ชาวบ้านสะบูไม่ขวางขยายสนามบินแพร่ พร้อมให้ความร่วมมือภาครัฐ

ชาวบ้านสะบูไม่ขวางขยายสนามบินแพร่ ตัวแทนชาวบ้านเข้าพบประธานหอการค้าแพร่เร่งหาทางออกขยายสนามบิน พร้อมให้ความร่วมมือภาครัฐ แต่อยากขอความชัดเจนเรื่องค่าเวนคืนที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับผลกระทบ

เมื่อบ่ายวันที่ 21 ก.พ.67 เวลา 13.30 น. แกนนำชาวบ้านหมู่ที่ 5 หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 10 จำนวน 10 คน นำโดยนางศรีรัตน์ เหมืองค่า ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 บ้านสะบู ต.เหมืองหม้อ อ.เมือง จ.แพร่ เข้าหารือกับนายอดิศร ไชยบุญเรือง ประธานหอการค้าจังหวัดแพร่ ที่ห้องประชุมสำนักงานหอการค้าจังหวัดแพร่เพื่อหารือแนวทางการเวนคืนที่ดิน เพื่อขยายรันเวย์สนามบินด้านทิศเหนือ ให้มีความยาวเพียงพอรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ได้

โครงการดังกล่าว มีปัญหาเรื่องการเวนคืนที่ดินในบริเวณชุมชนตำบลเหมืองหม้อ บ้านสะบู จำนวน 103 หลังคาเรือน หมู่ 6 จำนวน 30 หลังคาเรือนและหมู่ 10 จำนวน 2 หลังคาเรือน นางศรีรัตน์เหมืองค่าผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลเหมืองหม้อกล่าวว่าปัจจุบันชาวบ้านมิได้ขัดขวางการขยายสนามบินสร้างความเจริญให้กับเมืองแพร่แต่พบว่าการเวนคืนเพื่อสร้างสนามบินมีอัตราการเวนคืนที่มีราคาต่อตารางวาไม่เป็นธรรม มีอัตราที่แตกต่างกันโดยเฉพาะที่ดินที่ไม่มีทางเข้าเป็นทางสาธารณะจะได้ค่าเวนคืนเพียง 500 บาทต่อตารางวาซึ่งต่ำมากส่วนผู้ที่มีที่ดินอยู่ติดกับทางหลวงแผ่นดินจะได้ค่าเวนคืนจำนวน 4,450 บาทต่อตารางวา และการเวนคืนในโครงการขยายสนามบินยังมีอัตราต่ำกว่าการเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างเส้นทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงรายซึงอยู่ในบริเวณใกล้กันอยากให้ทางราชการมองเห็นความจำเป็นในการชดเชยเพื่อนำเงินไปหาที่ดินใหม่ที่เหมาะสมได้สะดวกชาวบ้านไม่คิดขวางความเจริญแต่อย่างใด

ทางด้านนายอดิศร ไชยบุญเรือง ประธานหอการค้าจังหวัดแพร่กล่าวว่า เรื่องนี้หอการค้าจังหวัดแพร่จะช่วยเป็นสื่อกลางในการประสานงานหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องได้รับทราบปัญหาการเวนคืนที่ดินในโครงการขยาย runway สนามบินแพร่ อย่างไรก็ตามนโยบายรัฐบาลปัจจุบันกำลังส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวเมืองรอง 10 พื้นที่ทั่วประเทศ

ซึ่งจังหวัดแพร่ เป็นหนึ่งในพื้นที่ส่งเสริมดังกล่าวซึ่งมีความจำเป็นจะต้องมีระบบคมนาคมโดยเฉพาะทางรถไฟทางรถยนต์และสนามบินเพื่อความสะดวกของการเดินทางของนักท่องเที่ยวดังนั้นการขยายสนามบินแพร่จึงมีความสำคัญ ในการพัฒนา ให้จังหวัดแพร่มีความเจริญ ด้วยส่งเสริมเศรษฐกิจ ให้จังหวัดแพร่ได้อีกทางหนึ่งด้วย

ส่วนปัญหาภายในชุมชนที่ต้องได้รับผลกระทบ แต่ขอให้ผู้นำชุมชน กลับไปจำแนกให้ชัดถึงปัญหา และความต้องการ ที่เกิดขึ้นและทางออกจะเป็นอย่างไรเพื่อประมวลสรุปเป็นข้อเสนอให้หน่วยงานต่อไป
โดยจากข้อมูลที่ทางหอการค้าได้รับจากหน่วยงานราชการล่าสุด กรมการท่าได้แจ้งว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงานจัดทำรายงาน ชี้แจงเพิ่มเติมข้อมูล ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่ 2 จาก 7 ขั้นตอน และมีข้อมูลเบื้องต้นว่า ค่าทดแทนมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จะได้ ราวๆ 430,729,196 บาท โดยมีที่ดินที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดจำนวน 596 แปลงและสิ่งปลูกสร้าง อาคารที่ได้รับผลกระทบมีจำนวน 189 หลัง

ร่วมแสดงความคิดเห็น