(มีคลิป) โผล่อีกเหยื่อเชียงใหม่ ถูกหลอกค้าเงินฯ สูญเงิน 206 ล้าน

โผล่อีก เหยื่อสาวเชียงใหม่ ถูกหลอกค้าเงินต่างประเทศสูญเงิน 206 ล้านบาท

เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 31 ส.ค. 2565 ที่สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ นางเกษยา ศิริพฤกษชาด เจ้าของร้านขายยาแห่งหนึ่งใน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ พร้อมนางสาวอาทิตยา ศิริพันธ์ ผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ลงทุนหุ้นยังต่างประเทศ เข้าพบ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เพื่อให้ปากคำกรณีถูก นส.กุ๊กไก่ (นามสมมุติ) หลอกร่วมลงทุนหุ้นต่างประเทศ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 จากนั้นตนได้รวบรวมหลักฐานมีโฉนดที่ดินทั้งหมด และสมุดบัญชีธนาคารทุกธนาคาร มอบให้ผู้ต้องหาไป ซึ่งผู้ถูกกล่าวอ้างจะดำเนินการในเรื่องของการเสียภาษี หากได้ร่วมลงทุนค้าเงินต่างประเทศ จากนั้นก็เริ่มโอนเงินลงทุน

โดยครั้งแรกเดือนตุลาคม พ.ศ.2562 จำนวน เงินรวม 5 ล้าน จากนั้นโอนเงินให้ผู้ต้องหาอีกหลายครั้งละ รวม 17 ครั้ง รวมเงินทั้งสิ้น 206 ล้านบาท โดยผู้ต้องหารายนี้ รับปากว่าจะโอนเงินจากการลงทุนหุ้นต่างประเทศครั้งแรก ตั้งแต่ปี พ.ศ.2562 แต่ก็เงียบหายไปไม่ได้เงินคืนจากการลงทุนเลยแม้แต่ครั้งเดียว จนผู้เสียหายมาทราบว่าถูกหลอกเมื่อต้นเดือนเมษายน พ.ศ.2565 จากนั้นพวกตนจึงได้รวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ นำไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565 ในคดีฉ้อโกง หลัง

จากนั้นจากนั้นวันที่ 22 เมษายน 2565 ได้เดินทางไปเจรจากับผู้ถูกกกล่าวหารอบแรก ต่อมาวันที่ 24 เมษายน 2565 ผู้ถูกกล่าวหา ได้เดินทางมาที่ สภ.ฝาง เพือรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมกับโอนเงินคืนให้ผู้เสียหายจำนวน 5 ล้านบาท จากนั้นก็ไม่ได้อะไรอีกเลย พร้อมอ้างว่าจะโอนบ้านให้ผู้เสียหาย และได้หมายโดยการลงบันทึกประจำวันเอา และในวันที่ 25 เมษายน 2565 ให้ผู้เสียหายเดินทางไปรอที่ดินบางกะปิ กรุงเทพ แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่มาตามนัด ผู้เสียหายจึงไปตามหาที่บ้าน โดยรอที่หน้าบ้านตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. จากนั้นผู้ถูกกล่าวหาได้ออกจากบ้านมา ก็มีปากเสียกัน ผู้ถูกกล่าวหา ได้ไปแจ้งความกับตำรวจ อ้างผู้เสียหายบุกรุก ชิงทรัพย์ ลักทรัพย์ และทำร้ายร่างกายอีกด้วยก็ยังมีคดีกันอยู่ หลังจากนั้นผู้เสียหายเจรจาตามนัดหมาย ผู้ถูกกล่าวพร้อมพูดคุยเพื่อขอสมุดบัญชีธนาคารทุกธนาคาร และโฉนดที่ดินทั้งหมดด้วย แต่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างไม่ได้เก็บเอกสารทั้งหมดไว้ที่บ้าน โดยอ้างว่าพนักงานบัญชีเอาไปเก็บไว้ต่างจังหวัด แต่อีกวันได้ส่งสมุดบัญชี และโฉนดที่ดินทั้งหมดคืนให้ทั้งหมด

นางเกษยา ศิริพฤกษชาด เจ้าของร้านขายยา ผู้เสียหาย บอกเล่าย้อนถึงรูปคดีว่า รู้จักผู้เสียหายมาตั้งแต่เด็ก รู้จักพ่อและแม่ของผู้ถูกกล่าวหาทั้งครอบครัว จนวันหนึ่งผู้ต้องหารายนี้ได้ขับรถหรูเข้ามาที่ร้าน ตนจึงได้สอบถามว่า ไปทำอะไรมาจึงได้ร่ำรวย ก็ได้คำตอบว่า ได้ลงทุนหุ้นต่างประเทศ พร้อมได้ชักชวนตนร่วมลงทุนเพราะได้ผลกำไรจำนวนมาก โดยได้แสดงเอกสารต่างๆ เช่น เอกสารการโอนเงิน สเตทเม้น รายรับ – รายจ่ายบัญชี ตนจึงหลงเชื่อร่วมลงทุน พร้อมยังส่งรูปภาพบุคคลมีชื่อเสียงในสังคมและหน้าเชื่อถือเพื่อให้ผู้เสียหายตายใจและร่วลงทุน โดยครั้งแรกโอนเงินร่วมลงทุนดังกล่าวข้างต้น พอตนมาทราบว่าไม่ได้เงินคืนแล้วหลัง จึงได้พยายามขอเงินคืนตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2565 เป็นต้นมาจนพยายามติดตามหาผู้ถูกกล่าวหาและแจ้งความเอาผิดดังกล่าว ผู้เสียหายยังได้สืบค้นหาประวัติผู้ถูกกล่าวหาในเฟสบุ๊คของผู้ถูกกล่าวหา พบว่าผู้ต้องหาได้ใช้เงินซื้อสินค้าแบรนด์เนม เช่น กระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพง และไม้กอล์ฟราคาหลักแสนบาท และยังสนับสนุนเงินการประกวดนางงามเวทีใหญ่มากมาย จึงได้รวมรวมหลักฐานดังกล่าวส่งมอบพนักงานสอบสวนต่อไป

ในสวนความคืบหน้าของคดี พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวกับผู้เสียหายและสื่อมวลชนว่า เกี่ยวกับคดีนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานอย่างให้ละเอียดรอบคอบเพราะจำนวนเงิสูงมาก บ้างครั้งการดำเนินการอาจจะไม่รวดเร็ว ถ้าถ้าเราทำเร็วแล้วหลักฐานไม่ครบ จะเกิดผลเสียในการขึ้นศาล เพราะฉะนั้นต้องทำสำนวนให้ละเอียดรอบคอบเพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย ซึ่งในคดีนี้เป็นลักษณะของการหลอกลวง ฉ้อโกงประชาชน และคดีปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ ซึ่งมีผู้เสียหายในคดีนี้รายเดียว โดยได้เรียกผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อหาเพิ่มในคดีฟอกเงินอีกหนึ่งคดี รวมเป็น 3 คดี

ร่วมแสดงความคิดเห็น