ทีเส็บเปิดไมซ์เลนที่เชียงใหม่ครั้งแรกรับประชุมเอเปค

เชียงใหม่เตรียมพร้อมรับงานไมซ์คึกคัก ทีเส็บหนุนเปิดไมซ์เลนที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ อำนวยความสะดวกผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากนานาชาติ ประเดิมเปิดครั้งแรกรับการประชุมเอเปคสิงหาคมนี้

จากการที่ประเทศไทยได้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค หรือ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC) ในระดับต่างๆ ทั้งระดับนโยบายและระดับปฏิบัติ ซึ่งตลอดปีนี้จะมีคณะผู้แทนจากเขตเศรษฐกิจเอเปค 21 เขตเศรษฐกิจเดินทางมาร่วมประชุมในประเทศไทยทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆ ในส่วนภูมิภาค โดยจังหวัดเชียงใหม่จะเป็นเจ้าภาพการประชุมสำคัญหลายรายการ ระหว่างวันที่ 16-31 สิงหาคม โดยเฉพาะการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ครั้งที่ 3 (SOM 3) และการประชุมรัฐมนตรีป่าไม้ด้านเอเปค ครั้งที่ 5 ทางสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจส่งเสริมการจัดการประชุมระดับนานาชาติในเมืองไมซ์ซิตี้และเมืองที่มีศักยภาพของไทย ได้ให้การสนับสนุนการจัดทำไมซ์เลน (MICE Lane) หรือช่องทางพิเศษสำหรับนักเดินทางไมซ์จากต่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าร่วมประชุมเอเปคและสร้างความประทับใจในการต้อนรับของเจ้าภาพ

นางจุฑา ธาราไชย ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคเหนือ กล่าวถึงรายละเอียดของไมซ์เลนว่า สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ได้ให้การสนับสนุนการจัดทำไมซ์เลน (MICE Lane) ต้อนรับคณะผู้เข้าร่วมประชุมเอเปค ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ รวมทั้งการจัดเจ้าหน้าที่ไมซ์เลนต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ โดยการเปิดไมซ์เลนที่จังหวัดเชียงใหม่นั้นนับเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของไมซ์เลนในภาคเหนือ นอกจากนี้ ทาง สสปน. ยังจัดให้มีเจ้าหน้าที่ชั่วคราวด้วยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สำหรับให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่คณะผู้เข้าร่วมประชุมอีกด้วย

“การเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ไทยจะส่งเสริมนโยบายและทิศทางการพัฒนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในหลายมิติ โดยการจัดการประชุมในภูมิภาคต่างๆ ของไทยจะเกิดประโยชน์ต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจในยุคหลังโควิด-19 และเป็นการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่เองนั้น มีความพร้อมในฐานะไมซ์ซิตี้ที่มีศักยภาพรองรับกิจกรรมไมซ์ทุกประเภททั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ การประชุมเอเปคจึงมีความสำคัญต่อความพร้อมของเมืองและมีประโยชน์โดยตรงต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัด โดยเฉพาะภาคการเดินทางและภาคท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 การประชุมเอเปคจะเป็นการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจเมือง รวมทั้งยังเป็นโอกาสแสดงศักยภาพของจังหวัดเชียงใหม่ในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเดินทาง การต้อนรับ สถานที่จัดงาน ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก ผู้คนที่เป็นมิตร ความปลอดภัย แหล่งอาหารอินทรีย์ และแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม ฯลฯ ซึ่งนอกเหนือจากการมาเข้าร่วมประชุมแล้ว ยังเป็นโอกาสที่คณะผู้เข้าร่วมประชุมเอเปคและผู้ติดตามจะได้ไปเยี่ยมชมสถานที่และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้เกิดการกระจายรายได้และสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในจังหวัดอีกด้วย” นางจุฑา กล่าวเพิ่มเติม

นอกจากการสนับสนุนด้านไมซ์เลนแล้ว ทีเส็บภาคเหนือ ยังได้ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่และผู้ประกอบการต่างๆ นำเสนอ City package & promotion ภายใต้แคมเปญ #เชียงใหม่ที่เดียวกินเที่ยวประชุม เพื่อส่งเสริมการตลาดและมอบประสบการณ์พิเศษแก่คณะผู้เข้าร่วมประชุมเอเปคให้ได้สัมผัสถึงความหมายของเมืองเชียงใหม่ผ่านไลฟ์สไตล์ต่างๆ ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม บริการด้านเวลเนสและสปา รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่มีความพิเศษหลากหลาย โดยได้รับความร่วมมือจากแอพพลิเคชั่น TAGTHAI และ The Concert ในการทำแพ็กเกจและโปรโมชั่นพิเศษนี้สำหรับงานเอเปคโดยเฉพาะ (ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tagthai.com และ www.theconcert.com)

“การประชุมเอเปคครั้งนี้เป็นกิจกรรมไมซ์ที่ถือว่ามีความหมายและความสำคัญอย่างยิ่งต่อจังหวัดเชียงใหม่และชาวเชียงใหม่ โดยเฉพาะการสร้างเศรษฐกิจ หากประมาณการจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม 1,000 คนจาก 21 เขตเศรษฐกิจ คำนวนค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปตามการประเมินของทีเส็บแล้ว คาดว่าจะสร้างรายได้หมุนเวียนประมาณ 66 ล้านบาท ยังไม่รวมกับค่าใช้จ่ายด้านสถานที่จัดประชุม ค่าจัดเลี้ยง ค่าโลจิสติกส์ ฯลฯ จากการจัดงาน จึงเป็นโอกาสที่เชียงใหม่ไมซ์ซิตี้จะได้แสดงศักยภาพหลังผ่านวิกฤติโควิดที่ยากลำบากมาแล้ว เชื่อว่า ต่อไปจะเป็นช่วงเวลาแห่งการเติบโตอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง ทีเส็บภาคเหนือพร้อมที่จะทำงานร่วมกับทุกๆ ฝ่ายของเมือง เพื่อสนับสนุน ส่งเสริมให้เมืองเชียงใหม่ไมซ์ซิตี้มีความเข้มแข็งในทุกมิติ ให้เชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางไมซ์ทั่วโลกอย่างสมภาคภูมิ” นางจุฑา กล่าวในที่สุด

ร่วมแสดงความคิดเห็น