เชียงใหม่จมฝุ่น ทวงแชมป์เมืองมลพิษโลกอีกครั้ง

เชียงใหม่จมฝุ่นทวงแชมป์เมืองมลพิษโลกอีกครั้ง ลมหอบควันไฟป่าดันค่า PM 2.5 พุ่งชั่วข้ามคืน

ช่วงเที่ยงวันนี้ ( 26 มีนาคม ) คุณภาพอากาศที่จังหวัดเชียงใหม่เข้าขั้นวิกฤต ปริมาณฝุ่น PM 2.5 พุ่งสูงขึ้นในชั่วข้ามคืนจนทำให้กลายเป็นอันดับ 1 เมืองคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของเวปไซต์ iqair ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 193 AQI สหรัฐฯ โดยสอดคล้องกับค่าฝุ่น PM 2.5 ที่อยู่ในเกณฑ์สีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพ เกิน 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรในทุกพื้นที่ สูงสุดที่ ต.เมืองงาย อ.เชียงดาว 349 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

โดยสาเหตุที่ฝุ่นควันจากไฟป่ากลับมาหนาแน่นอีกครั้ง นอกจากไฟป่าที่มาจากไฟป่าที่กลับมาปะทุมากขึ้นนับร้อยจุด อีกส่วนหนึ่งยังมาจากกระแสลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดหอบเอากลุ่มควันจากประเทศเพื่อนบ้านที่พบฮอตสปอตวานนี้กว่า 2,700 จุดเข้ามาสมทบ

ขณะที่บรรยากาศตามท้องถนนในตัวเมืองเชียงใหม่ ตลอดทั้งวันขมุกขมัวไปด้วยฝุ่นควันจนทำให้ดอยสุเทพซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดปริมาณฝุ่นของคนเชียงใหม่หายไปจากสายตาอีกครั้ง

สำหรับกลุ่มเสี่ยงดมฝุ่นจนเลือดกำเดาไหลคือประชาชนทุกกลุ่ม แต่กลุ่มเปราะบางเป็นพิเศษคือเด็กอายุน้อยกว่า 4 ขวบ สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยกลุ่มโรคประจำตัวด้านทางเดินหายใจ หอบหืด ภูมิแพ้ ที่อาจกระตุ้นอาการกำเริบ และ บางคนที่ใช้ยาการป้องกันการแข็งตัวของเลือด รวมทั้ง ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวและและใช้ยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดที่จะทำให้เลือดออกง่ายขึ้น

รศ.พญ.กรรณิการ์ รุ่งโรจน์วัฒนศิริ หัวหน้าภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แนะนำประชาชนควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมนอกบ้านในช่วงฝุ่นควันเกินค่ามาตรฐานและใช้เครื่องฟอกอากาศในที่พักอาศัย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางเป็นพิเศษ คือ เด็กอายุน้อยกว่า 4 ขวบ สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยกลุ่มโรคประจำตัวด้านทางเดินหายใจ และ ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เพราะเสี่ยงทำให้เลือดกำเดาไหลและมีผลกระทบต่อสุขภาพอีกหลายด้าน

ร่วมแสดงความคิดเห็น