ฝุ่นพิษกลับมาแล้ว PM 2.5 พุ่งเป็นอันดับ 5 เมืองมลพิษโลก

ฝุ่นพิษกลับมาแล้ว PM 2.5 พุ่งเป็นอันดับ 5 เมืองมลพิษโลก ทีมแพทย์เคลื่อนที่ลุยช่วยชาวบ้านหลายอำเภอ

คุณภาพอากาศที่จังหวัดเชียงใหม่กลับมาย่ำแย่อีกครั้งหลังผ่านพ้นช่วงพายุฤดูร้อนเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในวันนี้ ( 10.56 น.) เวปไซต์ iqair รายงานจังหวัดเชียงใหม่อยู่ในอันดับ 5 เมืองที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลก ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 162 AQI สหรัฐฯ สอดคล้องกับค่าฝุ่น PM 2.5 ที่สูงเกินมาตรฐานทุกอำเภอ สูงสุดที่ ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว 243 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ขณะที่สถานการณ์ไฟป่ากลับมารุนแรง ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่าและพีเอ็ม 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ รายงานช่วงเช้าวันนี้พบจุดความร้อนจากไฟป่าจำนวน 71 จุด มากสุดที่อำเภอฮอด 21 จุด

ผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ทำให้หน่วย ส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกดูแลสุขภาพประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศ ล่าสุดลงพื้นที่ทั้งหมด 53 ครั้ง ในอำเภอสันกำแพง อำเภอแม่อาย อำเภอดอยหล่อ อำเภอพร้าว และ อำเภอดอยสะเก็ด ให้การตรวจสุขภาพ ให้คำแนะนำและแจกหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นพิษไปแล้ว 21,951 ชิ้น

ขณะที่สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดแผนใช้งบสู้ไฟป่า “เชียงใหม่โมเดล” บูรณาการชุดปฏิบัติการ เฝ้าระวัง ลาดตระเวนและดับไฟป่า ใช้เจ้าหน้าที่ชุดสิงห์ไฟ ( กรมการปกครอง ) , เสือไฟ ( กรมอุทยานฯ) และ เหยี่ยวไฟ ( กรมป่าไม้ ) รวม 6,396 คน

โดย พื้นที่เขตป่าอนุรักษ์ 5.4 ล้านไร่ ใช้ทีมเสือไฟ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืชรวม 1,182 คน แบ่งเป็นชุดปฏิบัติการเสือไฟ 75 คน , เจ้าหน้าที่ป้องกันและควบคุมไฟป่า 329 คน และ อาสาสมัครป้องกันและควบคุมไฟป่า (จ้างเหมาจากงบกลาง งบจังหวัด และงบกลุ่มจังหวัด) 778 คน ภายใต้ยุทธการเสือเฝ้าป่า

พื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ 5.6 ล้านไร่ ใช้ทีมเหยี่ยวไฟ กรมป่าไม้ รวม 1,673 คน แบ่งเป็นชุดปฏิบัติการเหยี่ยวไฟ 30 คน , เจ้าหน้าที่ป้องกันและควบคุมไฟป่า (สจป.1) 395 คน และ อาสาสมัครป้องกันและควบคุมไฟป่า (จ้างเหมาจากงบกลาง) 1,248 คน

ส่วนชุดสิงห์ไฟ กระทรวงมหาดไทย รวม 3,420 คน สังกัดกระทรวงมหาดไทย แบ่งเป็นบุคลากรที่ เทศบาลและ อบต.จ้างเหมาเอง 313 คน , บุคลากรที่ เทศบาล อบต.มีคำสั่งให้ปฏฺิบัติหน้าที่ดับไฟป่า 2,754 คนและ สมาชิก อส.อ. และ อส.จังหวัดเชียงใหม่ 353 คน

นอกจากนี้ยังมีกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 3 จำนวน 13 ชุดปฏิบัติการ และ 1 หมวดทหารพราน รวม 121 คน โดยมีงบประมาณสนับสนุนเบี้ยเลี้ยง จำนวน 240 บาท/วัน และ ตำรวจ 40 ชุดปฏิบัติการ ชุดปฏิบัติการละ 12,700 บาท ทำหน้าที่สนับสนุนการประชาสัมพันธ์ ออกตรวจ จับกุมผู้กระทำความผิด

ร่วมแสดงความคิดเห็น