2 มีนาคม 2567 ในพื้นที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 450 เมตรเป็นพื้นที่ราบลุ่มน้ำอุดมสมบูรณ์ ถึง 1,400 เมตร ที่เป็นพื้นที่ภูเขาสูง แต่ก็ยังมีความอุดมสมบูรณ์ เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ผลิตหอมหัวใหญ่ที่มีคุณภาพปลูกกันมากถึง 2,700 ไร่ และส่งออกสู่ตลาดในประเทศ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกหอมหัวใหญ่ในปีนี้
จากการเข้าสำรวจผู้ปลูกหอมหัวใหญ่รายหนึ่งที่ปลูกมานานหลาย คือนายสมชาย สุขใจบุญ เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหัวฝาย ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ที่จบการศึกษาด้านการเกษตรกรรม มีความรู้ความชำนาญทางการเกษตร ได้ให้สัมภาษณ์เรื่องการปลูกหอมหัวใหญ่ว่าการลงทุนโดยเฉลี่ยไร่ละ 30,000-35,000 บาท ใช้เวลาปลูกทั้งหมดประมาณ 140 วัน หว่านกล้าใช้เวลา 35-45 วัน ถอนปลูกจนถึงเก็บเกี่ยว ใช้เวลาประมาณ 100 วัน ผลผลิตนั้นมันอยู่ที่สภาพอากาศ ถ้าอากาศหนาวเย็นยาวคือทั้งกลางวันกลางคืน ก็จะทำให้ผลผลิตหอมหัวใหญ่ออกมามีคุณภาพ ทั้งหัวสวย มีน้ำหนักมาก ไม่ติดโรคพืช และไม่เน่า จะขายได้ราคาดีกว่า เฉลี่ยไร่ละ 8,000 ถึง 10,000 กิโลกรัม เลยทีเดียว แต่ถ้าอากาศหนาวเย็นไม่ยาวไม่สม่ำเสมอ ผลผลิตก็จะออกมาน้อย หัวไม่ใหญ่ น้ำหนักน้อย ก็จะได้โดยเฉลี่ยไร่ละไม่ถึง 4,000 กิโลกรัม ในปีนี้ได้ปลูกประมาณ 4 ไร่กว่า คาดว่าน่าจะได้น้ำหนักรวมแล้วประมาณ ไร่ละ 5,000 กิโลกรัม ทั้งหมด 20,000 กิโลกรัม วันนี้ได้ขายให้กับนายทุนพ่อค้าในราคา กิโลกรัมละ 11 บาท ตกลงกันไว้ก่อน (แต่เช้านี้เริ่มขึ้น12 บาท) ก็พอใจแล้วคาดว่ากะจะได้เงิน 220,000 บาท เฉลี่ยไร่ละประมาณ 55,000 บาท ต่อไร่
ปีนี้ราคาดีพ่อค้ามาให้ราคาที่เกษตรกรพอใจ ไม่ต้องพึ่งสหกรณ์ สามารถถอนแล้วขายให้นายทุนได้เลยและมีรถมารอรับถึงสวน และถอนช่วงนี้หอมจะดีมาก ไม่โดนฝนตกใส่สามารถเก็บรักษาได้นานไม่เน่าเสียและไม่เป็นเชื้อรา ผู้บริโภคก็จะได้บริโภคหอมหัวใหญ่ที่มีคุณภาพ เมื่อเกษตรกรถอนหอมหัวใหญ่ออกแล้วก็ยังมีต้นพริกที่ปลูกพร้อมกับต้นหอม ที่ทางเกษตรกรจะได้ดูและและรอวันเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงเดือนต่อไป ซึ่งเป็นการสร้างงานสร้างรายได้ไม่ให้เสียเวลาแต่ก็ยังไม่มั่นใจราคาพริกในปีนี้มันอยู่ที่พ่อค้าจะรับซื้อแพงหรือถูก
ร่วมแสดงความคิดเห็น