รู้จักโรคลิ้นหัวใจรั่ว หนึ่งในสาเหตุเหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก

โรคลิ้นหัวใจรั่วเป็นภาวะที่ลิ้นหัวใจทำงานผิดปกติ ทำให้เลือดไหลย้อนกลับสู่ห้องหัวใจ ส่งผลต่อการสูบฉีดเลือดของหัวใจ เกิดอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก ภาวะนี้หากไม่ได้รับการรักษาอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลวได้ ซึ่งโรคนี้เกิดขึ้นได้ทั้งในเด็ก และผู้ใหญ่ 

ลิ้นหัวใจคืออะไร ทำหน้าที่อย่างไร

ลิ้นหัวใจเป็นแผ่นกระดูกอ่อนที่ทำหน้าที่เปิด-ปิดทางเดินของกระแสเลือดระหว่างห้องหัวใจและเส้นเลือดแดง ลิ้นหัวใจทำงานสลับกันเพื่อควบคุมการไหลเวียนของเลือด โดยมีทั้งหมด 4 ลิ้น ได้แก่ ลิ้นไมตรอล ลิ้นไตรคุสปิด ลิ้นพัลมอนิก และลิ้นแปร์พวลมอนิก เมื่อลิ้นหัวใจทำงานผิดปกติ เลือดจะไหลย้อนกลับทำให้เกิดภาวะแรงดันเพิ่มขึ้นในหัวใจและเส้นเลือด ส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนเลือดทั่วร่างกาย

สาเหตุของโรคลิ้นหัวใจรั่ว

สาเหตุหลักของโรคลิ้นหัวใจรั่ว ได้แก่ โรคไข้รูมาติก การติดเชื้อแบคทีเรียที่หัวใจ และความผิดปกติแต่กำเนิดของลิ้นหัวใจ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น การมีประวัติครอบครัวเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วการใช้ยาบางชนิด เช่น ยารักษาโรคหืดหอบ ยากดภูมิต้านทาน และยาแก้ปวดกลุ่มปาราเซตามอล

อาการของโรคลิ้นหัวใจรั่ว  

อาการทั่วไปของโรคลิ้นหัวใจรั่ว ได้แก่ เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก บวมตามขา อาการอื่นๆ ที่อาจพบร่วมด้วย เช่น ใจสั่น หน้ามืด เวียนหัว หมดสติ อาการเหล่านี้อาจคล้ายกับอาการของโรคอื่นๆ จึงจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัย

การวินิจฉัยโรคลิ้นหัวใจรั่ว

แพทย์จะทำการประเมินประวัติการเจ็บป่วย อาการ และตรวจร่างกายผู้ป่วย โดยอาจใช้วิธีการต่างๆ เช่น การฟังเสียงหัวใจด้วยเครื่องหลอดวัดความดัน การตรวจคลื่นเสียงหัวใจ (Echocardiogram) เพื่อดูการเคลื่อนไหวของลิ้นหัวใจ และการตรวจเลือดเพื่อประเมินการทำงานของหัวใจ การวินิจฉัยที่ถูกต้องมีความสำคัญเพื่อนำไปสู่แนวทางการรักษาที่เหมาะสม

การรักษาโรคลิ้นหัวใจรั่ว

แนวทางการรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ในบางรายอาจรักษาด้วยยา เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ เพื่อลดภาระการทำงานของหัวใจ หากอาการรุนแรง อาจต้องผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมหรือซ่อมแซมลิ้นหัวใจที่เสียหาย นอกจากนี้ ผู้ป่วยต้องติดตามผลการรักษาอย่างสม่ำเสมอ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดภาระการทำงานของหัวใจ

โรคลิ้นหัวใจรั่วเป็นภาวะที่พบได้บ่อย สามารถรักษาให้หายขาดได้หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที ดังนั้น ควรคอยสังเกตุอาการของลูกน้อยแรกเกิด เด็ก ๆ รวมถึงตัวเองอยู่เสมอว่ามีอาการที่บ่งชี้ถึงโรคลิ้นหัวใจรั่วหรือไม่

ร่วมแสดงความคิดเห็น