(มีคลิป) น่าน รวบแก๊งท้ายบ้านหมู่ 8 หยามตำรวจ ขโมย จ.ย.ย.ชำแหละขาย

น่าน รวบทั้งแก๊ง (ท้ายบ้านหมู่ 8) วัยละอ่อน หยามตำรวจ ขโมยรถ จ.ย.ย. ของกลางชำแหละขาย

เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 เวลา 12.00 น. พ.ต.อ.ดเรศ กัลยา รอง ผบก.ภ.จ.น่าน , พ.ต.อ.ชาตรี หทยะวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองน่าน , พ.ต.ท.จักรพงษ์ วงค์ไชย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองน่าน ร.ต.อ.อนุรักษ์ ขันแก้ว รอง สว.สส. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองน่าน จำนวนหนึ่ง นำกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุมตัว

พลทหารฯ กมล (ขอสงวนนามสกุล) สังกัดกองพันทหารปืนใหญ่แห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี เจ้าของร้านซ่อมรถแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้านบ้านน้ำต้วน อ.ภูเพียง จ.น่าน หลังจากเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2566 มีเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ประสบอุบัติเหตุ เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม 2566 และเจ้าของรถเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลน่าน และรักษาตัวจนหายดีแล้ว ได้เข้ามาติดต่อขอรับรถที่ถูกนำมาเก็บรักษาไว้ที่สถานที่เก็บรักษาของกลาง สภ.เมืองน่าน ปรากฎว่ารถคันดังกล่าวได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จึงได้ดำเนินออกสืบสวนติดตาม จนพบว่าเมื่อคืนวันที่ 4 และวันที่ 10 เมษายน ในช่วงเวลา 02.00 – 03.00 น. ได้มีกลุ่มวัยรุ่นอายุประมาณ 15-18 ปี จำนวน 10 คน ได้ก่อเหตุเข้ามาลักจักรยานยนต์ของกลาง ที่จอดเก็บไว้ด้านข้าง สภ.เมืองน่าน โดยใช้วิธีอุ้มขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซค์ และขับหลบหนีไป

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามผ่านกล้องวงจรปิด พบว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวใช้รถจักรยานยนต์ จำนวน 5 คัน 10 คน เข้ามาก่อเหตุ โดยนำจักรยานยนต์ที่ขโมยมาวางไว้ระหว่างคนขับกับคนซ้อน ขับมุ่งหน้าออกจากสภ.แล้วข้ามสะพานพัฒนาภาคเหนือ เลี้ยวซ้ายตรงลงสะพานขับไปทางโรงพยาบาลค่ายสุริยพงษ์ แล้วเลี้ยวซ้ายผ่านหน้าฐานแสงเพ็ญ กรมทหารพรานที่ 32 แล้วหายไป เจ้าหน้าที่จึงออกหาข่าวตามหมู่บ้าน จนพบว่าร้านซ่อมรถดังกล่าวมักมีวัยรุ่นมาแต่งรถและทำท่อเสียงดัง

จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบว่า มีกลุ่มวัยรุ่นทั้งหญิงและชาย มามั่วสุมกันอยู่ในบริเวณบ้าน ที่บริเวณหน้าบ้าน พบอะไหล่รถจักรยานยนต์ที่ถูกชำแหละแยกชิ้นส่วน จึงซักถาม พลทหารฯ กมล ให้การยอมรับว่ารถดังกล่าว เป็นรถที่ตนซื้อมาจากกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 10 คนที่ไปก่อเหตุ ในราคาคันละ 600 บาท (หกร้อยบาท) และนำมาชำแหละแยกชิ้นส่วนขาย จำนวน 2 คัน และชิ้นส่วนอะไหล่จำพวกล้อ ดิสเบรค อะไหล่เครื่องยนต์ รวมทั้งหมวกกันน็อกในราคา 50-100 บาท พลทหารฯ กมล ยังกล่าวอีกว่า สำหรับรถจักรยานยนต์ 1 คัน ตนสามารถถอดรื้อชำแหละเป็นอะไหล่ได้ภายในเวลาไม่เกิน 20 นาที

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัว พลทหารฯ กมล พร้อมเศษซากรถจักรยานยนต์นำตัวมาสอบสวนขยายผลต่อที่ สภ.เมืองน่าน พร้อมเด็กและเยาวชนที่อยู่ในร้านดังกล่าว จนเปิดปากรับสารภาพทั้งกลุ่มจำนวน 10 คนโดยมีอายุ 15-18 ปี โดยกลุ่มวัยรุ่นให้การว่าที่ทำไปเพราะความคึกคะนอง เนื่องจากตั้งแก๊งขึ้นมาโดยใช้ชื่อแก๊งว่า #ท้ายหมู่ 8 แล้วท้าทายกันว่าจะต้องประกาศศักดาว่ากลุ่มเราต้องดัง มีความกล้าและเจ๋งที่สุด ทำในสิ่งที่ไม่มีใครทำ จึงท้าทายกันว่าใครในกลุ่มที่มีความกล้าที่สุด ให้ไปขโมยรถที่ถูกยึดไว้ที่ สภ. ก็ไม่มีใครกล้า จึงตกลงกันว่าถ้างั้นเราก็ไปทั้งหมด จึงพากันไปขโมยรถที่จอดไว้ ครั้งแรกวันที่ 4 ขโมยมา 1 คัน จากนั้นวันที่ 10 ได้ขโมยอีก 1 คัน นำไปขายที่ร้านซ่อมรถของ พลทหารฯ กมล ซึ่งพวกตนนับถือเป็นหัวหน้าแก๊งดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้นำตัวเด็กและเยาวชน พร้อมเชิญผู้ปกครองมารับทราบพฤติกรรม รวม 12 คน ซึ่งก็วุ่นวายเนื่องจากผู้ปกครองทั้งบ่นทั้งตำหนิ ในพฤติกรรมของบุตรหลานเสียงอื้ออึง (ปล่อยเสียง)

พ.ต.อ.ดเรศ กัลยา รอง ผบก.ภ.จ.น่าน กล่าวว่า ฝากเตือนถึงผู้ประกอบการ ร้านที่จำหน่ายหรือซ่อมมอเตอร์ไซค์ หรือรถต่างๆ ถ้าเห็นพฤติกรรมของเด็กหรือกลุ่มคน ที่แอบเอารถหรืออะไหล่มาขาย ก็ขอให้แจ้งเบาะแสมาที่ สภ.หรือโทรมาที่ 191 เพื่อจะได้ทำการตรวจสอบว่าอะไหล่ที่นำมาขายนั้นมาจากไหน เพื่อจะได้ดำเนินการตรวจสอบและจับกุมต่อไป และฝากผู้ปกครองที่มีบุตรหลานที่กำลังอยู่ในวัยศึกษาเรียนรู้อะไรต่างๆ ก็ให้ช่วยดูแลอบรมด้วยนะครับ อย่าให้มีลักษณะอย่างนี้ เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะไม่ควรและเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ครับ”

ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหารับของโจร แก่ พลทหารฯ กมล ส่วนเด็กและเยาวชน 10 คน นำเรื่องส่งศาล จ.น่าน เพื่อสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพ ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนอีก 2 คนนั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงปล่อยตัวพร้อมกำชับผู้ปกครองให้หมั่นดูแล อย่าปล่อยให้ไปมั่วสุมกัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น