แถลงผลเด็ดปีกผู้ค้าฯ จับกุมแก๊งไรเดอร์ซุกคีตามีน ไอซ์ ยาบ้า และเฮโรอีน

ตำรวจนครบาล ร่วมกับ ปปส.กทม. และ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร แถลงผลปฏิบัติการ “เด็ดปีกผู้ค้าฯ ครั้งที่ 5/2567” มุ่งปราบปรามแหล่งค้ายาเสพติดในพื้นที่ กรุงเทพ 62 เป้าหมาย จับกุมผู้ค้า บำบัดผู้เสพรวมกว่า 30 ราย และแก๊งไรเดอร์รายใหญ่ในเขตคลองสาน ที่ซุกซ่อนคีตามีน 22 กิโลกรัม ไอซ์ 6.9 กิโลกรัม ยาบ้ากว่า 100,000 เม็ด และเฮโรอีน 78.3 กรัม พร้อมยึดทรัพย์อีก 17.2 ล้านบาท

วันที่ 23 พ.ค. 2567 เวลา 07.00 น. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 พ.ต.อ.บุญส่งวิทย์ ห้องแซง รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 และ พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผู้กำกับการ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) พร้อมด้วย นายอุดมชัย โลหณุต ผอ.ปปส.กทม. ภายใต้การมอบหมายของ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ผู้แทนจากสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร และสำนักงานเขตทั้ง 6 เขต ร่วมปล่อยแถวชุดปฏิบัติการยาเสพติด จากสถานีตำรวจนครบาล 11 แห่ง บก.น.8 ปปส.กทม. และกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) รวมประมาณ 150 นาย เพื่อเปิดยุทธการ “เด็ดปีกผู้ค้า รักษาผู้เสพสร้างชุมชน ปลอดภัยยาเสพติด ครั้งที่ 5/2567” ระหว่างวันที่ 18 – 23 พ.ค. 2567 ตรวจค้นชุมชนแพร่ระบาดยาเสพติดในเขตรับผิดชอบของ บก.น.8 (บางส่วนของโซนกรุงธนใต้) โดยปิดล้อมตรวจค้นผู้ค้า ผู้เสพยาเสพติด รวมจำนวน 62 เป้าหมายในพื้นที่ 21 ชุมชน ใน 6 เขต ประกอบด้วย เขตทุ่งครุ คลองสาน บางกอกใหญ่ ราษฎร์บูรณะ บางแค จอมทอง และ ธนบุรี

พล.ต.ต.ทินกร กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีที่ประกาศให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ และล่าสุด การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน ทุ่มเทให้มากขึ้นและปฏิบัติงานกันอย่างจริงจังเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพื้นที่สีแดงที่มีปัญหายาเสพติดรุนแรงจำนวน 25 จังหวัด รวมกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ผลของการปฏิบัติ สามารถสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้แพร่กระจายลงมาในหมู่บ้าน ชุมชน รวมทั้งนำไปสู่การลดความรุนแรงจากจิตเวชและยาเสพติดให้เป็นรูปธรรมและอย่างมีนัยสำคัญ ภายใน 90 วัน นับจากวันสั่งการ บช.น. จึงร่วมกับ ปปส.กทม. และ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ปรับและเปิดยุทธการเด็ดปีกผู้ค้ารายย่อยฯ ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 5 โดยสืบสวนและกำหนดเป้าหมายบุคคลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดไว้จำนวน 62 ราย ในเขตรับผิดชอบของ บก.น.8 แบ่งเป็น ผู้ค้าระดับขายส่งและรายย่อยรวม 34 ราย หมายจับจำนวน 2 ราย ผู้เสพจำนวน 20 ราย และเรื่องร้องเรียนทางสายด่วน ป.ป.ส. (สายด่วน 1386) อีก 6 ราย พร้อมทั้งเข้ากดดันปราบปรามแหล่งจำหน่ายที่ประชาชนให้เบาะแสมาว่า มีการจำหน่ายยาเสพติดในราคาถูกที่ปรากฏอยู่ในพื้นที่ 21 ชุมชน ส่วนใหญ่อยู่ในเขตทุ่งครุ เขตคลองสาน และ เขตธนบุรี อาทิเช่น ชุมชนบริเวณประชาอุทิศ 107 เขตทุ่งครุ, ชุมชนวัดเศวตรฉัตร ซอยเจริญนคร 25 และ 34, ชุมชนวัดสุทธาราม ซอยเจริญนคร 46 เขตคลองสาน, บริเวณซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 14, ชุมชนโกวบ๊อพัฒนา 11 และ ซอยวุฒากาศ 10 เขตธนบุรี

ต่อมาเวลา 08.00 น. ได้มีการแถลงผลการปฏิบัติของยุทธการ “เด็ดปีกฯครั้งที่ 5” โดยมีผลจับกุมคดียาเสพติด รวม 33 ราย แบ่งเป็นข้อหาเสพจำนวน 5 ราย ข้อหาครอบครองเพื่อเสพ 9 ราย ส่วนข้อหาร้ายแรงซึ่งได้แก่ ข้อหาจำหน่าย 3 ราย ข้อหาครอบครอง 14 ราย และจับกุมตามหมายจับอีก 2 ราย ส่วนของกลางเป็นคีตามีน น้ำหนักประมาณ 22.4 กิโลกรัม ไอซ์ประมาณ 6.9 กิโลกรัม ยาบ้า 100,193 เม็ด และเฮโรอีน 78.3 กรัม และยึดอายัดทรัพย์สินไว้มูลค่ากว่า 17.2 ล้านบาท
“ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการกดดันแหล่งจำหน่ายแหล่งมั่วสุมที่ประชาชนให้เบาะแสมาว่า มีคนขายยาเสพติดในราคาถูก ซึ่งชุดปฏิบัติการได้เร่งติดตามจับกุมคนขายได้ 16 ราย นอกจากนี้ ยังพยายามโน้มน้าวให้ผู้เสพยินยอมสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษาจำนวน 15 ราย ซึ่งทางสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ได้จัดเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 28 และ 29 มารอรับตัวถึงในชุมชน เพื่อนำไปคัดกรองที่หน่วยบริการเคลื่อนที่ที่ชุมชนวัดเศวตรฉัตร ซอยเจริญนคร 25 เขตคลองสาน นอกจากนี้ ยังช่วยเหลือครอบครัวในการนำผู้ป่วยจิตเวชจากยาเสพติดส่งโรงพยาบาลอีก 5 ราย” พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบ.ชน.กล่าว

ปฏิบัติการเด็ดปีกผู้ค้าฯ ครั้งนี้ ไม่เพียงแต่การปราบปรามผู้ค้ารายย่อยที่สร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชน ขณะเดียวกัน หากชุดปฏิบัติการสืบสวนพบความเคลื่อนไหวของยาเสพติดจำนวนมาก ก็เร่งปราบปรามไปพร้อมกัน ซึ่งตามห้วงเวลาของปฏิบัติการฯ โดยเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2567 กก.ดส. ร่วมกับ ปปส.กทม. จับกุมคดีรายสำคัญ 1 ราย โดยได้ผู้ต้องหาเป็นแก๊งไรเดอร์ จำนวน 3 คน ประกอบด้วย (1) นายธีรพล (2) นายทรงพล และ (3) นายวิทยา ในข้อหาจำหน่ายฯ พร้อมของกลางคีตามีน น้ำหนัก 22.38 กก. ไอซ์ประมาณ 6.95 กก. เฮโรอีน 78.3 กรัม และ ยาบ้า 100,000 เม็ด ซึ่งซุกซ่อนไว้ที่บ้านหลังหนึ่งในซอยเจริญนคร 14 แยก 24 (ซอยเย็นจิต) ต่อเนื่องกับบริเวณหน้าวัดทองเพลง แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน ก่อนเตรียมส่งจำหน่ายทั่วกรุงเทพมหานคร รวมทั้งยึดอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหากลุ่มนี้ เป็นรถยนต์จำนวน 3 คัน เงินสดและทองรูปพรรณ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 17.2 ล้านบาท

ภายหลังการแถลงข่าว รอง ผบ.ชน. ผบก.น.8 และ ผอ.ปปส.กทม. พร้อมคณะผู้บริหาร นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ชุมชนวัดเศวตรฉัตร ซอยเจริญนคร 25 แขวงบางลำพูล่าง เขตคลองสาน หนึ่งในเป้าหมายของปฏิบัติการเด็ดปีกฯ ครั้งนี้ ร่วมเวทีประชาคมกับผู้นำชุมชน อาสาสมัครเฝ้าระวังภัยยาเสพติด และเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินเขตคลองสาน เพื่อรับฟังการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด ชมการแสดงของสมาชิก TO BE NUMBER ONE จากโรงเรียนวัดสุวรรรณ และโรงเรียนวัดสุทธาราม พร้อมกับให้กำลังใจ คำแนะนำแก่ครอบครัวที่นำผู้เสพ และผู้ป่วยจิตเวชจากยาเสพติด เข้ารับการบำบัดรักษา ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวชุมชน ถึงการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่แพร่ระบาด รวมทั้งจัดระเบียบสังคม เพิ่มพื้นที่ปลอดภัยบริเวณรอบสถานศึกษา วัด และมัสยิด ซึ่งมีอยู่หลายแห่งในเขตคลองสาน รวมทั้งนำบูธให้บริการจากส่วนราชการต่างๆ อาทิ บริการย้ายสิทธิรักษาพยาบาล ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารออมสิน การให้คำปรึกษาและออกบัตรผู้พิการของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตลอดจนแนะนำอาชีพและจัดหางาน จากกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน

ร่วมแสดงความคิดเห็น