ส.อ.ท.จี้รัฐบาลใหม่ เร่งแก้ปัญหาสินค้าจีนเกลื่อนตลาด

นอกจากภาวะการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองที่ส่งผลให้กำลังซื้อหดตัวแล้ว อีกประเด็นใหญ่ ที่ทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจโดยเฉพาะอุตสาหกรรม ต้องการให้เร่งแก้ไขโดยเร็ว คือปัญหาสินค้าจีนที่เข้ามาตีตลาดอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา

โดยนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ได้เปิดเผยว่า ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานกลุ่มอุตสาหกรรม ส.อ.ท. ทั้ง 45 กลุ่ม ได้หารือร่วมกันถึงสถานการณ์การผลิตของภาคอุตสาหกรรมไทย และภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง 2566 โดยประธานกลุ่มอุตสาหกรรมทั้ง 45 กลุ่ม ต่างต้องการให้มีการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วภายในเดือนสิงหาคม – กันยายนนี้ เพื่อออกนโยบายบริหารประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจรวมถึงเร่งรัดเขตการค้าเสรีกับประเทศต่างๆโดยเร็ว

นอกจากนี้ ปัญหาสำคัญที่กำลังกระทบกับ 20 กลุ่มอุตสาหกรรมอย่างรุนแรง คือปัญหาสินค้าจีนล้นทะลักเข้ามาในตลาดไทย โดยมีสาเหตุมาจากการค้าโลกที่ชะลอตัว ส่งผลให้ออเดอร์สินค้าจีนลดลง ผู้ประกอบการจีนจึงหาตลาดรองรับ รวมถึงในประเทศ ซึ่งยิ่งซ้ำเติมผู้ประกอบการไทยมากขึ้น เนื่องจากสินค้าจีนมีราคาถูก ปริมาณเยอะ และหลากหลาย ทำให้สินค้าไทยถูกแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด

ซึ่งจากเดิม กลุ่มอุตสาหกรรมไทยได้รับผลกระทบ 5-6 กลุ่ม เช่นอุตสาหกรรมเหล็ก เมื่อสินค้าจีนเข้ามาในตลาดมากขึ้น ทำให้มีกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับความเดือดร้อน เพิ่มเป็น 20 กลุ่ม อาทิ อุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมอะลูมิเนียม อุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมเม็ดพลาสติก อุตสาหกรรมเซรามิก เป็นต้น

“ถือเป็นปัญหาหลายเด้งสำหรับภาคการผลิตของไทย ที่ผ่านมาเผชิญกับตัวเลขส่งออกติดลบต่อเนื่องหลายเดือนจนส.อ.ท.กังวลเรื่องการผลิตที่ลดลง หลายรายผลิตเพื่อประคองการจ้างงาน และหวังออเดอร์จะกลับมา ต่อมาเจอกับปัญหาหนี้ครัวเรือนพุ่งสูงจนกำลังซื้อชะลอตัว หลายอุตสาหกรรมยอดขายลดลง อาทิ รถยนต์ เพราะไฟแนนซ์เข้ม จนล่าสุดผลจากเศรษฐกิจโลกที่ทำให้สินค้าจีนขายไม่ออกแต่ผลิตแล้วจึงทะลักเข้าไทยแทน ยิ่งซ้ำเติมภาคอุตสาหกรรมไทย กังวลว่าอาจกระทบการจ้างงานมากขึ้น เวลานี้ทุกอุตสาหกรรมกำลังปรับตัว และกำลังเตรียมแผนเพื่อเสนอรัฐบาลใหม่ช่วยเหลือ” รายงานข่าวระบุ

สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันที่เผชิญกับหลายปัจจัยรุมเร้า รวมถึงการไหลทะลักของสินค้าจากประเทศ ซึ่งกระทบกับผู้ผลิตและผู้ประกอบการไทยโดยตรง ภาครัฐจะมีแนวทางแก้ไขปัญหายังไง เพื่อให้ผู้ผลิตสินค้าไทยสามารถไปต่อได้ ท่ามกลางความยากลำบากที่เกิดขึ้น

ที่มา : มติชน

ร่วมแสดงความคิดเห็น