ค่าฝุ่นเชียงรายกลับมาพุ่งสูง หลังหมดช่วงห้ามเผา

ค่าฝุ่นเชียงรายกลับมาพุ่งสูง หลังหมดช่วงห้ามเผา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดระเบียบ

วันที่ 2 พ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ จ.เชียงราย เลยกำหนดช่วงเวลาห้ามเผาในที่โล่งโดยเด็ดขาดตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.-30 เม.ย. 67 พบว่าทางจังหวัดได้ประกาศให้เข้าสู่ช่วงบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่เสี่ยง โดยมอบหมายให้แต่ละอำเภอทั้ง 18 เภอ ได้แจ้งชาวบ้านที่มีความจำเป็นการในเผาเพื่อเตรียมพื้นที่ทางการเกษตร ให้ดำเนินการตามวันและเวลาที่กำหนดไปจนถึงวันที่ 30 พ.ค.นี้ เพื่อให้แต่ละอำเภอที่ใกล้กันไม่เผาพร้อมกัน อย่างไรก็ตามในช่วงหลังห้ามเผาในที่โล่งปรากฏว่าปริมาณฝุ่นละอองและหมอกควันที่เคยเบาบางในช่วงที่มีฝนตกได้กลับมาหนาแน่นอีกครั้ง โดยเฉพาะชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย และชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงแสน อ.เชียงของ

โดยกรมควบคุมมลพิษรายงานว่าเวลา 14.00 น.วันที่ 2 พ.ค.นี้ มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย สูงถึง 137.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าคุณภาพอากาศหรือ AQI สูงถึง 263 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรซึ่งอยู่ในเกณฑ์ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ อ.เวียงพางคำ อ.แม่สาย มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 สูงถึง 122.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าคุณภาพอากาศหรือ AQI สูงถึง 248 และ อ.เชียงของ มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย สูงถึง 252.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าคุณภาพอากาศหรือ AQI สูงถึง 378 ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในภาคเหนือขณะที่จังหวัดอืนๆ ก็มีปริมาณฝุ่นกลับมาหนาแน่นขึ้นเช่นกัน

ขณะที่จุดความร้อนหรือ Hotspot พบว่ามีจำนวนมากมากขึ้นจากเดิมที่มีมากในโซนภาคเหนือฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งต่อมาได้มีจุดความร้อนน้อยลงแต่กลับไปปรากฎในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านทางฝั่งขวาแทนรวมทั้งมีการเผากันมากขึ้นในภาคเหนือของไทยด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น