เตือนประชาชน ระวังไข้เลือดออก ปีนี้เสียชีวิตแล้วกว่า 17 คน

เตือนประชาชน ระวังไข้เลือดออก ปีนี้พบผู้ป่วยแล้วเกือบ 2 หมื่นราย เสียชีวิต 17 คน

จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 24 สิงหาคม 2565 มีรายงานผู้ป่วยทั่วประเทศ 19,380 ราย เสียชีวิต 17 ราย กลุ่มอายุที่พบอัตราป่วยมากที่สุด คือ 5 -14 ปี รองลงมา 15 – 24 ปี และเด็กแรกเกิด – 4 ปี พบผู้ป่วยกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ จังหวัดที่พบอัตราป่วยสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพของสัปดาห์นี้ คาดการณ์ว่าปีนี้มีโอกาสพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเพิ่มมากขึ้นตามวงรอบของปีที่จะระบาด โดยมีแนวโน้มพบผู้ป่วยในกลุ่มผู้ใหญ่มากขึ้น และในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝนซึ่งมีฝนตกในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ทำให้มีน้ำขังตามภาชนะต่างๆ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย และอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เกิดการระบาดของโรคได้  

กรมควบคุมโรค จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ร่วมกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบริเวณบ้านและโรงเรียนทุกแห่ง โดยใช้มาตรการ 3 เก็บป้องกัน 3 โรค (โรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา) ได้แก่ เก็บบ้าน/โรงเรียนให้สะอาดไม่ให้ยุงลายเข้ามาเกาะพัก เก็บภาชนะกักเก็บน้ำให้มิดชิดเพื่อป้องกันยุงลายลงไปวางไข่ เก็บขยะภายในบริเวณบ้าน/โรงเรียน ให้เรียบร้อยไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย พร้อมทั้งจัดกิจกรรมเสริมการจัดการสิ่งแวดล้อม กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงในโรงเรียน เช่น กิจกรรม BIG CLEANING DAY รวมถึงการป้องกันตนเองจากการถูกยุงกัด ทั้งในบริเวณบ้านและโรงเรียน  ทั้งนี้ หากประชาชนหรือบุตรหลานมีอาการไข้สูงลอย รับประทานยาแล้วไข้ไม่ลดหรือลดแล้วไข้กลับมาสูงอีก ร่วมกับอาการปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระบอกตา หรือมีจุดเลือดออกที่ลำตัว และแขน ขา ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง โดยเฉพาะยาลดไข้ในกลุ่มแอสไพริน และไอบูโพรเฟน  นอกจากนี้ หากมีอาการ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อยหอบ ซึ่งอาจเป็นการเจ็บป่วยร่วมกันระหว่างไข้เลือดออกกับโรคโควิด- 19 อาจทำให้มีอาการทรุดหนักลงได้ ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยแยกโรคให้ชัดเจน และได้รับการรักษาที่เหมาะสม เพื่อป้องกันอาการรุนแรงและลดการเสียชีวิต สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

ร่วมแสดงความคิดเห็น