คณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและการตำรวจวุฒิสภา ขับเคลื่อนผลักดันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการดำเนินการตาม พรบ. การปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 เวลา 09.00 น. นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้การต้อนรับ ประชุมร่วมกับ พลตำรวจเอก ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ประธานคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและการตำรวจวุฒิสภาผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ณ ห้องประชุมขุนลุมประพาส ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอนณ เพื่อรับฟังข้อมูลและข้อคิดเห็น การดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ.2565 รวมทั้งปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการ การไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางอาญาตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 การจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทประจำสถานีตำรวจ การดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 ในการขับเคลื่อนผลักดันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และการตำรวจ มีหน้าที่และอำนาจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ กระทำกิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริงหรือศึกษาเรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวกับการดำเนินการตามนโยบายด้านกฎหมาย การบริหารงานยุติธรรมกระบวนการยุติธรรม ตำรวจ อัยการ และราชทัณฑ์ การปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายป้องกันและรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศ การสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม การพัฒนากลไกและวิธีการปฏิบัติงานกิจการตำรวจให้มีประสิทธิภาพพิจารณาศึกษา ติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ และแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคณะกรรมาธิการจะได้รวบรวมข้อมูลความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับในวันนี้ เพื่อขับเคลื่อนให้การดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์กับประชาชนตามเจตนารมณ์และวัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัติต่อไป
สำหรับพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 ถือว่ามีความสอดคล้องกับ แผนการปฏิรูปประเทศ ด้านกฎหมาย ที่ได้กำหนดให้มีการปรับปรุงกฎหมาย ในการกำหนดโทษอาญา ให้เหมาะสมกับสภาพความผิดหรือกำหนด มาตรการลงโทษ ให้เหมาะสมกับ การกระทำความผิด และฐานะของผู้กระทำความผิด เพื่อมิให้บุคคล ต้องรับโทษหนัก เกินสมควร หรือต้องรับภาระในการรับโทษ ที่แตกต่างกัน อันเนื่องมาจากฐานะทางเศรษฐกิจ ที่แตกต่างกัน
ร่วมแสดงความคิดเห็น