พ่อค้า-แม่ค้า แผงลอยย่านกาดหลวงตอนค่ำ ร้องขอความเป็นธรรม หลังถูก จนท.ไล่

เดือดร้อนหนัก พ่อค้า-แม่ค้า แผงลอยย่านกาดหลวงเชียงใหม่ ขายของตอนค่ำ ถูกเจ้าหน้าที่นำกำลังไล่ที่ เผยขายกันมามากกว่า 10 ปี จู่ ๆ ถูกสั่งห้ามขาย รวมตัวเข้าพบผู้เกี่ยวข้องขอความเป็นธรรม เพราะเสียหายของที่ลงทุนไปแล้วไม่ได้ขาย

วันที่ 2 พ.ค. 67 กลุ่มผู้ประกอบการ พ่อค้า-แม่ค้า ช่วงเย็นในย่านกาดหลวงเชียงใหม่ และย่านถนนช้างม่อย จำนวนรวมกว่า 100 คน ได้เดินทางมายังเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อเข้าพบ นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ภายหลังจากที่ช่วงค่ำคืนวานนี้ (1 พ.ค.67) ได้เกิดเหตุการณ์ที่ทางเจ้าหน้าที่จากเทศกิจเทศบาลนครเชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้เข้าไปสั่งให้ทางกลุ่มผู้ประกอบการ และพ่อค้า-แม่ค้า ดำเนินการเก็บร้านและสินค้าทั้งหมดที่ตั้งขายอยู่ในย่านดังกล่าว อีกทั้งสั่งห้ามไม่ให้มีการขายสินค้าอีกในวันถัดไป โดยไม่ได้มีการแจ้งกับทางผู้ประกอบการและพ่อค้า-แม่ค้า ล่วงหน้าแต่อย่างใด จนทำให้เกิดเสียงโต้แย้ง และข้อสงสัยกับทางกลุ่มผู้ประกอบการ และพ่อค้า-แม่ค้า ในย่ายดังกล่าวขึ้น อีกทั้งบางรายยังได้มีการบันทึกคลิปเหตุการณ์ในช่วงที่เจ้าหน้าที่ลงไปสั่งห้ามและแจ้งให้เก็บร้านอีกด้วย

โดยทาง นางธนภร นาราธนานันท์ ตัวแทนพ่อค้า-แม่ค้า และหนึ่งในผู้ค้าขายในพื้นที่ดังกล่าว บอกว่า จากกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาแจ้งให้ทาง พ่อค้า-แม่ค้า ถนนสายช้างม่อย ยุติการขายของในย่านดังกล่าวทั้งหมด โดยที่ไม่ได้มีการแจ้งให้ทราบก่อนล่วงหน้าแต่อย่างใด ส่งผลทำให้กลุ่มพ่อค้า-แม่ค้า ที่เคยขายของในย่านดังกล่าวมานานมากกว่า 10 ปี เกิดข้อสงสัยและต้องการคำตอบจากทางเจ้าหน้าที่ และจากวันนี้ที่ได้มาติดตามทวงถาม ทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ก็แจ้งเพียงว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าทางกลุ่มผู้ค้าขายกระทำผิดกฎระเบียบ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ได้มีการพูดคุยกันมานานแล้ว และทางผู้ค้าก็เข้าใจว่ามีการทำข้อตกลงกันแล้ว นอกจากนี้ผู้ค้าบางรายก็ได้ประกอบอาชีพทำมาหากินตรงจุดนี้มามากกว่า 20 ปี

ขณะเดียวกัน ภายหลังจากการเข้าพบตัวแทนของทางเทศบาลนครเชียงใหม่ และพูดคุยกันในเบื้องต้น ก็ยังคงได้รับคำตอบที่คลุมเครือ ไม่ชัดเจน และยังยืนยันว่าไม่ให้มีการค้าขาย และรับปากว่าจะมีการนำเรื่องเข้าไปประชุมกับทางผู้บริหารและหน่วยงานเกี่ยวข้องอีกครั้ง แต่เงื่อนไขที่ทางผู้ค้าขายต้องการในตอนนี้คือ การจำหน่ายสินค้าที่ได้มีการลงทุนไป หรืออยากให้อนุญาตขายสินค้าไปก่อน ควบคู่ไปกับการเจรจาระหว่างผู้บริหารกับทางผู้ค้าขาย แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ และถูกปฏิเสธว่าไม่ให้ดำเนินการค้าขาย

นางธนภร บอกอีกว่า สิ่งที่ทางผู้ค้าขายต้องการมากที่สุดคือ ให้ทางผู้ค้าขายได้ใช้พื้นที่ในการค้าขายต่อไป โดยมีการกำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจน เช่น หลายปีที่ผ่านมาที่มีการเก็บค่าขยะเดือนละ 20 บาท รวมถึงกำหนดระยะเวลาในการตั้งร้านและเก็บร้านขายสินค้าตามเวลาที่กำหนด ซึ่งที่ผ่านมาทุกคนก็ปฏิบัติตามข้อบังคับเป็นอย่างดีมาตลอด แต่วันนี้ทางเทศบาลฯกลับบอกว่า ทางผู้ค้าขายไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ทางผู้ค้าจึงต้องการคำตอบที่ชัดเจน ที่ไม่ใช่ข้ออ้างเพราะกรณีที่เกิดขึ้นนี้มี พ่อค้า-แม่ค้า ได้รับผลกระทบจำนวนมากหลายร้อยราย

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ทางผู้ค้าขายได้มีการรวมตัวกัน และลงนามเพื่อเรียกร้องให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน และผู้ค้าขาย ได้เข้ามาช่วยดูแล หรือให้ความช่วยเหลือกับกลุ่มผู้ค้าขาย และจากการหารือกันของกลุ่มผู้ค้าขายก็เตรียมจะเดินทางเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการดูแลและเข้ามาเจรจาช่วยเหลือทางกลุ่มผู้ค้าขายอีกทางหนึ่ง และหากทางเทศบาลฯ ไม่ให้คำตอบที่ชัดเจน ทางกลุ่มก็จะขับเคลื่อนกันต่อเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่เป็นธรรมต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากการประชุมหารือกับทางตัวแทนของเทศบาลนครเชียงใหม่ เบื้องต้น ทางตัวแทนได้มีการรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น โดยล่าสุดได้มีการนำเรื่องส่งให้ทางผู้บริหารพิจารณา แต่จะต้องมีการจัดการประชุมหารือกับทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง และยังไม่สามารถให้คำตอบกับทางกลุ่มผู้ค้าขายได้ว่าจะมีการอนุญาตให้สามารถกลับมาค้าขายของได้เช่นเดิมหรือไม่ โดยในช่วงนี้ก็จะต้องให้มีการยุติการขายของตามระเบียบสั่งการไปก่อน

ขณะที่ในเวลาต่อมา ช่วงบ่ายวันนี้ ทางกลุ่มผู้ประกอบการได้เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่เพื่อแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นกับทางศูนย์ดำรงธรรม เพื่อขอความเป็นธรรม รวมทั้งเรียกร้องให้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน โดยมี นางศิริพร รือเรือง ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมเชียงใหม่ เป็นตัวแทนรับเรื่องจากผู้ชุมนุม พร้อมทั้งจะได้มีการนำเรื่องดังกล่าวไปตรวจสอบ และดำเนินการให้การช่วยเหลือต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น