มอดไม้พก ว.คอยตาม จนท.สุดท้ายโดนรวบ

จับมอดไม้เหิมเกริมพกวิทยุสื่อสารเช็คความเคลื่อนไหวเจ้าหน้าที่ ตัดไม้เตรียมลำเลียงช่วงหยุดสงกรานต์ เจ้าหน้าที่รวบตัวทันควัน

เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2566 หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.5 (อ.แม่สะเรียง) นำโดย นายสมจินต์ เนตรประดิษฐ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ มส.5 (อ.แม่สะเรียง) ร่วมกับนายอำนวย ยอคคำ หัวหน้าสายตรวจสายที่ 2 ได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ โดยได้รับแจ้งจากพลเมืองดี (ขอสงวนนาม) ทางโทรศัพท์ว่ามีการลักลอบตัดไม้ที่บริเวณป่าบ้านแม่ต๊อบเหนือ หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านกาศ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน จะมีการนำรถยนต์ไปบรรทุกไม้ออกมาจากจุดที่ลักลอบตัดโค่นไม้ เพื่อลักลอบออกในช่วงเทศกาลหยุดยาวสงกรานต์ที่จะถึงนี้ คาดมีออร์เดอร์สั่ง จึงขอให้เจ้าหน้าที่เข้าไปทำการตรวจสอบ

เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปยังบริเวณที่ได้รับแจ้ง ตามพิกัดทางทิศเหนือของบ้านแม่ต๊อบเหนือ หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านกาศ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นลำห้วยอีกึ ห่างจากหมู่บ้านแม่ต๊อบเหนือประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งลำห้วยอีกึ ดังกล่าวเป็นเส้นทางใช้สำหรับเข้าพื้นที่ป่าและที่ทำการเกษตรโดยจะใช้เป็นเส้นทางลำลองไปตามลำห้วยอีกึโดยไม่มีบ้านคนอยู่อาศัยแต่อย่างใด เมื่อคณะเจ้าหน้าที่เดินทางโดยทางเท้าเข้าไปตามลำห้วยได้พบมีรถยนต์กระบะสีเขียว หมายเลขทะเบียน ขค 1162 จังหวัดแม่ฮ่องสอน หลังกระบะมีโครงเหล็กจอดอยู่และมีชาย 1 คน ยืนอยู่ข้างรถยนต์คันดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังชื่อนายธนู (สงนนามสกุล) อายุ 46 ปี อยู่บ้านหมู่ที่ 11 ตำบลแม่ยวม อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน คณะเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพื่อขอตรวจสอบและให้นายธนู อุปละ นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณหน้ารถและหลังกระบะรถยนต์คันดังกล่าวปรากฏตรวจพบดังนี้ ตรวจบริเวณหน้าคอนโซลรถยนต์หมายเลขทะเบียน ขค xxxx จังหวัดแม่ฮ่องสอน

พบวิทยุสื่อสารแบบมือถือ จำนวน 2 เครื่อง วางอยู่และเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบวิทยุสื่อสารทั้ง 2 เครื่อง ใช้การได้ตามปกติ ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้ในการติดต่อสื่อสาร เช็คความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ ตรวจบริเวณหลังกระบะรถยนต์หมายเลขทะเบียน ขค xxxx จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตรวจพบเลื่อยโซ่ยนต์นำซุกซ่อนอยู่ในถุงปุ๋ย จำนวน 2 กระสอบโดย 1 กระสอบ จะนำเลื่อยโซ่ยนต์ซุกซ่อนไว้ จำนวน 2 ตัว รวมทั้งหมด จำนวน 4 ตัว และตรวจพบบาร์เลื่อยโซ่ยนต์ขนาด 24 นิ้ว จำนวน 2 อัน และ ขนาด 20 นิ้ว จำนวน 2 อัน และขนาด 13 นิ้ว 2 ตัว วางซุกซ่อนอยู่บริเวณใต้เปาะ และโซ่เลื่อยยนต์ ยาว 27 นิ้ว จำนวน 7 เส้น ยาว 23 นิ้ว จำนวน 4 เส้น ยาว 16 นิ้ว จำนวน 2 เส้น ตรวจพบอุปกรณ์ลอกโซ่แบบใช้มือซาวพบลวดสลิงและอุปกรณ์ต่างๆวางไว้อยู่บริเวณหลังกระบะรถยนต์คันดังกล่าว

นอกจากนี้ บริเวณข้างรถตรวจพบไม้สักท่อน จำนวน 2 ท่อน วางอยู่ห่างจากรถประมาณ 2 เมตร และ พื้นที่โดยรอบตรวจพบมีการลักลอบตัดโค่นไม้สักล้มลง และถูกตัดทอนเป็นท่อนๆ ลักษณะใหม่ พบร่องรอยการตัดทอนด้วยเลื่อยโซ่ยนต์ ตรวจสอบโดยละเอียดแล้วปรากฏว่าเป็นไม้สักท่อน ไม่พบรูปรอยดวงตราของทางพนักงานเจ้าหน้าที่หรือรอยตรารัฐบาลขายตีประทับไว้แต่อย่างใด และไม่เคยผ่านการเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้ใดๆ มาก่อน จำนวน 7 ท่อน เจ้าหน้าที่ได้สอบถามนายธนู อุปละ ว่าไม้สักท่อนที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบข้างต้นเป็นของตนใช่หรือไม่

เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่พบหลักฐานซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการกระทำผิดในอยู่ในรถยนต์ของผู้ต้องหาคนดังกล่าวเป็นจำนวนมากและเจ้าหน้าที่ได้นำกระดาษลอกลายเพื่อทำการลอกลาย จำนวนไม้ 2 ท่อนที่วางอยู่ข้างรถไปทำการเปรียบเทียบกับไม้สักท่อนที่ทำการโค่นล้ม ปรากฏมีขนาดและเส้นวงปีพร้อมรูปลักษณะของไม้ตรงกันอีกทั้งในบริเวณดังกล่าวไม่พบบุคคลอื่นใดอยู่บริเวณดังกล่าวจากหลักฐานในที่เกิดเหตุประกอบกับอุปกรณ์ที่ตรวจพบคณะเจ้าหน้าที่มีเหตุผลและหลักฐานที่ชัดเจนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายธนู อุปละ กระทำผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 ฐาน “ทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต” มาตรา 69 ทำไม้และมีไม้สักท่อนอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” และพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พุทธศักราช 2507 มาตรา 14 ฐาน “ทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต” และพระราชบัญญัติเลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545 มาตรา 4 ฐาน“มีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติคณะเจ้าหน้าจึงได้ร่วมกันทำการตรวจวัดชนิด ขนาด จำนวน ได้ไม้สักท่อน 9 ท่อน ปริมาตร 1.89 ลบ.ม คิดเป็นเงินค่าภาคหลวง 1,512 บาท คิดเป็นเงินค่าเสียหาย 15,120 บาท โดยใช้ดวงตรา ต.9667 ย.545 เลขเรียงไม้สักท่อน 10-19 เลขเรียง ปีย่อ 66 ตีประทับไว้ที่ไม้ของกลางพร้อมตรวจยึดอุปกรณ์ในการกระทำผิด (รายละเอียดตามบัญชีอุปกรณ์การกระทำผิดแนบท้ายบันทึกฉบับนี้) คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ขออนุมัติพนักงานสอบสวนนำของกลางออกมาจากที่เกิดเหตุมาเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.5 (อ.แม่สะเรียง) พร้อมได้จัดทำบันทึกร่วมรวมพยานหลักฐานและภาพถ่ายที่เกิดเหตุ พร้อมตัวผู้กระทำผิด นายธนู อุปละ นำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรแม่สะเรียงเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น