เชียงใหม่อากาศปิด เครื่องบินจมหายไปกับหมอกควันพิษ

หมอกควันพิษเชียงใหม่ เครื่องบินทุกลำ ลงจอดสนามบินเชียงใหม่ “แล้วหาย“ ดอยสุเทพก็หายไปกับหมอกควัน เผยการดับไฟป่าที่เกิดหมอกควันมาก เพราะใช้หลักการ “ไฟชนไฟ” จึงเพิ่มมลพิษหมอกควันมากขึ้น

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 31 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน 2 ปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ รายงานปัญหาแรก ที่ท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ หรือสนามบินเชียงใหม่ จุดลงจอดของเครื่องบิน หรือเรียกว่า “แลนด์ดิ้ง” “ทัชดาวน์” หรือ “สแปลชดาวน์“

สำหรับจุดแลนด์ดิ้งดังกล่าว ผู้สื่อข่าวอยู่ที่บริเวณบนสะพานลอยหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ หน้าหมู่บ้านแกรนด์วิว-บ้านป่าเป้า หมู่ 10 ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวได้ถ่ายภาพทั้งวีดีโอ และภาพนิ่ง พบว่า จุดนี้เมื่อเครื่องบินกางล้อแล้วกำลังแลนด์ดิ้งลงจอด พบว่า อากาศปิด ทำให้สายตามองเห็นเครื่องบินในระยะใกล้เพียง 200-300 เมตรเท่านั้น หรือหากนับ 1 ไม่ถึง 10 เครื่องบินจะหายไปกับหมอกควันพิษ ก็ไม่สามารถมองเห็นเครื่องบินได้อีกแล้ว เพราะวันนี้เกิดจากปัญหาหมอกควันที่มีจำนวนหนามากกว่าทุกวัน ระยะมองเห็นของผู้ขับขี่รถตามท้องถนนก็ไม่ชัดเจนเช่นกัน ซึ่งนับว่าเป็นปัญหาของการบินในสนามบินเชียงใหม่ ที่ต้องยกเลิกสายการบินไปแล้วหลายเที่ยวบินก่อนหน้านั้น

ถึงแม้ว่า ในช่วงสัปดาห์นี้จะมีพายุฝนตกในหลายอำเภอใน จ.เชียงใหม่ และอีกหลายจังหวัดในภาคเหนือ ฝนที่ตกก็ยังไม่มากเท่าที่ควร ก็ยังเกิดไฟป่าและเกิดหมอกควันพิษจำนวนมากเช่นเดิม และแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ในเช้าวันเดียวกัน ถนนทุกสายที่มุ่งหน้าเข้าหาดอยสุเทพ วันนี้จะไม่สามารถมองเห็นดอยสุเทพได้เลย เช่นถนนมหิดลมุ่งหน้าท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ หรือสนามบินเชียงใหม่ ไม่เห็นดอยสุเทพเลยหายไปกับหมอกควันเช่นกัน

ส่วนปัญหาไฟป่า ผู้สื่อข่างลงพื้นที่ใน อ.แม่วาง และ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ สอบถามชาวบ้าน และจิตอาสาที่ลงพื้นที่ดับไฟป่า ก็ทราบปัญหาจำนวนมาก เช่น การสนับสนุนเรื่องของอาหารให้กับผู้ปฏิบัติงาน มีส่งมอบให้ แต่ไม่เพียงพอ น้ำมีพอให้ดื่มกิน แต่น้ำไม่เย็น เพราะลำบากในการแช่เย็น มีเพียงน้ำเป็นแพ๊คติดรถไว้ และนำไปกับตัวผู้ดับไฟ มีรวบรวมสิ่งของต่าง ๆ ไว้หลังรถยนต์ของจิตอาสาเท่านั้น

ยังพบจิตอาสาที่ดับไฟป่านอกจากมูลนิธิกระจกเงา บางคนจะเป็นคนนอกพื้นที่เชียงใหม่ มาจากอำเภออื่นและจังหวัดอื่น บางคนอาสามาดับไฟเพราะครอบครัวบุตรหลานมีปัญหาสุขภาพ จึงอาสามาดับไฟเพื่ออย่างน้อย ๆ ครอบครัวที่ล้มป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจจะช่วยให้สุขภาพเข้าดีขึ้นได้ไม่มากก็น้อยก็ตาม จิตอาสาดับไฟป่าบางคน ลงทุนซื้อเครื่องมือดับไฟป่าเอง เช่นเครื่องเป่าลม และนำรถยนต์ส่วนตัวเข้าดับไฟป่าอีกด้วย

จิตอาสาคนหนึ่ง บอกว่า การดับไฟป่า หากพบไฟป่าที่เกิดขึ้นแล้วเผาไหม้เป็นระยะทางยาว พื้นที่กว้างมาก ๆ นั้น การเข้าไปดับโดยใช้คนเข้าไปในกองไฟนั้น จะอันตรายมาก เพราะไฟจะล้อมและเผาคนเข้าไปดับไฟเสียเอง จึงต้องดับไฟโดยเผาป่าอีกด้านหนึ่งเพื่อชนกับไฟที่อยู่ในป่า เพื่อให้ดับไปพร้อม ๆ กัน ที่เรียกว่า การใช้แบบ “ไฟชนไฟ” จึงเกิดไฟไหม้ป่าเพิ่มขึ้น และเกิดปัญหาหมอกควันไฟป่ามากขึ้นตามมานั้นเอง จึงส่งผลกระทบเกิดหมอกควันไฟป่าเพิ่มมากขึ้น

ร่วมแสดงความคิดเห็น