จับตา!! การเมืองเชียงใหม่ ชิงเกมอำนาจขั้วใหม่-ขั้วเดิม

จับตา!! การเมืองเชียงใหม่เคลื่อนไหว ปรับแผนเคลื่อนพลรับปีใหม่ขั้วใหม่หรือขั้วเดิมใครจะอยู่หรือใครจะไป


จับตาการเมืองเชียงใหม่หลัง “นายกเศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีขึ้นเหนือมาแบบถี่ยิบจัดภารกิจโปรเจคใหญ่หลายโครงการ หวังเรียกคืนฐานเสียงเพื่อไทยที่เชียงใหม่ อันเปรียบเสมือนเมืองหลวงของพรรคเพื่อไทย ที่การเลือกตั้งครั้งล่าสุดถูกคู่แข่ง “พรรคสีส้ม” ตีกระจุยกระจาย ในขณะที่ฐานเสียงการเมืองท้องถิ่นของเพื่อไทยขยับรับลูกความเคลื่อนไหวทั้ง อบจ.เชียงใหม่ที่เพื่อไทยเชียงใหม่ชนะการเลือกตั้งพร้อมแนวร่วมต่างตบเท้าแบบมีนัยยะทางการเมือง เพื่อเตรียมบดขยี้พื้นที่ไข่แดงนครเชียงใหม่ ที่ขณะนี้อยู่ในการบริหารงานของกลุ่มตระกูล “บูรณุปกรณ์”

นายกเศรษฐา ทวีสิน

ทีมการเมือง วิเคราะห์ถึงกระแสการเมืองห้วงต้อนรับปีใหม่ 2567 ความเคลื่อนไหวของทีมพรรคเพื่อไทย แกนนำพรรคระดับคีย์แมนในส่วนของท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกอบจ.เชียงใหม่ นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ รองนายก อบจ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยคณะสมาชิกสภา อบจ.เชียงใหม่ ในขั้วของเพื่อไทยเชียงใหม่และแกนนำสำคัญ ๆ ระดับนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ไข่แดงเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้นัดรวมตัวกันเพื่อนำของขวัญเพื่อสวัสดีปีใหม่กับ “นายกสมชาย วงศ์สวัสดิ์” อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมเจ้าแม่วังบัวบาน “คุณแดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” การพบกันในห้วงวันปีใหม่ หากมองโดยทั่วไปก็คือเรื่องปรกติธรรมดา แต่ทว่าหากมองในมุมของการเมืองแล้วนั้น แผนการอันลึกล้ำเรียกคืนพื้นที่ฐานเสียงของเพื่อไทยยามนี้จะมากน้อยแค่ไหนนั้น

นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร

การสวัสดีปีใหม่ย่อมมีนัยยะแอบแฝงในส่วนของฐานเสียงและการเมืองอย่างแน่นอน การพบกันในระดับแกนนำพื้นที่เชียงใหม่ถูกมองว่า นี่คือสัญญาณเปิดทางในด้านการเรียกคืนฐานคะแนนเสียงที่เคยเพลี้ยงพร้ำในการเลือกตั้ง ส.ส.เขต รวมถึง ปาร์ตี้ลิสต์ ที่เคยถูกพรรคสีส้ม “ก้าวไกล” ตีกระจุยคว้าชัยไปถึง 7 เขตเลือกตั้ง ส่วนอีก 1 เขตนั้นเพื่อไทยต้องพ่ายให้กับ “พรรคพลังประชารัฐ” ทำให้เพื่อไทยต้องคิดหนักเหมือนเมืองหลวงที่ถูกตีแตก การขยับรับปีใหม่กับการขึ้นเหนือโดยเฉพาะเชียงใหม่ของ “นายกเศรษฐา ทวีสิน” คอการเมืองมองว่าเป็นการ “ทวงคืนเมืองหลวงเพื่อไทย” และลึกไปกว่านั้นนั่นคือสัญญาณ “ชินวัตร” ทวงคืนเมืองหลวงเพื่อไทย

นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์

หมากเกมการปรับแผนเคลื่อนพลและนัดแนะกันกับนัยยะด้านการเมืองปีใหม่นี้ เสมือนสัญญาณระฆังพร้อมเสียงปี่กลองกำลังเริ่มอุ่นเครื่อง ถึงแม้จะเป็นการชิมลางอุ่นเครื่องด้านการเมือง และกระนั้นยังมีการเชื่อมโยงไปสู่การเมืองท้องถิ่นในพื้นที่เขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ที่ขณะนี้กลุ่มการเมืองขั้ว “บูรณปุกรณ์” ที่ยังรักษาฐานที่มั่นไว้อย่างเต็มที่ พร้อมสู้ศึกเลือกตั้้งท้องถิ่นในครั้งต่อไป หมากเกมนี้ในขั้วของเพื่อไทยเชียงใหม่ ซึ่งมี “ส.ว.ก๊อง พิชัย เลิศพงศ์อดิศร” นายกอบจ.เชียงใหม่ ที่เคยชิงเก้าอี้ตัวสำคัญจาก “นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์” มาอย่างชนิดที่ว่ากว่าจะชนะเล่นเอาหืดขึ้นคอ การเลือกตั้งครั้งนั้น กูรูการเมืองท้องถิ่น จับกระแสถึงตัวหาคะแนนที่สำคัญซึ่งประสานได้สิบทิศอย่าง “เจ้ปุ้ย-วิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์” เป็นรองนายกอบจ.เชียงใหม่ในขณะนี้ เป็นแม่แรงสำคัญในการดึงดูด เพราะหลายฝ่ายยอมรับว่า เป็นการเมืองที่มีแนวคิดแบบผสมผสานได้ทั้งบู๊และบุ๋น เชี่ยวชาญในหลากหลายอาชีพและสามารถโน้มน้าวคนทุกวัยเข้าด้วยกัน

หากมองถึงการมาปฏิบัติภารกิจของนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่สังคมจับตามอง ยิ่งไปกว่านั้นคือการเรียกฐานเสียงคืนจากพรรคสีส้มที่ ส.ส.เพื่อไทยเคยพ่ายแพ้ รวมไปถึงการเมืองท้องถิ่นที่หัวหน้าพรรคสีส้มเคยประกาศไว้ว่า จะส่งคนลงเล่นการเมืองในระดับท้องถิ่นทั่วประเทศ ที่สำคัญเชียงใหม่ในอดีตคือเพื่อไทยทั้งหมด ศึกเลือกตั้งทั้ง ส.ส. และการเมืองท้องถิ่นคราวหน้า กระแสการชิงเก้าอี้ทั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่และนายกอบจ.เชียงใหม่ หนีไม่พ้นต้องอยู่ที่ 2 พรรคเมืองนี้อย่างแน่นอน

ย้อนมาที่ท้องถิ่นไข่แดงในนครเชียงใหม่ กระแสข่าวที่กำลังพัดโหมกระพืออยู่ในขณะนี้พุ่งเป้าไปที่หญิงแกร่งอย่าง “เจ๊ปุ้ย-วิภาวัลย์ วรพุฒิพงศ์” รองนายกอบจ.เชียงใหม่ ที่ประสบการด้านการเมืองท้องถิ่นมีไม่น้อยกว่า 20 ปี จะเป็นคนสำคัญที่ “เพื่อไทยเชียงใหม่” จะปล่อยตัวลงสนามท้องถิ่นใหญ่ไข่แดง เพื่อทวงพื้นที่เพื่อไทยคืนมาในระดับท้องถิ่นให้ได้เสียก่อน ซึ่งจำเป็นจะต้องลงสนามต่อสู้กับ “ตระกูลบู” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นครเชียงใหม่ “ค่ายบู” ครองอำนาจมาหลายสมัย คงไม่ธรรมดาแน่นอน เนื่องจากฐานเสียงซึ่งสืบทอดมายาวนาน รวมถึง “เสี่ยโต๊ะ บุญเลิศ” เคยนั่งเก้าอี้นายกเทศมนตรีนี้ รวมไปถึง “ทัศนัย บูรณุปกรณ์” หลานรัก จนกระทั่งสืบทอดอำนาจบุญเลิศสู่ยุคหลานชายอีกคนคือ “อัศนีย์ บูรณุปกรณ์” ขณะนี้นั่งเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่

และขณะนี้คนที่จะมานั่งเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ถูกพุ่งไปที่ “เจ๊ปุ้ย” เนื่องจากเคยทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุก ๆ ฝ่ายทุกขั้วแบบไก่เห็นตีนงู จนกระทั่งเดินทางมาถึงจุดที่จะมี “เพื่อไทยเชียงใหม่” ลงสนามแข่งขันรอบต่อไป ในศึกชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีสำนักเจดีย์ขาว

ประจวบเหมาะกับการลงพื้นที่แบบถี่ยิบเช่นเดียวกันของ “เจ๊ปุ้ย” ทั้งก่อนหน้าและห้วงปีใหม่นี้ เป็นที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง ในศึกเลือกตั้งรอบหน้าในเทศบาลนครเชียงใหม่ ที่ขุมกำลังแต่ละแขวงเลือกตั้ง รวมถึงฐานเสียงถูกเพื่อไทยกลับมาทวงคืนชนิดที่ว่า ถึงลูกถึงคนกันเลยทีเดียว

และกลางปีนี้ 2567 ความชัดเจนเด่นชัดในเพื่อไทยเชียงใหม่ ที่โปรเจคใหญ่ ๆ จากคณะรัฐบาลของเพื่อไทยที่มี “นายกเศรษฐา” เป็นแกนหลักได้ป้อนขึ้นมาหลายโปรเจคเพื่อเอาใจคนเชียงใหม่ ทั้งสนามบิน รถฟ้า พรบ.อากาศสะอาด ฯลฯ จึงต้องจับตาดูเพื่อไทยเชียงใหม่ว่าจะเดินเกมการเมืองชิงอำนาจครั้งนี้อย่างไร กลางปีนี้น่าจะมีความเด่นชัดมากยิ่งขึ้น

“ทีมการเมือง” รายงาน

ร่วมแสดงความคิดเห็น