เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 67 ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.เจษฎา จุโฑปะมา ผกก.สภ.เทิง จ.เชียงราย พ.ต.ท.จินดา มณีเนตร รอง ผกก.ป. ได้รับแจ้งเหตุชายคลั่งบุกทำลายทรัพย์สินเพื่อนบ้าน และปีนหลังคาบ้านตัวเอง พื้นที่บ้านตุ้มรวงทอง ม.24 ต.งิ้ว อ.เทิง จ.เชียงราย จึงสั่งการให้ ร.ต.ท.สมคิด คำเหลือง รอง สว.ป. หัวหน้าป้อมตำรวจ ต.งิ้ว พร้อมลูกชุด จำนวน 3 นาย ไปสมทบกับผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่เพื่อระงับเหตุ
เมื่อไปถึงพบว่าบ้านที่เกิดเหตุเป็นกระท่อมกลางนา ไม่มีบ้านเลขที่ อยู่ปลายหมู่บ้าน พบผู้ก่อเหตุซึ่งทราบชื่อภายหลังคือนายสายัณห์ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ชาวบ้าน ม.24 ต.งิ้ว อ.เทิง สวมกางเกงขายาวสีดำ ไม่สวมเสื้อ นั่งอยู่บนหลังคาบ้านของตัวเอง โดยผู้นำหมู่บ้านแจ้งว่าผู้ก่อเหตุถือมีดพร้าและท่อเหล็กเดินไปมา และขึ้นลงหลังคาหลายรอบก่อนเจ้าหน้าที่ไปถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รออยู่ข้างล่างสักพัก ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะปีนหลังคาลงมา จึงเข้าไปแสดงตัวและควบคุมตัวไปโรงพัก โดยผู้นำและญาติเล่าว่าผู้ก่อเหตุมีอาการเมาคลุ้มคลั่ง และก่อเหตุบ่อยครั้ง ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานส่งตัวไปรักษาที่ รพ.สวนปรุง จ.เชียงใหม่ แล้ว
สอบถามนายผัด ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า ผู้ก่อเหตุเคยเมาอาละวาดบ่อยครั้ง จนญาติพี่น้องต่างเอือมระอากันหมด โดยก่อนจะก่อเหตุปีนหลังคาบ้านตัวเอง ได้ไปก่อเหตุทุบผนังบ้านเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ใกล้กัน เมื่อช่วงคืนวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยบอกว่าต้องการจะไปทำร้ายเจ้าของบ้าน หมายเอาชีวิต จนเพื่อนบ้านต้องย้ายกลับไปนอนในหมู่บ้านเพราะหวั่นไม่ปลอดภัย และในคืนวันที่ 17 เม.ย. ก็ไปบุกทุบประตูบ้านเพื่อนบ้านคนเดิมจนพัง โชคดีที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ล่าสุดเช้านี้ก็ปีนขึ้นลงหลังคาบ้านตัวเอง 2-3 รอบ และจากการพาตัวไปตรวจหาสารเสพติดพบว่ามีสารเสพติดในร่างกายจริง
ด้านนายจำเริญ อายุ 67 ปี ชาวบ้าน ม.24 ต.งิ้ว เจ้าของบ้านที่โดนบุกหมายทำร้ายหวังชีวิต กล่าวว่า บ้านที่โดนทุบทำลายเป็นกระท่อมกลางนา ที่ตนมักจะชอบมานอนพักผ่อน เล่นกีตาร์ร้องเพลงตอนกลางคืน เพราะห่างผู้คน เงียบสงบ ตนและผู้ก่อเหตุถือเป็นญาติพี่น้องกัน ไม่เคยมีความขัดแย้งกันมาก่อน ก่อนหน้านี้ช่วงคืนวันที่ 16 เม.ย. เวลาประมาณเกือบ 2 ทุ่ม คนก่อเหตุได้มาเรียกหาตน ที่พักผ่อนอยู่ในห้องว่าอยู่หรือเปล่า โดยเขาบอกว่าเดี๋ยวจะเอาค้อนปอนด์ทุบผนัง และจะลากออกมาฆ่าที่ข้างนอกบ้าน ตนก็ค่อนข้างตกใจ เพราะอยู่ตัวคนเดียว หากเป็นคนอื่นที่เป็นโรคหัวใจ อาจจะมีอาการช็อคไปแล้วก็ได้ แต่เขาทุบสักพักคงหมดแรงและกลับบ้านไป เว้นช่วงประมาณ 2 ชั่วโมงเขาก็กลับมาอีก โดยเอาไฟฉายสปอร์ตไลท์มาส่องเข้าไปในห้อง และเดินวนเวียนไปมาซักพัก ก่อนจะล่าถอยกลับไป วันต่อมาตนจึงไปนอนที่บ้านหลักซึ่งอยู่ในหมู่บ้าน เพราะกลัวไม่ปลอดภัย
นายจำเริญ เล่าต่อว่า ตอนเช้าวันนี้ (18 เม.ย.) ตนกลับไปดูที่กระท่อมกลางนาก็พบว่าประตูห้องโดนทุบทำลาย จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านมาดู ก่อนจะไปพบว่าปีนหลังคาบ้านตัวเองอยู่ และก็ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ควบคุมตัวคนก่อเหตุไปรักษา คาดอาจจะเมาเหล้าเมายาจึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ตนไม่อยากจะเอาเรื่องเอาราว เพราะถือว่าเป็นญาติพี่น้องกัน แต่ก็จะขอเก็บข้าวของในกระท่อมย้ายไปอยู่ในบ้าน เพราะกลัวไม่ปลอดภัย กลัวคนก่อเหตุจะพาพรรคพวกย้อนกลับมาทำร้าย
ร่วมแสดงความคิดเห็น