เชียงรายรวบโจ๋วัย 18 เอี่ยวจัดหาเหยื่อเพื่อเปิดบัญชีม้า

ตามรวบเพิ่มอีกราย! หนุ่มเชียงรายวัย 18 เอี่ยวจัดหาเหยื่อเพื่อเปิดบัญชีม้า พัวพันแก๊งคอลล์ฯหลอกตุ๋นสาว ม.6 จนฆ่าตัวตาย

เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 66 ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย ยังได้ขอศาลจังหวัดเชียงรายอนุมัติออกหมายจับ นายสมบัติ (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ในข้อหาความผิดเกี่ยวกับบัญชีม้า ตาม พ.ร.ก.ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 ก่อนทำการจับกุม นำตัวมาสอบปากคำพบว่า มีพฤติกรรมคอยตระเวนหาเหยื่อเยาวชน เพื่อหลอกลวงให้นำบัตรประชาชนมาเปิดบัญชีม้า โดยเฉพาะเยาวชนหญิง อายุระหว่าง 15-18 ปี อีกทั้งยังมุ่งเน้นหาเหยื่อที่อาศัยอยู่บริเวณตะเข็บชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากง่ายต่อการควบคุม เพราะเป็นคนในพื้นที่สามารถติดตามตัวได้ตลอดเวลา

หลังจากได้เหยื่อแล้วนายสมบัติจะรวบรวมเอกสารทั้งหมด นำไปส่งให้กับ “เสี่ยสอง” ซึ่งเป็นชาวเมียนมา ตัวบงการสำคัญในการกำกับดูแลเรื่องบัญชีม้า ซึ่งหลังจากนี้ตำรวจจะขอศาลอาญารัชดาอนุมัติออกหมายจับตำรวจสากล หรือหมายแดง เพื่อประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ติดตามจับกุมตัวเสี่ยสองมาดำเนินคดี

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ นำหมายจับมาประสานกับทาง จนท.สืบสวน สภ.เมืองเชียงราย เพื่อจับกุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหลอกลวงเด็กสาววัย 19 ชาวนครศรีธรรมราช ให้จ่ายเงินเพื่อซื้อโทรศัพท์มือถือ และไม่ได้รับมือถือตามที่ได้ติดต่อพูดคุย จนเด็กเกิดความเครียดหนักตัดสินใจฆ่าตัวตาย ตามที่ปรากฏเป็นข่าวใหญ่ของทุกสำนักข่าว ซึ่งจากผลการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า มีผู้สมรู้ร่วมคิดที่เป็นชาวเชียงราย 3 ราย และอีกรายเป็นคนกดเงิน จนเป็นที่มาของการออกหมายจับในครั้งนี้ ประกอบด้วย น.ส.ศิริพร (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี น.ส.รัตนพร (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี นายธีรวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี และ น.ส.ณัฎฐนิชา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี คนกดเงิน

ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมได้ 3 รายคือ น.ส.รัตนพร (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี นายธีรวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี และ น.ส.ณัฎฐนิชา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี คนกดเงิน ทั้งหมดถูกนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ บช.สอท.5 ส่วน น.ส.ศิริพร (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี คาดว่าจะหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่เตรียมประสานประเทศเพื่อนบ้านเพื่อติดตามตัวกลับมาดำเนินคดีพร้อมกับ “เสี่ยสอง” ชาวเมียนมา ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่คอยจัดการบัญชีม้าตามคำบอกเล่าของผู้ร่วมขบวนการ

ร่วมแสดงความคิดเห็น