จับชายชาวอินเดีย ลักลอบนำสัตว์ป่าควบคุมซุกกระเป๋าเดินทาง เตรียมออกนอกประเทศ
17 สิงหาคม 2565 นายประเสริฐ สอนสถาพรกุล ผู้อำนวยการ กองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าหายาก (Cites) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2565 เวลา 23.00 น. นายสธน คงเงิน หัวหน้าด่านตรวจสัตว์ป่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับการประสานงานจาก เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประจำจุดตรวจค้นผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ หลัง X-RAY กระเป๋าผู้โดยสาร พบลักษณะคล้ายสิ่งมีชีวิตอยู่ภายในกระเป๋าเดินทาง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานศุลกากร ตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงได้ร่วมกันไปตรวจสอบ
จากการตรวจสอบพบว่า กระเป๋าสัมภาระดังกล่าวเป็นของ MR.ABILASH ANNADURI อายุ 21 ปี สัญชาติอินเดีย เตรียมเดินทางโดยสายการบินไทย ไปยังสนามบิน CHENNAI ประเทศอินเดีย ภายในพบสัตว์ป่าควบคุม จำนวน 6 ชนิด รวม 17 ตัว โดยมีจิ้งจอกทะเลทราย จำนวน 1 ตัว แร็กคูน จำนวน 1 ตัว ลิงมาโมเสท จำนวน 8 ตัว จิ้งเหลนสีเขียว จำนวน 2 ตัว ตะกวด จำนวน 3 ตัว งูหลามเผือก จำนวน 2 ตัว ซ่อนอยู่ในตะกร้าพลาสติก ที่ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสัมภาระที่ภายในมีอาหารและขนมปิดทับอยู่เต็มกระเป๋า
การกระทำดังกล่าวมีความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 23 ฐานส่งออกสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิดตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 31 ฐานนำสัตว์ออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 242 และมาตรา244 ฐานนำของต้องกำกัดหรือของต้องห้าม ออกไปนอกราชอาณาจักร
คณะเจ้าหน้าที่จึงร่วมกันตรวจยึดของกลางทั้งหมด และทำการจับกุมผู้ต้องหาชาวอินเดียคนดังกล่าว โดยคณะเจ้าหน้าที่ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ศุลกากร เป็นผู้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อทำการสอบสวนและได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ส่งออกสัตว์ป่าชนิดที่รัฐมนตรีกำหนด โดยไม่ได้รับอนุญาตและนำหรือพาสิ่งของต้องห้ามจำกัด ออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีทางศุลกากรด้วย ก่อนคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้สัตว์ป่าของกลางทั้งหมด ทางเจ้าหน้าที่จะนำส่งกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ในช่วงเที่ยงวันนี้ เพื่อตรวจสุขภาพก่อนส่งมอบให้สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า ที่มีความเหมาะสมดูแลต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น