอีกคนได้เล่าให้ตนว่าก่อนเกิดเหตุ นายอาร์มได้มาเยี่ยมที่บ้านสังเกตเห็นรอยฟกช้ำ บนหน้าผากของนายอาร์มเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้สอบถามอะไร หลังจากที่นายอาร์มเสียชีวิตอย่างปริศนา จึงคิดว่านายอาร์มคงมีเรื่องทะเลาะกับแฟนหนุ่ม

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 มิ.ย. 2565 นายบุญฤทธิ์ หรือ “ปลัดจอมแฉ” นิปวณิชย์ ปลัด อ.สันทราย พร้อมกับ น.ส.กล้วย น้องสาวผู้ตาย และญาติเข้าพบ พล.ต.ท. ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม กรณีที่นายอาร์ม ตายปริศนา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสำนักงาน ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 มารับหนังสือก่อนที่จะประสานให้นำเอกสารทั้งหมดไปมอบกับ พ.ต.ท.นพดล พิมานศรีวิไล รอง ผกก.สอบสวน สภ.สารภี เพื่อเร่งรัดสำนวนคดี และผลนิติเวชฯและดีเอ็นเอยืนยันเอกลักษณ์บุคคลเพื่อคลายข้อสงสัยของญาติผู้ตาย

อ่านข่าวก่อนหน้า : พบศพชายวัย 52 ปี ลอยขึ้นอืดกลางแม่น้ำปิง ,(มีคลิป) น้องสาวร้องพี่ชายถูกฆ่าโยนน้ำปิงคดีไม่คืบ

ร่วมแสดงความคิดเห็น