ปภ.แนะเรียนรู้เทคนิคขับรถผ่านเส้นทางเสี่ยงอย่างปลอดภัย

การเรียนรู้ทักษะในการขับรถผ่านเส้นทางเสี่ยงเกิดอุบัติทางถนนอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะทางโค้ง จุดกลับรถ และจุดกลับรถ จะช่วยให้การเดินทางมีความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย จึงขอแนะข้อควรปฏิบัติในขับรถผ่านเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุ ดังนี้
ทางโค้ง

  • ลดความเร็วขับรถก่อนเข้าโค้ง โดยผ่อนคันเร่งและขับรถให้ช้ากว่าปกติ พร้อมเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อขับผ่านโค้งหักศอก ทางโค้งรูปตัวเอส ทางโค้งที่มีรัศมีแคบ ทางโค้งที่มีต้นไม้บดบังทัศนวิสัยในการมองเห็น หากขับรถด้วยความเร็วสูง อาจทำให้รถเสียหลักได้มากกว่าทางตรง จึงเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
  • ขับรถเข้าโค้งอย่างระมัดระวัง ห้ามเหยียบเบรกให้รถหยุดทันที เพราะจะส่งผลให้รถเสียการทรงตัว
    ออกนอกเส้นทาง อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ หลีกเลี่ยงการแซงในขณะเข้าโค้ง เพราะต้องใช้ความเร็วมากกว่าปกติ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการหลุดโค้งและชนประสานงากับรถที่สวนทางมา
  • เพิ่มระดับความเร็วเมื่อขับพ้นโค้งเข้าสู่ทางตรง เมื่อผู้ขับขี่ขับผ่านทางโค้งและเส้นทางด้านหน้าเป็นทางตรงให้ค่อย ๆ เร่งความเร็วรถตามปกติโดยใช้หลัก “เข้าให้ช้า ออกให้เร็ว” หากเกิดเหตุฉุกเฉิน จะช่วยให้สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที

    จุดกลับรถ
  • รถที่ขับผ่านจุดกลับรถ เพิ่มความระมัดระวังรถที่จอดล้ำช่องทางกลับรถ และชะลอความเร็วเมื่อขับผ่านจุดกลับรถ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากรถที่กลับรถตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด ไม่ขับชิดท้ายรถคันหน้ามากเกินไป เพราะหากรถคันหน้ากลับรถกะทันหันโดยไม่ให้สัญญาณไฟ จะไม่สามารถเปลี่ยนช่องทางจราจรได้ทัน ทำให้ เกิดอุบัติเหตุได้ เมื่อสังเกตเห็นรถคันหน้าให้สัญญาณเตรียมกลับรถ ให้มองจนแน่ใจว่ารถที่อยู่ช่องทางด้านซ้าย

    อยู่ในระยะไกลหรือให้ทาง จึงค่อยเปลี่ยนช่องทาง
  • รถที่รอกลับรถ หยุดรอในจุดกลับรถที่กำหนด ไม่จอดรถกีดขวางช่องทางจราจรของรถในเส้นทางตรง จากนั้นให้มองจนแน่ใจว่ารถในเส้นทางตรงอยู่ในระยะไกล และไม่ได้ขับมาด้วยความเร็วสูง จึงค่อยกลับรถ เมื่อกลับรถแล้วให้เร่งความเร็วรถในระดับที่เหมาะสม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุรถชนท้าย ไม่กลับรถบริเวณจุดบอดหรือในขณะที่มีรถคันอื่นจอดบังการมองเห็นรถที่ขับในเส้นทางตรง เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

    จุดตัดทางรถไฟ
  • ชะลอความเร็วรถและหยุดรถก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟ พร้อมมองเส้นทางด้านซ้ายและขวาจนแน่ใจว่าไม่มีรถไฟวิ่งผ่านมา ค่อยขับรถข้ามจุดตัดทางรถไฟ กรณีมีสัญญาณไฟจราจรบริเวณทางรถไฟ ไม่ควรหยุดหรือจอดรถคร่อมรางรถไฟเป็นอันขาด เพราะเสี่ยงต่อการถูกรถไฟชน
  • หากได้ยินเสียงสัญญาณเตือนรถไฟหรือแผงกั้นทางรถไฟปิดลงมา ควรหยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟ ไม่ต่ำกว่า 5 เมตร ไม่เร่งความเร็วขับข้ามทางรถไฟอย่างเด็ดขาด เพราะหากเครื่องยนต์ขัดข้องหรือล้อติดกับร่อง

    ทางรถไฟ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
  • กรณีขับผ่านเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย หมั่นสังเกตป้ายเตือนสัญลักษณ์รูปทางรถไฟริมข้างทางหรือลูกคลื่นบนพื้นผิวถนน ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าเส้นทางข้างหน้ามีจุดตัดทางรถไฟ โดยเฉพาะเส้นทางที่ไม่มีแผงกั้นทางรถไฟหรือมีต้นไม้บดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทาง รวมถึงการขับรถในช่วงกลางคืน

ร่วมแสดงความคิดเห็น