เตือนประชาชน ผู้มีสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อย่าหลงให้รหัส เลขบัตร

ปกครองอำเภอแม่สะเรียง เตือนประชาชน ผู้มีสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อย่าหลงให้รหัส-เลขบัตร นำสิทธิ์ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้มแลกน้ำมัน อาจสูญเสียข้อมูลส่วนบุคคล

วันนี้ 22 สิงหาคม 2566 ที่บ้านจอมกิตติ ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน มีประชาชนชาวอำเภอแม่สะเรียงได้แจ้งเบาะแส มีรถเร่ตระเวนแจกน้ำมันพืช ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอ้างใช้สิทธิ์จากส่วนลดค่าแก๊ส โดยตระเวนไปหลายหมู่บ้านใน พื้นที่ อ.แม่สะเรียง เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอแม่สะเรียง เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรท่าตาฝั่ง รุดตรวจสอบ พร้อมประกาศเตือนประชาชน ผู้มีสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อย่าหลงให้รหัส-เลขบัตร นำสิทธิ์ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้มแลกน้ำมัน หรือสินค้าอื่นๆ ที่ผิดเงื่อนไข ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจสร้างความเสียหายให้กับประชาชน รวมทั้งอาจเกิดการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ในทางที่ผิดได้
. นายสุรเชษฐ์ พุ้ยน้อย นายอำเภอแม่สะเรียง มอบหมายให้นายวีกิจ เจ้าดูรี ปลัดอำเภอผู้รับผิดชอบงานศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่สะเรียง ร่วมกับเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรท่าตาฝั่ง, ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 ตำบลแม่ยวม ร่วมตรวจสอบกรณีที่มีบุคคลเชิญชวนให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นำบัตรประชาชน หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยอ้างว่าสามารถนำบัตรมาแสกนเพื่อใช้สิทธิแลกนำมันปาล์ม 1 ขวด ฟรี จากการตรวจสอบพบกับ ชายสองคนพร้อมรถยนต์หนึ่งคัน ภายในกระบะหลังรถมีน้ำมันพืชอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่ง เบื้องต้นได้มีการสอบถามที่ไปที่มาของเรื่อง และได้มีการตักเตือนก่อนที่ประชาชนจะหลงเชื่อจนเกิดความเสียหาย ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายฐานหลอกลวงประชาชน โดยการนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปแลกรับส่วนลดซื้อน้ำมันพืช ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐผิดเงื่อนไข
สำหรับบุคคลที่นำรถเร่ออกตระเวนแลกน้ำมันพืช พื้นเพเป็น คน อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดย ได้นำ “APPLICATION ถุงเงิน” มีร้านอยู่ในพื้นที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ออกตระเวนเชิญชวนชาวบ้านโดยการให้ชาวบ้านนำบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาแสกนในส่วนลด ค่าก๊าสหุงต้ม ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจพบก่อนที่ ประชาชนจะหลงเชื่อหลงดำเนินการจนเกิดความเสียหาย จึงได้แจ้งต่อผู้กระทำว่า การกระทำดังกล่าว อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายในฐานหลอกลวงประชาชนและกฎหมายอื่นๆ ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการกล่าวตักเตือนโดยให้เลิกการกระทำดังกล่าว พร้อมกันนั้นได้แจ้งให้ชาวบ้านผู้นำบัตรฯ มารอแลกสิ่งของทราบถึงอันตรายของการกระทำดังกล่าว ที่ประชาชนอาจสูญเสียเงินจนหมดบัญชีอันเกิดจากการหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น