อดีต ผอ.สพป.เชียงราย เขต 2 และอดีตนายก อบต.รอบเวียง มีความผิดอาญา

ป.ป.ช.เชียงราย มีมติชี้มูลอดีต ผอ.สพป.เชียงราย เขต 2 และอดีตนายก อบต.รอบเวียง มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา!

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 23 พ.ค. 66 นายสุชาติ กรวยกิตานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 5 (เชียงใหม่) พร้อมด้วยนายเนติพล ชุมยวง ผอ.ป.ป.ช.ประจำจังหวัดเชียงราย ร่วมแถลงข่าวผลการดำเนินงานที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูล ณ ห้องประชุมธรรมลังกา ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย

ในการร่วมแถลงข่าวครั้งนี้นอกจากจะมีผู้อำนวยการสำนักวาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงรายแล้ว ยังได้รับเกียรติจากผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. อีก 7 จังหวัดเข้าร่วมในการแถลงข่าว ประกอบด้วย นายนิรันดร์ ศรีภักดี ผอ.ป.ป.ช.เชียงใหม่ นายศรัณ อภิสิทธิเวช ผอ.ป.ป.ช.แพร่ นายฉัตรชัย วีระเชวงกุล ผอ.ป.ป.ช.น่าน นางอรดี ไกรยุทธศักดิ์ ผอ.ป.ป.ช.ลำพูน นางธัญญาภรณ์ จันทร์สว่าง ผอ.ป.ป.ช.พะเยา นายกิตติศักดิ์ พิมสาร ผอ.ป.ป.ช.ลำปาง และนายจรงค์ เกราะเหมาะ ผอ.ป.ป.ช.แม่ฮ่องสอน

ในการแถลงข่าวเริ่มจากนายสุชาติ กรวยกิตานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 5 (เชียงใหม่) ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดการแถลงข่าว และผลการดำเนินงานของ ป.ป.ช. ภาค 5 ในภาพรวม จากนั้นผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. แต่ละจังหวัดได้นำเสนอผลงานในรอบเดือนที่ผ่านมาให้ผู้สื่อข่าวได้รับทราบ

สำหรับในพื้นที่ จ.เชียงราย นายเนติพล ชุมยวง ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงราย เผยว่า ในรอบเดือนที่ผ่านมา มีคดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูล จำนวน 2 เรื่อง ได้แก่ กรณีกล่าวหาอดีตผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2 อ.แม่ลาว จ.เชียงราย กับพรรคพวกรวม 6 ราย ทุจริตในการเบิกจ่ายค่าที่พักและค่าพาหนะในการฝึกอบรม เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 50 และ 1 ธ.ค. 53 โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 66 ว่าผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ซึ่งเป็น ผอ.สพป.เขต 2 มีความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 147, 151, 157, และวินัยร้ายแรง ส่วนรอง ผอ.สพป.เชียงราย เขต 2 ที่ไม่กำกับการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชาให้เป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย ถือเป็นการกระทำผิดวินัยไม่ร้ายแรง ด้านผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ มีมติกันไว้เป็นพยาน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 เป็นเจ้าพนักงานการเงินและบัญชีอาวุโส มีความผิดทางอาญา มาตรา 147, 151, 157, และมีความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 เป็นนักวิชาการการเงินและบัญชีชำนาญการ มีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง และผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 ลูกจ้างชั่วคราว ไม่มีบทบัญญัติทางกฏหมายที่กำหนดโทษทางวินัยไว้

เรื่องที่ 2 เป็นกรณีอดีตนายก อบต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย จัดซื้อรถบรรทุก 6 ล้อเทท้าย ติดตั้งเครนพร้อมกระเช้าไฟฟ้า ซึ่งเป็นโครงการในแผนพัฒนา 3 ปี ของ อบต.รอบเวียง พ.ศ. 2557-2559 งบประมาณ 2,000,000 บาท โดยกำหนดคุณลักษณะเอื้อประโยชน์ให้ผู้เสนอราคารายหนึ่งรายไดโดยเฉพาะ ซึ่งในการเสนอราคาดังกล่าว มีผู้สนใจซื้อใบเสนอราคาจำนวน 5 ราย แต่มีผู้มาเสนอราคาจริงแค่เพียง 2 ราย แต่จากการสอบสวนทราบว่าผู้เสนอราคาทั้ง 2 ราย มีผู้ก่อตั้งเป็นบุคคลเดียวกัน และยังมีผู้ทำบัญชีและผู้ตรวจสอบบัญชีเป็นบุคคลเดียวกันอีกด้วย คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 66 ให้อดีตนายก อบต.รอบเวียง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มีความผิดทางกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157, พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 พรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4, 11, 12 และ พรบ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92 ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2-5 เป็นผู้ประกอบการ มีความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิดทางอาญา และผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 เป็นผู้ซื้อเอกสารและยื่นเอกสารเสนอราคาให้กับผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 และ 4 แต่ได้เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 65 จึงทำให้สิทธิในการดำเนินคดีอาญาระงับ

อย่างไรก็ตาม การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

ร่วมแสดงความคิดเห็น