น่าน วังผา ที่ไม่ใช่ท่าวังผา นาทีซาบซึ้งใจหลานเจอหน้าลุงบกพร่องทางสมอง หลังออกค้นหากว่า 12 วัน
เมื่อเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิเพชรเกษม น่าน ได้นำตัว นายชูชาติ หรือชาติ อายุ 58 ปี หลังได้รับข้อมูลว่าเป็นบุคคลผลัดหลงมาจากจังหวัดเชียงราย จนพบเจอนอนอยู่ในพุ่มไม้ ข้างพระตำหนักธงน้อย ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน แล้วได้ติดต่อญาติ ที่ได้ลงประกาศคนหายไว้ตามสื่อโซเชียลต่างๆ แล้วได้ถ่ายรูปและส่งให้ทางญาติดู และญาติยืนยันว่า เป็นนายชาติซึ่งทางญาติแจ้งว่าเป็นผู้บกพร่องทางสติปัญญา สื่อสารได้เพียง 1-2 ประโยคเท่านั้น
โดยทางญาติได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า นายชาติ ได้ผลัดหลงจากบ้านมาตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2566 จากพื้นที่ บ้านวังผา หมู่ที่ 2 ตำบลสันมะค่า อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย โดยตอนเกิดเหตุทางครอบครัวได้ซื้อจักรยานให้นายชาติ ใหม่เป็นจักรยานสีชมพู เป็นที่ถูกใจของนายชาติ จึงปั่นจักรยานรถจักรยานไปที่วัดวังผาซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้าน ตอนเช้า
แล้วจำทางกลับบ้านไม่ได้ ทางญาติจึงระดมกันมากว่า 10 คน ออกติดตามหา จากการสอบถามชาวบ้านจึงทราบว่านายชาติได้ปั่นเลยซอยเข้าบ้าน และปั่นมาเรื่อยๆ จนถึงเวลา 21.00 น. ได้มีกล้องที่อำเภอปง จังหวัดพะเยา จับภาพได้ว่านายชาติได้ปั่นจักรยานผ่านไป มุ่งหน้าไปทางอำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา และมีคนพบเจอว่านายชาติได้ไปหลับอยู่บริเวณป่าช้าในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในลักษณะหิวโซ ชาวบ้านจึงนำอาหารมาให้ เมื่อสอบถามว่าจะไปไหน คาดว่านายชาติได้ตอบไปสองประโยคว่า “วังผา” คาดว่าทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นอำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน จึงชี้ทางไปอำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา
จากนั้นมีผู้เจอนายชาติ นั่งอยู่บริเวณศาลาริมทางบริเวณอำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา จึงมีคนเอาข้าวเอาน้ำไปให้ แล้วถามว่าจะไปไหน คาดว่านายชาติตอบว่า “วังผา” จึงอาจเข้าใจว่าเป็นอำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน จึงชี้ทางให้ไปทางอำเภอบ้านหลวงจังหวัดน่าน
ทางญาติก็ยังไม่ได้ลดละความพยายามถึงแม้จะผ่านมา 7 วันแล้วก็ตาม จึงติดตามต่อจนมาถึงอำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน สอบถามแม่ค้าตลาดบริเวณตลาดสดทางเข้าโรงพยาบาลบ้านหลวง จนแม่ค้าในตลาดให้ข้อมูลว่า พบเห็นนายชาติได้ปั่นรถจักรยานมาด้วยความหิวโซ จึงให้ข้าวให้น้ำแล้วสอบถามว่าจะไปไหน นายชาติได้ตอบว่า “วังผา” จึงบอกให้ปั่นจักรยานตรงไปทางอำเภอเมืองน่าน ระหว่างทางเป็นภูเขาสูงทางคดเคี้ยว คาดว่านายชาติได้ปั่นจักรยานตกเขา แล้วนำจักรยานขึ้นมาไม่ได้ จึงเดินเท้าเข้ามาในอำเภอเมืองน่าน
จากนั้นมีผู้มาพบ พบว่านายชาติมีอาการบาดเจ็บที่บริเวณเท้า และบาดแผลบริเวณหัว แต่ระหว่างกำลังประสานหาที่พักและจัดหาผ้าห่ม นายชาติได้หนีไป จนได้ออกติดตามหาจนพบว่า นายชาติ ได้หนีมาแอบนอนอยู่บริเวณพุ่มไม้ข้างพระตำหนักธงน้อย อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน จึงรับตัวมาไว้ที่ทำการมูลนิธิเพชรเกษม จังหวัดน่าน จากนั้นได้ติดต่อญาตินายชาติ ที่กำลังออกติดตามนายชาติมาที่อำเภอท่าวังผา จากจังหวัดเชียงราย 12 วันแล้ว จนทางญาติยืนยันว่าใช่นายชาติ ที่กำลังตามหาตัวอยู่ และกำลังเดินทางมารับ
โดยหลังจากนายชาติเห็นหน้าหลานและญาติๆ ถึงกับยิ้มได้ หลังมีสีหน้าเศร้าและแตกตื่นอยู่ตลอดเวลา โดยนายชาติ พูดออกมาคำเดียว “กลับบ้าน กลับบ้าน”
ด้านทางญาติ กล่าวว่า หลังทราบว่า นายชาติได้ปั่นจักรยานเลยซอย ก็ได้ระดมญาติๆ ออกติดตามมาเรื่อยๆ ตอนแรกใช้รถกระบะ 2 คัน ออกถามตามทางมาตลอด จนถอดใจและเริ่มทำใจ ว่าคงจะเสียชีวิตแน่ แต่ก็ไม่ลดละความพยายามถามชาวบ้านมาตลอด ก็ยังมีหวังเพราะมีคนพบเจอมาตลอด จนมาได้เจอนายชาติ ก็ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือในการติดตามหาผู้พลัดหลงในครั้งนี้ และสัญญาว่าจะไม่ซื้อรถจักรยานใหม่ให้นายชาติอีก จากนั้นทางญาติๆ ได้รับตัวนายชาติ กลับบ้านที่จังหวัดเชียงราย เป็นที่เรียบร้อย
ร่วมแสดงความคิดเห็น