องคมนตรี เปิดกิจกรรมปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม

องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง เปิดกิจกรรมปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม โดยมูลนิธิโครงการหลวง ร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พร้อมตรวจเยี่ยมศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยน้ำริน อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย

วันที่ 29 มิ.ย. 65 พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวงเป็นประธานเปิดกิจกรรมปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม โดยมูลนิธิโครงการหลวง ร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นำโดยรองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ และคณะผู้บริหารของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยมี นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ส่วนราชการ เกษตรกร และชุมชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรม ณ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยน้ำริน อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ซึ่งในพิธี องคมนตรีได้นำคณะผู้ร่วมงานกล่าวคำถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ ถวายพระพรชัยมงคล มอบต้นไม้และประกาศนียบัตรแก่ผู้แทนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการเพื่อนำไปปลูกในเขตพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยน้ำริน อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย จำนวน 266 ไร่ รวมกล้าไม้ที่ปลูกในกิจกรรมครั้งนี้ 46,678 ต้น

สำหรับ กิจกรรมปลูกป่าครั้งนี้ เป็นการต่อยอดจากข้อตกลงความร่วมมือโครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม ระหว่างมูลนิธิโครงการหลวง และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ที่ได้ลงนามเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2565 เพื่อส่งเสริมและฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ เพิ่มศักยภาพการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ โดยการมีส่วนร่วมในการปลูกและบริหารจัดการป่าอย่างยั่งยืนของชุมชน ภายใต้กรอบระยะเวลาความร่วมมือ พ.ศ. 2565-2575 โดยการพัฒนาต้นแบบพื้นที่เกษตร-ป่าไม้ยั่งยืนด้วยการปลูกป่าร่วมกับพืชเศรษฐกิจ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ควบคู่กับการเพิ่มพื้นที่ป่าถาวร เป็นแนวทางสร้างรายได้ด้วยเศรษฐกิจสีเขียว จากการอนุรักษ์ผืนป่าด้วย “คาร์บอนเครดิต”

สอดรับนโยบาย กฟผ. ที่มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ผ่านโครงการปลูกป่าล้านไร่อย่างมีส่วนร่วม ภายใต้แนวคิด EGAT Carbon Neutrality ซึ่งได้วางแผนปลูกป่าปีละหนึ่งแสนไร่ ระหว่างปี พ.ศ. 2565-2574 ประกอบไปด้วยป่าอนุรักษ์ ป่าชายเลน ป่าชุมชน และป่าเศรษฐกิจ กิจกรรมครั้งนี้ยังสอดรับกับเป้าหมายการเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายใต้โครงการสวมหมวกให้ดอยของมูลนิธิโครงการหลวง โดยการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกต้นไม้ไว้เป็นไม้ใช้สอยในครัวเรือน ส่งเสริมการปลูกป่าในแบบวนเกษตรเพื่อสร้างรายได้ ปรับเปลี่ยนระบบการผลิตจากพืชเชิงเดี่ยวมาเป็นพืชยืนต้นที่ให้ผลผลิตระยะยาว ใช้แรงงานน้อย ร่วมกับการปลูกพืชระยะสั้นเป็นรายได้เสริม โครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วมนี้จะสร้างพื้นที่กักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ให้กับประเทศ โดยมีเป้าหมายปลูกป่าในพื้นที่ดำเนินการของมูลนิธิโครงการหลวงปีนี้ รวม 4 แห่ง ได้แก่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ จ.ตาก ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยโป่ง ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยน้ำขุ่น และศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยน้ำริน จ.เชียงราย โดยเน้นการปลูกไม้ป่าผสมผสานไม้ผลในโมเดลวนเกษตร ได้แก่ ไผ่ จันทร์ทองเทศ มะขามป้อม กาแฟ กล้วย อาโวคาโด พลัม ซึ่งเป็นไม้ผลยืนต้นที่จะสร้างรายได้ในอนาคต

ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน องคมนตรี ได้ประชุมติดตามการดำเนินงานภายใต้การประสานความร่วมมือของคณะทำงานสนับสนุนศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยน้ำริน โดยศูนย์แห่งนี้ส่งเสริมการปลูกผัก ไม้ผล ไม้ดอก เฟิน และพืชเมืองหนาวอื่น ๆ แก่เกษตรกรเพื่อทดแทนการปลูกฝิ่น การทำไร่เลื่อนลอย และการปลูกข้าวโพด โดยเมื่อ พ.ศ. 2527 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จ
พระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรที่บ้านห้วยน้ำริน ทำให้เกษตรกรในพื้นที่เกิดการตระหนักและเข้าใจถึงความสำคัญของการทำการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และดำรงชีวิตอย่างพอเพียงด้วยการปลูกพืชเมืองหนาวที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่

ปัจจุบัน ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยน้ำริน ดำเนินการในพื้นที่ 4 หมู่บ้าน 5 หย่อมบ้าน ประชากรเป็นชาวไทยภูเขาเผ่ามูเซอดำ มูเซอแดง คนพื้นเมือง และปกาเกอะญอ รวม 1,234 ครัวเรือน ผลผลิตหลัก ได้แก่ เฟินหนัง เฟินเขากวาง เสาวรส อาโวคาโด ผักกาดขาวปลี และไม้ดอกชนิดต่าง ๆ
การตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ องคมนตรีได้ปลูกต้นนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทย ซึ่งเป็นกลุ่มไม้โตเร็ว ที่มีดอกสวยงามเพื่อสร้างความสวยงามแก่พื้นที่ เยี่ยมชมนิทรรศการการจัดการขยะของนักเรียนโรงเรียนโป่งน้ำร้อนวิทยา นิทรรศการแสดงวิถี ธรรมเนียมประเพณีขอชนเผ่าลาหู่แซแล เยาวชนบ้านห้วยม่วง และโรงเรียนบ้านเมืองน้อย รวมทั้งการจัดแสดงผลิตภัณฑ์กัญชง และการจัดการบำรุงดินของกรมพัฒนาที่ดิน

ร่วมแสดงความคิดเห็น