จบข้อพิพาทข้ามปี! เจ้าของลานยางและผู้รับซื้อ ยินยอมทำสัญญาจ่ายเงินค่ายางที่ติดค้างเกษตรกร รวม 1.4 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 67 ชาวบ้านจำนวนประมาณ 40 คน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการนำยางพาราไปขายให้กับลานรับซื้อยางพาราป่าบง-หนองคึก ในพื้นที่ ต.สันสลี อ.แม่ลาว จ.เชียงราย แต่ไม่ได้รับเงินตามตกลง นำโดยนายศักดิ์ดา อายุ 74 ปี ได้พากันไปรวมตัวที่ที่ทำการอำเภอแม่ลาว เพื่อทำสัญญายอมความระหว่างกลุ่มเกษตรกรและผู้รับซื้อ หลังจากมีการพูดคุยข้อตกลงเบื้องต้นในวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา เพื่อขอคู่กรณีชำระเงินค้างจ่ายนับล้านกว่าบาท ซึ่งติดค้างมาตั้งแต่ปลายปี 66 จนตอนนี้บางรายมียอดติดค้างล่วงเลยมากว่า 5 เดือน
นายศักดิ์ดา อายุ 74 ปี ตัวแทนเกษตรกร ได้เผยก่อนเข้าร่วมทำสัญญาว่า วันนี้ทางเกษตรกรและฝ่ายเจ้าของลานยาง จะมาทำสัญญารับชำระหนี้ให้กับทางเกษตรกร ตามที่ได้เคยร่วมพูดคุยกันในวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา และทางฝั่งลานยางรับปากจะจ่ายเงินให้เกษตรกรเดือนละ 500,000 บาท วันนี้เราก็จะมาดูว่าเขาจะจ่ายให้ตามสัญญาหรือเปล่า ซึ่งเกษตรกรที่มาวันนี้ได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส สงกรานต์ที่ผ่านมา หลายคนในที่นี้ก็ไม่ได้ไปทำบุญที่ไหน เพราะไม่มีเงินไปทำบุญ ไปเที่ยว
“แต่ถ้าถามถึงความมั่นใจว่าจะได้รับเงินตามที่เขาบอกหรือเปล่า ก็ขอบอกตามตรงว่าตอนนี้ชาวบ้านไม่มีความมั่นใจแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียวว่าจะได้เงิน แต่ชาวบ้านก็ยังไปปรึกษากับผู้รู้กฏหมายหลายๆท่าน เพราะไม่อยากจะเสียเปรียบอีกแล้ว เราต้องการเงิน เพราะเดือดร้อนจริงๆ” นายศักดิ์ดา กล่าว
สำหรับการทำข้อตกลงเพื่อทำสัญญาจ่ายเงินให้กับเกษตรกรในวันนี้ ทางอำเภอแม่ลาวโดยนายรุ่งโรจน์ ตันวุฒิ นอภ.แม่ลาว ได้มอบหมายให้นายธารางกูร สุภาวงศ์ ปลัดอาวุโส เป็นตัวแทนร่วมเจรจา และได้รับเกียรติจากนายสมชาย จันทรประเทือง อัยการจังหวัดเชียงราย สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือทางกฏหมายและการบังคับคดีจังหวัดเชียงราย (สคช.) เป็นประธานในการไกล่เกลี่ย และมี พ.ต.ท.รัตนพล บั้งเงิน สว.(สอบสวน) สภ.แม่ลาว ร่วมเป็นสักขีพยาน และฝ่ายคู่กรณีประกอบด้วย นางอารีภรณ์ (สงวนนามสกุล) เจ้าของลานยางป่าบง-หนองคึก และนายเกรียงศักดิ์ (สงวนนามสกุล) จาก หจก.เดอะเบสฯ
บรรยากาศการเจรจาโดยรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยฝั่งเกษตรกรได้มอบหมายตัวแทน 5 คน เป็นผู้ทำข้อตกลงกับฝ่ายผู้รับซื้อ ซึ่งจากการพูดคุยร่วมกัน ทางนางอารีภรณ์ เจ้าของลานยาง ยืนยันว่าตนเป็นเพียงผู้รวบรวมยางพาราเพื่อส่งให้กับผู้ประกอบการที่ประมูลได้ในราคาที่เหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมาก็มี หจก.เดอะเบสฯ ที่มีนายเกรียงศักดิ์ เป็นเจ้าของ เป็นผู้ประกอบการที่ประมูลรับซื้อยางพาราได้มาโดยตลอด แต่มาระยะหลังทาง หจก.เดอะเบสฯ ประสบปัญหาทางการเงิน และค้างจ่ายค่ายางพาราให้ จึงส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ มียอดค้างจ่ายรวมทั้งหมด 2,698,619 บาท
ซึ่งยอดหนี้ค้างชำระทั้งหมด ทาง หจก.เดอะเบสฯ ยินยอมที่จะจ่ายให้กับเกษตรกรและลานยางทั้งหมด โดยฝ่ายเกษตรกรยื่นข้อเสนอให้ทางเจ้าของลานยางร่วมทำสัญญาเป็นผู้จ่ายหนี้ร่วมกับ หจก.เดอะเบสฯ เพราะถือว่าตัวเกษตรกรเป็นคนเอายางไปขายให้กับลานยาง
ซึ่งที่ประชุมได้มีข้อตกลงที่จะแยกสัญญาชำระหนี้ออกเป็น 2 ส่วน คือ สัญญาระหว่างตัวแทนเกษตรกรและเจ้าของลานยางกับ หจก.เดอะเบส ส่วนนี้คือส่วนของเกษตรกรจำนวน 48 ราย ที่ได้ไปยื่นแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของลานยางไว้ที่ สภ.แม่ลาว มียอดหนี้จำนวน 1,460,133 บาท ทาง หจก.เดอะเบสฯ และนางอารีภรณ์ จะผ่อนจ่ายให้กับเกษตรกรเป็น 5 งวด แบ่งเป็นงวดละ 300,000 บาท 4 งวด และงวดสุดท้ายเป็นเงิน 260,133 บาท โดยเริ่มจ่ายตั้งแต่เดือน พ.ค. ไปจนถึงเดือน ก.ย. 67 ไม่เกินวันที่ 5 ของแต่ละเดือน
และยอดหนี้อีกส่วน ซึ่งเป็นยอดเงินจำนวน 1,238,486 บาท เป็นส่วนที่ทาง หจก.เดอะเบสฯ ต้องทำสัญญาชำระหนี้ให้กับนางอารีภรณ์ เจ้าของลานยาง ก็ได้แบ่งจ่ายเป็น 5 เดือนเช่นเดียวกัน โดยแบ่งจ่ายงวดที่ 1-4 งวดละ 200,000 บาท และงวดสุดท้ายเป็นเงิน 438,486 บาท
ด้านนายสมชาย จันทรประเทือง อัยการจังหวัดเชียงราย (สคช.) กล่าวว่า วันนี้ได้รับความร่วมมือจากอำเภอแม่ลาว ที่รับเรื่องร้องทุกข์ขากศูนย์ดำรงธรรมมา ซึ่งการเจรจาไกล่เกลี่ยก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยในส่วนของคดีทางแพ่งทางส่วนของนางอารีภรณ์และ หจก.เดอะเบสฯ ยินยอมจ่ายชำระหนี้ที่ติดค้างกับเกษตรกร โดยแบ่งชำระเป็น 5 งวด มียอดรวมอยู่ที่ประมาณ 1.4 ล้านบาท และจะเริ่มจ่ายงวดแรกในวันที่ 5 พ.ค. ที่จะถึงนี้ หากผิดชำระหนี้ก็สามารถไปฟ้องร้องบังคับคดีได้ ก็ถือว่าเป็นที่พอใจกันทั้ง 2 ฝ่าย ในส่วนของคดีอาญาที่ทางชาวบ้านทั้ง 40 กว่ารายได้ไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.แม่ลาว หากชาวบ้านได้รับเงินครบถ้วนก็จะต้องไปยื่นขอถอนฟ้องที่ สภ.แม่ลาว ต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น