เดินหน้าประสานเครือข่ายท้องถิ่น เพื่อรู้-รับ-ปรับตัว pm 2.5 ภ.เหนือ

สสส.จับมือ GISTNORTH มช. และเครือข่ายทุกภาคส่วน เดินหน้าประสานพลังเครือข่ายท้องถิ่น เพื่อการ รู้-รับ-ปรับตัว (resilience) จากภัยฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm 2.5 พื้นที่ภาคเหนือ นักวิจัยยืนยัน pm 2.5 ภัยอันตรายถึงชีวิต

เชียงใหม่ 18 พ.ค.66 ที่โรงแรมเซ็นทาราริเวอร์ไซด์ เชียงใหม่ นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ประธานกรรมการกำกับทิศทางของแผนสุขภาวะชุมชน สสส.เป็นประธานเปิดเวที “เวทีวิชาการประสานพลังเครือข่ายท้องถิ่นเพื่อการ รู้-รับ-ปรับตัว (resilience) จากภัยฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm 2.5 พื้นที่ภาคเหนือ โดยศูนย์ภูมิภาคเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ภาคเหนือ(GISTNORTH) คณะสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดขึ้น โดยมี ดร.พลภัทร เหมวรรณ ผู้อำนวยการ ศูนย์ GISTNORTH รายงานถึงวัตถุประสงค์ ในฐานะหัวหน้าโครงการจัดเวทีครั้งนี้ โดยมีวิทยากรเกี่ยวข้องร่วมในการ เสวนาวิชาการ “สานพลัง ร่วมขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในสังคมไทย”

ประเด็น 1. สถานการณ์ปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 ในภาคเหนือและปัญหาหมอกควันข้ามแดน 2. แนวทางการจัดการปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในภาคเหนื่อ 3. กฎหมายและนโยบายสู่การแก้ไขปัญหาภัยฝุ่น PM 2.5 โดยมี รศ.ดร.สมพร จันทระ ประธานคณะทำงานด้านวิชาการเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายสมคิด ปัญญาดี ผู้อำนวยการ ส่วนยุทธศาสตร์ สำนักงานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ประธานคณะกรรมการอำนวยการสภาลมหายใจเชียงใหม่ ดำเนินการเสวนาโดย นายอาคม สุวรรณกันธา รองประธานกรรมการหอการค้าเชียงใหม่
การบรรยายพิเศษ “ผลกระทบจากภัยฝุ่น PM 2.5” โดย ดร.ทิพวรรณ ประภามณฑล นักวิจัยอาวุโส หน่วยวิจัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

สำหรับเวทีการประสานพลังเครือข่ายท้องถิ่น เพื่อการ รู้-รับ-ปรับตัว (Resilience)จากภัยฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm 2.5 นี้ จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 18-19 พฤษภาคม 2566 โดย นายสืบศักดิ์ กล่าวว่า สสส.เป็นผู้สนับสนุนเชื่อมโยงการทำงานให้ส่วนต่างๆ โดยมีเป้าหมายสร้างความเข้มแข็งของชุมชน ที่มีการขับเคลื่อนมาต่อเนื่องและกำลังขยายจากชุมชนสู่ตำบล จังหวัดเป็นลำดับ เรื่องฝุ่นควัน pm 2.5 สังคมเริ่มตระหนักมากขึ้น ซึ่งยอมรับว่ามีปัญหามานานและมีส่วนเกี่ยวข้องมีเหตุมีปัจจัยหลายอย่าง การทำงานด้านนี้จะสำเร็จได้ต้องร่วมมือกันจริงจังและที่สำคัญที่สุดคือชุมชน วันนี้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ สสส.ช่วยขับเคลื่อนต่อยอดขยายผล เพราะปกติมีหลายส่วนงานที่ทำรวมทั้งฝ่ายวิชาการ การที่มาเชื่อมโยงทำงานร่วมกันจะทำให้การแก้ไขมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขณะที่ ดร.พลภัทร เหมวรรณ ผู้อำนวยการ ศูนย์GISTNORTH หัวหน้าโครงการกล่าวว่า ปัญหานี้ได้รับความสนใจมากขึ้นจากผลกระทบที่มากขึ้นแต่ก็มีเพียงกลุ่มเล็ก 20% ที่ตื่นตัวรู้และรับมือ อีก 80% ยังไม่รู้ จึงมีการสร้างเติมจุดนี้ ซึ่งได้ลงพื้นที่นำร่อง 12 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)ของภาคเหนือ เพื่อศึกษาเรียนรู้ทั้งพื้นที่ประสบภัยเกิดปัญหากับพื้นที่ไม่มีเหตุ แต่ได้รับผลกระทบ 2-3 ปีจากข้อมูลที่ได้ ก็สามารถสร้างทิศทางไว้ได้เป็น 6 โมดูล เพื่อนำไปขยายผลคือ Module 1 ให้ความรู้ทั่วไปและดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ฝุ่น PM 2.5 คืออะไร, แหล่งกำเนิด, ผลกระทบจากฝุ่นด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม, ดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ประเทศไทยและประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมแนวทางในการปฏิบัติตน

Module 2 เว็บแอพพลิเคชั่นแผนที่ออนไลน์ AQMRS การติดตามค่าความเข้มข้นฝุ่น PM 2.5 แบบ Near real-time (รายชั่วโมง-รายวัน) จุด Hotspot แยกตามประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดิน ข้อมูลสถิติค่าฝุ่นและ Hotspot ย้อนหลัง

Module 3 หน้ากากป้องกันฝุ่น ระดับประสิทธิภาพการประกันฝุ่นของหน้ากากประเภทต่างๆ, ขั้นตอนการสวมใส่หน้ากากแบบถูกต้อง, การตัดเย็บหน้ากากป้องกันฝุ่นแบบ Reuse

Module 4 ห้องปลอดฝุ่นและมุ้งสู้ฝุ่น กลุ่มเป้าหมาย, กระบวนการทำงาน, วัสดุอุปกรณ์-ขั้นตอน, การดูแลรักษา

Module 5 การบริหารจัดการไฟป่า เทคนิคการดับไฟป่า, อุปกรณ์การดับไฟป่าและการดูแลรักษา, การปฐมพยาบาลเบื้องต้น

Module 6 การบริหารจัดการเศษวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร และขยะในครัวเรือน เศษวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร (อ้อย-การไม่เผาใบอ้อย-ส่งเสริมการตัดอ้อยสด/ข้าว-ฟางอัดก้อนและไถกลบ/ข้าวโพด-ถ่านเชื้อเพลิงชีวมวล) ขยะในครัวเรือน (ปุ๋ยหมักไม่กลับกอง/ถังหมักรักษ์โลก Green Cone)

สสส.จับมือ GISTNORTH มช. และเครือข่าย เดินหน้าประสานพลังท้องถิ่น เพื่อการรู้-รับ-ปรับตัว ภัยจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm 2.5 พื้นที่ภาคเหนือ นักวิจัยยืนยัน pm 2.5 ภัยอันตรายถึงชีวิต

วันที่ 18 พ.ค. 66 ที่โรงแรมเซ็นทาราริเวอร์ไซด์ เชียงใหม่ นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ประธานกรรมการกำกับทิศทางของแผนสุขภาวะชุมชน สสส. เป็นประธานเปิด “เวทีวิชาการประสานพลังเครือข่ายท้องถิ่นเพื่อการ รู้-รับ-ปรับตัว (resilience) จากภัยฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm 2.5 พื้นที่ภาคเหนือ” ซึ่งกำหนดจัด 2 วัน ในวันที่ 18-19 พ.ค. 66 โดย ศูนย์ภูมิภาคเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ภาคเหนือ (GISTNORTH) คณะสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มี ดร.พลภัทร เหมวรรณ ผู้อำนวยการ ศูนย์ GISTNORTH รายงานถึงวัตถุประสงค์ ในฐานะหัวหน้าโครงการจัดเวทีครั้งนี้ มีวิทยากรเกี่ยวข้องร่วมในการเสวนาวิชาการ “สานพลัง ร่วมขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในสังคมไทย” ในประเด็น สถานการณ์ปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 ในภาคเหนือและปัญหาหมอกควันข้ามแดน แนวทางการจัดการปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในภาคเหนือ และ กฎหมาย นโยบายสู่การแก้ไขปัญหาภัยฝุ่น PM 2.5

นายสืบศักดิ์ฯ กล่าวว่า สสส. เป็นผู้สนับสนุนเชื่อมโยงการทำงานให้ส่วนต่างๆ โดยมีเป้าหมายสร้างความเข้มแข็งของชุมชนที่มีการขับเคลื่อนมาต่อเนื่องและกำลังขยายจากชุมชนสู่ตำบล จังหวัดเป็นลำดับ เรื่องฝุ่นควัน pm2.5 สังคมเริ่มตระหนักมากขึ้น ต้องยอมรับว่าปัญหามีมานานและมีส่วนเกี่ยวข้องมีเหตุมีปัจจัยหลายอย่าง การทำงานด้านนี้จะสำเร็จได้ต้องร่วมมือกันจริงจัง ที่สำคัญที่สุดคือ ชุมชน วันนี้เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ สสส. ช่วยขับเคลื่อนต่อยอดขยายผล ปกติมีหลายส่วนงานที่ทำรวมทั้งฝ่ายวิชาการ การที่มาเชื่อมโยงทำงานร่วมกันจะทำให้การแก้ไขมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ด้าน ดร.พลภัทร เหมวรรณ ผู้อำนวยการ ศูนย์ GISTNORTH หัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า ปัญหานี้ได้รับความสนใจมากขึ้นจากผลกระทบที่มากขึ้น แต่ก็มีเพียงกลุ่มเล็กๆ ราว 20% ที่ตื่นตัวรู้และรับมือ อีก 80% ยังไม่รู้ จึงมีการสร้างเติมจุดนี้ ซึ่งได้ลงพื้นที่นำร่อง 12 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ของภาคเหนือ เพื่อศึกษาเรียนรู้ทั้งพื้นที่ประสบภัยเกิดปัญหากับพื้นที่ไม่มีเหตุแต่ได้รับผลกระทบ 2-3 ปี จากข้อมูลที่ได้ก็สามารถสร้างทิศทางไว้ได้เป็น 6 โมดูล เพื่อนำไปขยายผล

สำหรับทิศทางทั้ง 6 โมดูล ประกอบด้วย Module 1 ให้ความรู้ทั่วไปและดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ฝุ่น PM 2.5 คืออะไร, แหล่งกำเนิด, ผลกระทบจากฝุ่นด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม, ดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ประเทศไทยและประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมแนวทางในการปฏิบัติตน Module 2 เว็บแอพพลิเคชั่นแผนที่ออนไลน์ AQMRS การติดตามค่าความเข้มข้นฝุ่น PM 2.5 แบบ Near real-time (รายชั่วโมง-รายวัน) จุด Hotspot แยกตามประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดิน ข้อมูลสถิติค่าฝุ่นและ Hotspot ย้อนหลัง Module 3 หน้ากากป้องกันฝุ่น ระดับประสิทธิภาพการประกันฝุ่นของหน้ากากประเภทต่างๆ, ขั้นตอนการสวมใส่หน้ากากแบบถูกต้อง, การตัดเย็บหน้ากากป้องกันฝุ่นแบบ Reuse Module 4 ห้องปลอดฝุ่นและมุ้งสู้ฝุ่น กลุ่มเป้าหมาย, กระบวนการทำงาน, วัสดุอุปกรณ์-ขั้นตอน, การดูแลรักษา Module 5 การบริหารจัดการไฟป่า เทคนิคการดับไฟป่า, อุปกรณ์การดับไฟป่าและการดูแลรักษา, การปฐมพยาบาลเบื้องต้น และ Module 6 การบริหารจัดการเศษวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรและขยะในครัวเรือน เศษวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร (อ้อย-การไม่เผาใบอ้อย-ส่งเสริมการตัดอ้อยสด/ข้าว-ฟางอัดก้อนและไถกลบ/ข้าวโพด-ถ่านเชื้อเพลิงชีวมวล) ขยะในครัวเรือน (ปุ๋ยหมักไม่กลับกอง/ถังหมักรักษ์โลก Green Cone)

ดร.ทิพวรรณ ประภามณฑล เผยว่า องค์ประกอบทางเคมีที่อยู่บนฝุ่น PM2.5 สามารถนำสารที่เกาะอยู่บนตัวฝุ่นเข้าสู่ร่างกายได้มากกว่า และลึกกว่า ในปริมาณความเข้มข้นเท่ากับ PM10 โดย PM 2.5 จะมีพื้นผิวเยอะกว่าในน้ำหนักที่เท่ากัน เช่น 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ทำให้มีความกังวลเรื่องผลกระทบทางสุขภาพจากการสัมผัสฝุ่นจิ๋ว PM2.5 หรือฝุ่นที่เล็กกว่า ไม่ว่าจะเป็น PM1 หรือ PM0.1 (ฝุ่นนาโน) ที่จะเข้าไปในร่างกายลึกมากขึ้นไปอีก โดยสรุปจากผลการวิจัยถือเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ได้จากห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจมลพิษ คือ สารพีเอเอชจากฝุ่นละอองที่ขับถ่ายจากร่างกาย โดยการตรวจปัสสาวะ pm2.5 เป็นสาเหตุของความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรง เช่น โรคมะเร็ง และโรคระบบทางเดินหายใจ จากการทบทวนและวิเคราะห์ผลงานการวิจัยทางวิทยาศาสตร์การแพทย์และการแพทย์หลายชิ้นของผลกระทบต่อสุขภาพของฝุ่นละออง PM 2.5 ชัดเจนว่า แม้ได้รับสัมผัสในปริมาณความเข้มข้นที่ต่ำกว่าค่ามาตรฐานก็มีความเสี่ยงต่อสุขภาพอย่างสำคัญ ผลสรุปชี้ชัดถึงผลร้ายของ PM 2.5 ต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจหลอดเลือด ระบบภูมิต้านทาน กระบวนการเผาผลาญในร่างกาย รวมถึงการทำงานของตับ ทำให้เกิดโรคทั้งชนิดเฉียบพลันและชนิดเรื้อรังต่อหลายระบบการได้รับสัมผัส PM 2.5 ในระยะยาวทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ตามด้วยภาวะผิดปกติต่าง ๆ ของหัวใจ และเสียชีวิตได้

ร่วมแสดงความคิดเห็น