พ่อครูที่ถูกทำร้าย ประกาศไม่รับการขอขมา!

พ่อครูที่ถูกทำร้าย ประกาศไม่รับการขอขมา! ด้านโรงเรียนและชุมชนเสนอมาตรการ ลดความเสี่ยงการเกิดเหตุร้าย

วันที่ 22 ม.ค. 67 ความคืบหน้ากรณีที่มีครูหญิงซึ่งเข้าเวรเฝ้าโรงเรียนบ้านโป่งเกลือ ต.ดอยลาน อ.เมืองเชียงราย ได้ถูกนายนิรันดร์ หนุ่มรับจ้างตัดไม้ให้กับโรงเรียน เข้าไปทำร้ายร่างกายจนคุณครูได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลปากแตก และกระดูกซี่โครงหัก เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 20 ม.ค. 67 ส่วนผู้ก่อเหตุที่ทำร้ายร่างกายครูได้หลบหนีไป ก่อนที่จะมีการประสานเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงรายเพื่อต่อสู้คดี ส่วนครูผู้บาดเจ็บเบื้องต้นถูกนำส่งไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ แต่ล่าสุดได้เข้าไปรับการรักษาที่ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงแล้ว

ขณะที่ในทางคดีนั้น เบื้องต้นตำรวจได้ตั้งข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส เสพและเป็นผู้ขับขี่รถเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)” กับผู้ก่อเหตุ ส่วนข้อหาอื่น ๆ ไม่ว่าพยายามฆ่า พยายามที่จะข่มขืนกระทำชำเรา เจ้าหน้าที่จะได้สอบปากคำผู้ต้องหา ผู้เสียหาย และรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ โดยยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถตั้งข้อหาเพิ่มได้หรือไม่

นายศรีมูน ชัยสุวรรณ อายุ 67 ปี นายก ทต.ดอยลาน เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกันของรอง ผอ.สพป.เชียงราย เขต 1 ผู้บริหารโรงเรียน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้นำท้องที่ท้องถิ่นและตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่รับผิดชอบของโรงเรียนบ้านโป่งเกลือ ได้แก่ ม.4 ม.10 ม.16 และ ม.18 รวมประมาณ 100 คน ได้ร่วมพูดคุยกันเพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยและการเข้าเวรของครู โดยในที่ประชุมได้เรียกร้องให้ทางโรงเรียนเปิดปิดประตูเข้าออกโรงเรียนให้เป็นเวลา โดยเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ควรจะปิดประตูไม่ให่ใครเข้าออก เพราะเป็นอันตรายสำหรับครูที่มาเข้าเวร โดยเฉพาะครูผู้หญิง และเด็ก ๆ ที่มาเล่นในโรงเรียนวันหยุด เพราะเราไม่รู้ได้เลยว่าจะมีใครเข้ามาในโรงเรียนเมื่อใด และจัดสภาพแวดล้อมในโรงเรียนไม่ให้มีจุดอับสายตา และก็จะมีมาตรการอื่น ๆ ที่ทางชุมชนและโรงเรียนจะมาร่วมพูดคุยหาความชัดเจนกันอีกครั้ง

นายเกตุ (สงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี บิดาของครูผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า อยากขอความเป็นธรรมกับผู้มีอำนาจและทุกหน่วยงานให้กับลูกสาวของตนที่ถูกทำร้าย ล่าสุดอาการยังทรงตัวอยู่แต่ข้องใจว่าทำไมทางโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ถึงให้นอนแค่คืนเดียวทั้งที่อาการหนักปานนั้น ในความเป็นพ่อถ้าถามความรู้สึกต้องบอกว่าช้ำใจจนพูดไม่ออก ลูกใครโดนทำร้ายขนาดนี้ก็คงเป็นเช่นเดียวกันกับตน ผู้ก่อเหตุไม่ต้องมาขอโทษหรือขอขมาใด ๆ และยังรู้สึกแปลกใจคาใจมากว่า ผู้ที่เข้า ๆ ออก ๆ เรือนจำหรือคุกอย่างนี้ ผู้ที่มีประวัติเสพยาเสพติดอย่างนี้ จริง ๆ ไม่สมควรอยู่บนโลกใบนี้ด้วยซ้ำ แต่นี่ยังปล่อยให้เข้ามาทำงานในสถานที่ราชการอย่างโรงเรียนได้โดยไม่ได้มีการตรวจสอบประวัติใด ๆ เลยเหรอ

ร่วมแสดงความคิดเห็น