93

พช.เชียงใหม่ เปิดแผนปี 67 ดัน OTOP และซอฟต์พาวเวอร์

วันที่ 17 พฤศจิกายน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ขึ้น ณ โรงแรมกรีนเลค รีสอร์ท อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ . ซึ่งจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ที่กำลังเริ่มฟื้นตัวจากโควิด-19 เปิดรับนักท่องเที่ยวหลังจากที่สนามบินเชียงใหม่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง และเตรียมรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้งในปีหน้า จากภาวะเอลนินโญ ขณะที่สถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต ทั้งสงครามและความขัดแย้งในอิสราเอล และยูเครน การขยายตัวของสื่อสังคมออนไลน์  . ทำให้กระทรวงมหาดไทย โดยนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด ยึดหลักการทำงาน 3 หลัก ทันโลก ทันสมัย และทันท่วงที เพื่อให้ปรับตัวได้ทัน เข้าใจบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป และตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะสามารถรับมือกับสถานการณ์และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยืนแห่งสหประชาชาติ ทั้งมิติด้านสังคม มิติด้านเศรษฐกิจ มิติด้านสิ่งแวดล้อม และสุดท้ายมิติด้านสันติภาพและความร่วมมือ เป็นต้น . ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ ได้มีแนวทางในการขับเคลื่อนภายใต้คำขวัญ “ พช.เชียงใหม่ 5 ดี […]

ทีมนักหวดลูกหวาย มทร.ล้านนา ผ่านเข้าเป็นตัวแทนภาคเหนือ

ทีมนักหวดลูกหวาย มทร.ล้านนา ผ่านเข้าเป็นตัวแทนภาคเหนือ ร่วมชิงเหรียญในมหกรรมกีฬาปัญญาชน ครั้งที่ 49 “นนทรีเกมส์ 2567”ทีมนักตะกร้อชาย มทร.ล้านนา ลงทำการแข่งขันเพื่อคัดเลือกเป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยในกลุ่มภาคเหนือ ซึ่งทำการคัดเลือกภายในสนามกีฬา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ผลการแข่งขันปรากฏว่านักตะกร้อ มทร. ล้านนา สามารถคว้าสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัย ได้ทั้งประเภททีมเดี่ยว ทีมชุด และทีมคู่ โดยนักกีฬาชุดนี้เป็นการรวมนักหวดลูกหวายตัวตึงจาก มทร.ล้านนา เชียงราย, ตาก, และพิษณุโลก ภายใต้การนำทีมของ ผศ.พิบูลย์ เครือคำอ้าย, นายสรายุทธ บุญช่วย, อ.ลภัส จารุวรรณรัตน์ และนายธวัช จันต๊ะวงษ์ คว้าสิทธิ์เข้าร่วมมหกรรมกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 49 “นนทรีเกมส์ 2567” ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ระหว่างวันที่ 27 มกราคม – 5 กุมภาพันธ์ 2567

พระธรรมเสนาบดี สนับสนุนการเสนอชื่อครูบาเจ้าศรีวิชัย ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก

พระธรรมเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ จ.เชียงใหม่ สนับสนุนการเสนอชื่อครูบาเจ้าศรีวิชัย ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ผ่านทางมูลนิธิ อ.วารินทร์ ฯ มูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนา และคณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน ในพื้นที่ภาคเหนือ (ตอนบน) เมื่อค่ำวานนี้ ( 12 พฤศจิกายน 2566 ) ดร.ปรีชา บัววิรัตน์เลิศ สมาชิกวุฒิสภา นำพระ Narandawamsa หรือ พระหน่อคำ วัดสุวรรณาราม พร้อมบุคลากรจากมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นคณะถ่ายทำการบูชาพระรัตนตรัยตามวิถีพุทธ และพระคาถาบารมี 30 ทัศ เข้ากราบนมัสการพระธรรมเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรมหาวิหาร เพื่อจัดทำคลิปการบูชาพระรัตนตรัยตามวิถีพุทธภาษาไทย เตรียมมอบให้คณะธรรมทูตในวันที่ 16 ธันวาคม 2566 ที่ข่วงพระเจ้าล้านนา ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิ อ.วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ มูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนา และคณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน ในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ (ตอนบน) ในการนำชุดเผยแพร่ ประกาศเกียรติคุณครูบาเจ้าศรีวิชัย ไปมอบให้กับวัดในประเทศต่าง ๆ ตามขั้นตอนของการเสนอขอตามเงื่อนไข […]

เปิดฉากแล้ว MONEY EXPO 2023 เพราะอะไรต้องมางานนี้ ?

งาน Money Expo ถือเป็นมหกรรมการเงินการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งจัดต่อเนื่องมาอย่างยาวนานกว่า 23 ปีในพื้นที่ 6 ภูมิภาคของประเทศ โดยงานดังกล่าวเสมือนเป็นสื่อกลางที่เชื่อมโยงระหว่างธนาคารและสถานบันการเงินต่างๆ กับประชาชน นักลงทุน และผู้ประกอบการธุรกิจ จนถึงปัจจุบัน มหกรรม Money Expo สร้างยอดธุรกรรมทางการเงินมากกว่า 2,207 ล้านล้านบาท มีผู้เข้าเยี่ยมชมงานสูงถึง 18,000 ล้านครั้ง และมีสถาบันการเงิน ธนาคาร และบริษัทประกันชั้นนำเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ในวันที่ 10 – 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 งาน Money Expo ได้มาจัดที่จังหวัดเชียงใหม่อีกครั้ง ณ เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ภายใต้แนวคิด “Green Finance for Green Living” การเงินสีเขียว เพื่อชีวิตสีเขียว ซึ่งนอกจากจะมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำ ยังได้มีการจัดงานสัมนาให้ความรู้แก่ประชาชนอีกด้ว ซึ่งช่วงเช้าวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา […]

เชียงใหม่ยกระดับเทศกาลยี่เป็ง ชูอัตลักษณ์ประเพณีล้านนา นำร่องล้านนาซอฟต์พาวเวอร์

เชียงใหม่ยกระดับเทศกาลยี่เป็ง ชูอัตลักษณ์ประเพณีล้านนา นำร่องล้านนาซอฟต์พาวเวอร์ ขับเคลื่อนเมืองทุกมิติด้วยงานเทศกาล จังหวัดเชียงใหม่ประเดิมใช้งานยี่เป็ง วันเพ็ญเดือนสิบสอง สร้างโอกาสการใช้งานเทศกาลเป็นเครื่องมือในการพัฒนาท้องถิ่น และกำหนด “ยุทธศาสตร์ 12 เดือน 12 เทศกาล” เพื่อใช้การจัดงานเทศกาลเป็นกลไกการพัฒนาการท่องเที่ยวและพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของจังหวัด ในปี 2566 นี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สมาคมการค้าวิศิษฏ์ล้านนาเพื่ออุตสาหกรรมไมซ์และการท่องเที่ยว บริษัท NIANTIC, INC สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมสร้างประสบการณ์ใหม่ในการเที่ยวงานยี่เป็ง เพื่อสร้างความแตกต่างให้นักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลลอยกระทงของไทย โดยชูจุดขายการย้อนวัฒนธรรมยี่เป็งแห่งล้านนา เล่าเรื่องผ่านกิจกรรมวิถีถิ่นเช่น การจุดผางประทีป ล่องสะเปา จัดทำเส้นทางเดินชมเมืองเชียงใหม่ยามค่ำคืน ตอกย้ำความเป็น เมืองแห่งเทศกาลและอีเวนต์โลก จากสมาคมเทศกาลนานาชาติ (International Festival and Event Association,IFEA) และประกาศความพร้อมตอบนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย สร้างรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง เมื่อเร็วๆ นี้ จัดการแถลงข่าว “งานแสงยี่เป็ง แสงล้านนา” โดยได้รับกียรติจาก นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด […]

ราคาทองคำและเงินบาท ประจำวันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2566

ราคาทองคำสปอตในช่วงต้นสัปดาห์ถึงกลางสัปดาห์ปรับตัวลงต่อเนื่องติดต่อกัน 3 วัน หลังจากที่ราคาทองคำทะลุแนวต้าน 2,000 ดอลลาร์ แล้วก็ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 2,009 ดอลลาร์ ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำในช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลง หลักๆ ก็มาจากแรงเทขายทำกำไรแต่ว่าหลังการประชุมเฟดราคาทองคำก็ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ในช่วงของการประชุมเฟดราคาทองคำก็ปรับตัวลงแตะ 1970 ดอลลาร์ แต่ในที่สุดสุดก็มีแรงซื้อกลับเข้ามา ผลการประชุมเฟดเป็นไปตามตลาดคาดการณ์ไว้ เฟดยังตรึงดอกเบี้ยไว้ที่เดิม 5 ถึง 5.25% เป็นการตรึงดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ประเด็นที่ทำให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นมาจากการที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดน่าจะยุติวงจรดอกเบี้ย ขาขึ้นแล้ว ถึงแม้ว่าแถลงการณ์หลังการประชุมเฟดก็บอกว่าอาจจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยต่อไป เพราะดูแล้วเศรษฐกิจก็ยังขยายตัวในอัตราที่แข็งแกร่งอยู่ในไตรมาส 3  เจอร์โรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่ายังไม่ได้ฟันธงว่าเฟดยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นก็ตาม ในการประชุม เดือน ธันวาคม เฟดก็ยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยแล้วก็ไม่มั่นใจว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงระดับเนี่ยจะทำให้กดเงินเฟ้อให้ต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ได้รึเปล่า  แต่ว่าเงินดอลลาร์สังเกตอ่อนค่าลงอย่างมาก บอนด์ยีล (Bond Yield ) อเมริกาอายุ 10 ปี ปรับตัวลงจากต้นสัปดาห์ 4.9% วันศุกร์เหลืออยู่แค่ 4.5 % สะท้อนให้เห็นว่าตลาดไม่ได้กังวลว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อแล้วประเมินว่าปีหน้าเฟดน่าจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย  ส่วนวันศุกร์ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องหลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรหรือว่า นอนฟาร์มเพโล (Nonfarm Payrolls) เดือนตุลาคมเพิ่มขึ้นเพียง 150,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าคาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้น 178,000 ตำแหน่ง แต่ว่าอัตราการว่างงาน เดือน ตุลาคม ยังเพิ่มขึ้น 3.9% มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ 3.8 %  เมื่อวันศุกร์มีประเด็นที่น่าตื่นเต้นอีกประเด็นที่นักลงทุนรอดู ก็คือการประกาศของผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ แต่ปรากฏว่าก็ไม่ได้ประกาศสงครามที่จะทำกับอิสราเอลอย่างที่ตลาดกังวลแต่อย่างใด แต่ว่าก็มีการพูดถึงว่าสงครามอาจจะขยายวงกว้างออกไปในตะวันออกกลางก็ได้ชึ่งเป็นการเตือนอิสราเอล  ส่วนกองทุน SPDR สัปดาห์ที่แล้วเข้ามาซื้อทองคำ 1.44 ตัน วันศุกร์ราคาทองคำสปอตปิดตลาด 1,992 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6 ดอลลาร์ แต่ทั้งสัปดาห์ ลดลง 13 ดอลลาร์ ประเด็นที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้สงครามอิสราเอลฮามาสติดตามต่อไป จะมีประเด็นข่าวอะไรเพิ่มเติมหรือว่ามีข่าวรุนแรงหรือไม่ถ้าเกิดไม่ได้มีข่าวอะไรเพิ่มเติมหรือว่ารุนแรงเพิ่มขึ้น ทองคำก็อาจจะไม่ได้สนใจประเด็นเรื่องสงครามมากแล้ว แต่ว่าจริงๆ ประเด็นข่าวสงครามเข้าใจว่าน่าจะยังมีประเด็นข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องให้นักลงทุนติดตาม  ทางด้านสหรัฐฯตอนนี้ดูเหมือนกับจะพยายามปรามอิสราเอลเหมือนกันว่าให้หยุดการโจมตี กลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาชั่วคราว แต่ว่าอิสราเอลก็ยังเดินหน้าที่จะโจมตีฉนวนกาซาต่อไป  ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าติดตามสัปดาห์นี้น่าจะเป็นเรื่องเงินเฟ้อของจีน ฝั่งของสหรัฐไม่ค่อยมีประเด็นอะไรที่น่าติดตามเท่าไหร่  สำหรับแนวโน้มราคาทองคำ ถ้าดูทางเทคนิคประกอบกับทางด้านพื้นฐาน คาดว่าจะเคลื่อนไหวไซด์เวย์เคลื่อนไหวในกรอบ 1,980 ดอลลาร์ ถึง 2,000 ดอลลาร์ ระยะสั้นให้แนวรับ 1,980 ดอลลาร์ และ 1,970 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้าน 2,000 ดอลลาร์ และ 2,005 ดอลลาร์ สำหรับราคาทองแท่งของสมาคม วันเสาร์ขายออก 33,550 บาทลดลง 300 […]

ลอยกระทง เทศกาลต้นฤดูท่องเที่ยวและความหวังทางเศรฐกิจของเชียงใหม่

เทศกาลลอยกระทง จังหวัดเชียงใหม่จะช่วยกระตุ้นภาวการณ์ท่องเที่ยวช่วงต้นฤดูท่องเที่ยวให้คึกคักได้ แต่ว่าจะคึกคักมากขนาดไหน กับการกระตุ้นเศรฐกิจในระดับภูมิภาค ของจังหวัดเชียงใหม่ ที่จะเริ่มในเดือน พฤศจิกายนนี้ และถือว่าเป็นช่วงต้นฤดูท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวเริ่มหลั่งไหลมาเยือนเพื่อสัมผัสลมหนาวตามแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและถือโอกาสชมงานประเพณีเดือนยี่เป็งของชาวล้านนา ธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่และสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวคาดหวังว่าเทศกาลยี่เป็ง หรือลอยกระทง จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของเชียงใหม่คึกคักหลังอยู่ในภาวะซบเซามานาน   บวกกับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว การสนับสนุนจากภารัฐ และชุมชนท้องถิ่น ที่มีช่างฟ้อนจำนวนหลายร้อยคนในจังหวัดเชียงใหม่พร้อมใจกันเดินทางไปร่วมฟ้อนใหญ่ เป็นฟ้อนเทียนหรือว่าฟ้อนบูชาเมืองเพื่อเตรียมความพร้อมแสดงในงานยี่เป็งเชียงใหม่ปี 2566 การฟ้อนเทียนที่หรือฟ้อนบูชาเมือง ที่มีความอ่อนช้อย สวยงาม ของช่างฟ้อนหลายร้อยคนก็มีอายุตั้งแต่ 5 ปี ไปจนถึง 80 ปี มีการนัดกันไปฝึกซ้อมบริเวณลานอนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์ กลางเมืองเชียงใหม่ ทุกคนต่างพร้อมใจกันสวมชุดพื้นเมืองสวยงาม ตั้งแถวเป็นแนวยาวบนลานอนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจทำให้เกิดความสวยงามและพร้อมเพรียงกันได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางไปเที่ยวบริเวณดังกล่าวจำนวนมาก ฟ้อนบูชาเมือง ที่มีความอ่อนช้อย สวยงาม กิจกรรมนี้เป็นการเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนเข้าร่วมสืบทอดประเพณีที่ดีงาม ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ มีการส่งเสริมทางด้านวัฒนธรรม เวลาไปเข้าวัดตามเทศกาลต่างๆ ในเขตเชียงใหม่ก็จะเห็นการฟ้อนโดยเฉพาะในช่วงงานเทศกาลต่างๆ เป็นการแสดงออกในเชิงสร้างสรรค์ ด้านผู้ประสานงานเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ บอกว่าการฟ้อนเทียนหรือว่าฟ้อนบูชาเมืองถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการดำเนินกิจกรรม ต๋ามประทีปส่องฟ้าฮักษาเมือง ที่จัดเป็นประจำทุกปีในช่วงเริ่มต้นเทศกาลที่เป็นหรือว่าลอยกระทง ซึ่งเป็นประเพณีของชาวล้านนาที่สืบทอดต่อๆกันมาหลายชั่วอายุคน เครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่และหลายภาคส่วนจึงร่วมกันจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีล้านนาที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน มันคือการสืบทอดสืบทอดศิลปวัฒนธรรม การส่งต่อทางวัฒธรรมจากรุ่นสู่รุ่น สังเกตว่าการจัดกิจกรรมนี้จะมีผู้เข้าร่วมงานตั้งแต่ 5 ขวบ ไปจนถึง 80 ปี ซึ่งไม่สามารถหาความหลากหลายทางอายุได้จากกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งแตกต่างจากกิจกรรมครั้งนี้ บางกิจกรรมจะตัดขาดออกจากกัน แต่กิจกรรมนี้จะมีตั้งแต่รุ่นหลานไปจนถึงรุ่นใหญ่ที่เป็นคุณยาย ก็ถือว่าเป็นความร่วมมือร่วมใจกันเพื่อที่จะสืบทอดวัฒนธรรมแห่งรากเง้า รู้ถึงวัฒนธรรม การแสดงพื้นบ้าน การฟ้องพื้นเมืองที่มีเอกลักษณ์เป็นของของตัวเอง  โดยการซ้อมฟ้อนครั้งนี้ ถือเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างช้านาน เมื่อถึงเดือนยี่เหนือหรือเดือน 12 ภาคกลางชาวล้านนาจะประกอบพิธีกรรมบูชาพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวันขึ้น 15 ค่ำ หรือคืนเดือนเพ็ญหรือเดือนเป็ง จึงเรียกประเพณีบูชาในเดือนยี่ว่ายี่เป็ง ยี่เป็งคือประเพณีสำคัญของชาวล้านนา จัดขึ้นระหว่างวันขึ้น 13 ค่ำถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนยี่เหนือ ประกอบด้วยประเพณีชักครมและลอยโคมหรือลอยขโมยหรือลอยกระทง เดิมชื่อว่าเป็นการบูชาพระนารายณ์ซึ่งบรรทมในเกษียณสมุทร บ้างชื่อว่าบูชาพระอุปคุต พระอรหันต์ผู้มีฤทธิ์ ซึ่งบำเพ็ญเพียรใต้สะดือทะเลลึก ในวันขึ้น 13 ค่ำ หรือวันดา ชาวบ้านจะช่วยกันเตรียมสิ่งของสำหรับทำบุญ จัดทำประตูปลาไว้ตามบ้านหรือคุมวัด […]

ราคาทองคำและเงินบาท ประจำวันวันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2566

ราคาทองคำสปอตเริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ลดลงติดต่อกันมา 3 วัน ปิดตลาดเมื่อคืน 1,985 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3 ดอลลาร์ ปัจจัยหนุนมาจากการที่ เฟด ประกาศจะยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นแล้วหลังจากที่เริ่มวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นตั้งแต่ เดือน มีนาคม ปีที่แล้ว  เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงมาก Bond Yield สหรัฐอเมริกาปรับตัวลงแรงอายุ 10 ปี จาก 4.9% เหลือ 4.7% สะท้อนให้เห็นว่าตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น แล้วก็ปีหน้าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย  ส่วนจำนวนผู้ของการว่างงานของสหรัฐประกาศออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ตัวเลขจริงเพิ่มขึ้น 5,000 ราย เป็น 217,000 รายมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะออกมา 210,000 ราย ก็ช่วยหนุนราคาทองคำได้ ส่วนประเด็นอื่นๆ ที่นักลงทุนจะต้องติดตามในวันนี้คิดว่าสำคัญทีเดียว ก็คือผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เป็นกลุ่มหัวรุนแรงในเลบานอนบอกว่าจะประกาศท่าทีต่อสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในวันนี้ คือก่อนหน้านี้ก็มีการปะทะกันระหว่างกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนกับอิสราเอลตามขอบชายแดน ซึ่งตอนนี้ก็คงจะต้องติดตามว่าสงครามจะยืดเย้อแล้วก็อาจจะรุนแรงมากขึ้นหรือไม่ ส่วนกองทุน SPDR เมื่อวานยังนิ่ง ๆ ถือครองทองคำเท่าเดิม ประเด็นที่ติดตามวันนี้ คือต้องติดตามการแถลงถึงท่าทีของผู้นำฮิซบอลเลาะห์ที่อยู่ในเลบานอนต่อสงครามอิสราเอลและฮามาส  ส่วนตัวเลขการจ้างงาน นอกภาคเกษตรหรือว่านอนฟราม์เพโลของสหรัฐฯ สำคัญมาก เดือน ตุลาคม ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 178,000 ตำแหน่ง หลังจากที่ เดือน กันยายน เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งมากและก็มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ของ เดือน กันยายน เพิ่มขึ้นถึง 336,000 ราย  ส่วนตัวเลขอื่นๆ อัตราการว่างงาน ตลาดคาดการณ์ว่า เดือน ตุลาคมน่าจะทรงตัวที่ 38%  อีกตัวที่มองว่าสำคัญก็คือดัชนี PMI ภาคการบริการ เดือน ตุลาคม ของ ไอเอสเอ็ม(ISM) ตลาดประเมินว่าอาจจะออกมาไม่ดีลดลงเหลือ 53.0 หลักๆ มาจากการจ้างงานน่าจะสำคัญที่สุด  แนวโน้มราคาทองคำสปอตอาจจะทรงตัวในระดับที่สูงเนื่องจากสงครามที่มองว่าอาจจะยืดเยื้อแต่ว่าในช่วงกลางคืนราคาทองคำอาจจะผันผวนตามตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่จะประกาศ ให้ระวังแรงเทขายถ้าเกิดตัวเลขออกมาดีเกินคาด  เพราะว่าที่ผ่านมาตัวเลขส่วนใหญ่ออกมาดีเกินคาดตั้งแต่ เมษายน ปีที่แล้ว แล้วมีแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้แค่ 2 เดือนเท่านั้นก็คือ เดือน มิถุนายนและ เดือน กรกฎาคม แต่ถ้าเกิดออกมาแย่เกินคาดก็คงช่วยหนุนราคาทองคำได้ เพียงแต่ตัวเลขจะออกมาแตกต่างจากที่ตลาดคาดการณ์ไว้ มากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง ถ้าเกิดออกมาใกล้ๆ ก็อาจจะไม่ค่อยมีผลมาก ทองคำระยะสั้นให้ แนวรับ 1,980 ดอลลาร์ และ 1,970 ดอลลาร์ จะรับอยู่ในช่วงนี้ ส่วนของแนวต้าน 1,990 ดอลลาร์ และ 2,000  ดอลลาร์ สำหรับราคาทองแท่งของสมาคมเมื่อวานปรับเปลี่ยน 5 ครั้ง ขายออกช่วงเย็น 33,850 บาท ลดลง 150 บาท ทองแท่งให้ […]

ราคาทองคำและเงินบาท ประจำวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566

ราคาทองคำความสปอร์ตปิดตลาดปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ปิดตลาดที่ 1,982 ดอลลาร์ ลดลงเล็กน้อย 1.65 ดอลลาร์ ในช่วงกลางวันราคาทองคำปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง แต่ว่ากลางคืนมีแรงซื้อกลับเข้ามาขึ้นไปแตะที่ 1,991 ดอลลาร์ หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเอดีพี(ADP) เดือน ตุลาคม เพิ่มขึ้น 113,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้น 149,000 ตำแหน่ง รวมทั้งตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิต เดือน ตุลาคม ของ ไอเอสเอ็ม(ISM) ออกมาอย่างน่าผิดหวังลดลงเหลือ 10.7 ในขณะที่ตลาดประเมินไว้ว่าจะออกมาทรงตัวที่ 49 และในที่สุดราคาทองคำก็มีแรงเทขายออกมา การประชุมเฟด มีมติตรึงดอกเบี้ยไว้ที่เดิมคือ 5.25 ถึง 5.5% เป็นการตรึงดอกเบี้ยไว้ที่เดิมติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 และแถลงการณ์ของเฟดอาจจะทำให้นักลงทุนตกใจบ้างเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่ก็มีแรงเทขายออกมาในช่วงประมาณ ตี 1 หลังจากที่มีแถลงการณ์ของเฟด ซึ่งบอกว่าเฟดจำเป็นที่จะต้องขึ้นดอกเบี้ยต่อไปอีกถ้าเกิดจำเป็น เพราะว่าดูตัวเลขเศรษฐกิจแล้วก็ยังมีความแข็งแกร่งอยู่แต่ก็ยอมรับมาว่า อัตราดอกเบี้ยในระดับที่สูงก็กระทบกับภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน ส่วนประธานเฟดก็ออกมาให้ความเห็นที่ต้องบอกว่าเป็นสายเหยี่ยวลดน้อยลง และได้บอกว่าเฟดก็จะใช้ความระมัดระวังในการดำเนินนโยบายการเงิน ความหมายก็คือ ถ้ามีการขึ้นดอกเบี้ยต่อไปก็คือมีการพิจารณาอย่างถ้วนถี่แล้วและก็เป็นไปได้เหมือนกันว่าจะยุติการขึ้นดอกเบี้ยถึงแม้ว่าจะไม่ได้ไม่ฟันธงออกมา ส่วนกองทุน SPDR กลับเข้ามาชื้อทองคำเล็กน้อย 2.02 ตัน คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยตัวจำนวนผู้ขอการว่างงาน ตลาดคาดว่าจะทรงตัวอยู่ที่ 210,000 ราย ก็ติดตามกันต่อไปว่าตัวเลขจะเป็นอย่างไร ที่น่าสนใจก็คงจะเป็นตัวเลขวันศุกร์ คือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร  สำหรับแนวโน้มราคาทองคำคาดว่าน่าจะเคลื่อนไหวไซด์เวย์อัพภายหลังจากที่ลงมาติดต่อกัน 3 วันนักลงทุนอาจจะสบายใจมากขึ้นว่าเฟดจะยุติดอกเบี้ยขาขึ้นแล้ว มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,990 ดอลลาร์ คิดว่ายังไม่สามารถขึ้นไปถึง 2,000 ดอลลาร์ แนวรับ 1,980 ดอลลาร์ และ 1,970 ดอลลาร์ สำหรับราคาทองแท่งของสมาคมปรับเปลี่ยน 5 ครั้ง ขายออกช่วงเย็น 34,000 บาทถ้วนไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนนิ่งอยู่ตรงนี้ติดต่อกันมา 3 วันแล้ว แนวรับ 33,850 บาท และ 33,750 บาท แนวต้าน 33,950 บาท และ 34,050 บาท คำแนะนำการลงทุนมีอยู่อาจจะทยอยขายทำกำไรออกไปถ้าเห็นใกล้ๆ 1,990 ดอลลาร์ บางส่วนถือต่อไปเห็นเข้าใกล้ 2,000 ดอลลาร์ ก็ขายออกมาบางส่วนอีกครั้ง เข้าชื้อรอบใหม่ยังไม่แนะนำ ส่วนการลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์ อาจจะเปิดฟังขายได้ที่ 1,990 ดอลลาร์ คันลอส 2,000 ดอลลาร์ โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์เปิดฝั่งช็อตที่ 2,010 ดอลลาร์ คันลอส 2,020 ดอลลาร์ เน้นว่าเป็นการเกงกำไรระยะสั้น ถ้าเปลี่ยนทิศทางก็อาจจะต้องคันลอสออกไป  อยากเกรงกำไรฝั่งชื้ออาจจะดูประมาณ 1,975 ดอลลาร์ คันลอส 1,963 ดอลลาร์ สำหรับโกลด์ฟิวเจอร์ดูทองสปอตเป็นหลัก ส่วนเงินบาทเมื่อวานจะเห็นว่ามีความผันผวน แต่ในที่สุดก็ปิดตลาดทรงตัวที่ 36 บาท 11 […]

เศรษฐกิจภาคเหนือ ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ (ธปท. สภน.) โดยคุณพรวิภา ตั้งเจริญมั่นคง ผู้อำนวยการอาวุโส แถลงข่าว “ภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ไตรมาส 3/2566”  สรุปภาพรวมภาวะเศรษฐกิจภาคเหนือไตรมาส 3/2566 ปรับดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน จากการท่องเที่ยว การผลิต และ รายได้เกษตรที่ขยายตัว ตลาดแรงงานปรับดีขึ้น เป็นแรงสนับสนุนการบริโภค อย่างไรก็ตาม การลงทุนภาคเอกชนหดตัว รายละเอียดดังนี้ รายได้เกษตรกรขยายตัวชะลอลง จากผลผลิตที่หดตัว ตามการลดลงของข้าวนาปี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากปริมาณน้ำฝนต่ำกว่าปีก่อน รวมทั้งผลผลิตลำไยลดลงจากสภาพอากาศผันผวนส่วนด้านราคาขยายตัวดีต่อเนื่อง ตามราคาข้าวที่มีอุปสงค์ต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ และราคาลำไยสูงขึ้นตามผลผลิตที่ลดลง ด้านผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่อง จากหมวดอาหารแปรรูป ประกอบกับหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวจากการเร่งผลิตรองรับโทรศัพท์รุ่นใหม่ และชิ้นส่วนสำหรับยานยนต์ที่ขยายตัวต่อเนื่อง ด้านหมวดเครื่องดื่มลดลงในกลุ่มสุราขาว น้ำดื่ม และโซดา ส่วนหมวดสินค้าฟุ่มเฟือยหดตัวต่อเนื่อง ทั้งเครื่องนุ่งห่ม เครื่องประดับ และ เฟอร์นิเจอร์ ตามอุปสงค์คู่ค้าที่ยังอ่อนแอ  การท่องเที่ยวปรับดีขึ้น จากนักท่องเที่ยวชาวไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว ประกอบกับชาวต่างชาติทยอยฟื้นตัวแม้ต่ำกว่าคาด ตลาดแรงงานปรับดีขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนจากจำนวนผู้ประกันตนตามมาตรา 33 เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับผู้ขอรับสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานตามมาตรา 38 ที่ลดลง เป็นปัจจัยสนับสนุน การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้เล็กน้อย สะท้อนจากการใช้จ่ายในหมวดบริการและสินค้าอุปโภคบริโภคที่ปรับดีขึ้น อย่างไรก็ตาม หมวดสินค้ากึ่งคงทนลดลงหลังเร่งไปในช่วงก่อน และหมวดยานพาหนะลดลงจากรถกระบะและรถจักรยานยนต์หดตัว ส่วนรถยนต์นั่งยังขยายตัวได้  ด้านการลงทุนภาคเอกชนหดตัว ตามการนำเข้าสินค้าทุนที่ลดลง ประกอบกับรถยนต์เชิงพาณิชย์หดตัวต่อเนื่อง ส่วนการลงทุนก่อสร้างลดลงจากยอดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง อย่างไรก็ดี พื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างหดตัวน้อยลง โดยปรับดีขึ้นบ้างในประเภทพื้นที่อยู่อาศัยและเพื่อการพาณิชย์  การใช้จ่ายภาครัฐกลับมาขยายตัวเล็กน้อย จากการเบิกจ่ายของรายจ่ายประจำที่เพิ่มขึ้น  อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงไตรมาสก่อน จากหมวดอาหารสด และเงินเฟ้อพื้นฐานปรับลดลง แนวโน้มเศรษฐกิจภาคเหนือไตรมาส 4/2566 คาดว่าอยู่ในทิศทางฟื้นตัวต่อเนื่อง จากการเข้าสู่ช่วงฤดูท่องเที่ยวของภาคเหนือ ทำให้แนวโน้มนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้น ประกอบกับผลผลิตอุตสาหกรรมมีทิศทางขยายตัวตามความต้องการของประเทศคู่ค้า ส่งผลให้ตลาดแรงงานปรับดีขึ้น อย่างไรก็ตาม รายได้เกษตรกรคาดว่าชะลอลงตามผลผลิตที่ลดลง […]

พบแล้ว!​ จารึกประตูท่าแพ​ ที่แท้ยังคงซ่อนอยู่ภายในโครงสร้าง​ประตูท่าแพปัจจุบัน

ตามที่สังคมให้ความสนใจตามหา​ “จารึก​ประตูท่าแพ” หรือ​ “จารึกเสาอินทขีลประตูท่าแพ” เมืองเชียงใหม่​ และได้มีกลุ่มนักวิชาการ​บางส่วน​ให้ข้อมูล​ว่า​ จารึกดังกล่าวเก็บรักษา​ไว้ที่พิพิธภัณฑสถาน​แห่งชาติ​เชียงใหม่​ เพื่อทำให้ประเด็น​ข้อสงสัยดังกล่าวกระจ่างชัดมากยิ่งขึ้น​ สำนัก​ศิลปากร​ที่​ 7​ เชียงใหม่​ จึงได้ประสานข้อมูล​กับภาคส่วนต่าง​ ๆ​ จนทำให้เริ่มพบเบาะแส​ของจารึกประตูท่าแพ​ ซึ่งไม่มีผู้ใดพบเห็นเลย​ ตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ทศวรรษ เพื่อไขปริศนา​ดังกล่าว​ วันนี้​ (1 พฤศจิกายน​ 2566​) สำนักศิลปากร​ที่​ 7​ เชียงใหม่​ นำโดย​ นายเทอดศักดิ์​ เย็น​จุ​ระ​ ผู้อำนวยการ​กลุ่ม​อนุรักษ์​โบราณสถาน​ พร้อมด้วย​ ผู้แทนเทศบาลนคร​เชียงใหม่​ ผู้แทนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์​ ผู้แทนคณะวิจิตรศิลป์​ ผู้แทนคลังข้อมูล​จารึก​ล้านนา​ มหาวิทยาลัย​เชียงใหม่​ และนักวิชาการ​ท้องถิ่น​ ร่วมกันเปิดประตูห้องที่ซ่อนอยู่ภายในโครงสร้างประตูท่าแพปัจจุบัน​ ซึ่งไม่ได้เปิดมาตลอดระยะเวลา​หลายสิบปี​ และเข้าไปทำการสำรวจภายในจนพบว่า​ “จารึก​ประตูท่าแพ” หรือ​ “จารึกเสาอินทขีลประตูท่าแพ” ยังคงปักยืนตระหง่าน​ ซ่อนตัวอยู่ภายในโครงสร้างประตูท่าแพ​ จนกระทั่งปัจจุบัน​ นำมาซึ่งความปิติ​ของทีมผู้ร่วมค้นหาทุกท่าน ทั้งนี้จารึก​ประตูท่าแพ​ เป็นหนึ่งในจารึกหลักสำคัญ​ที่ฝังอยู่​ร่วมกับประตูเมืองมาตั้งแต่อดีต​ ต่อมาราวช่วงปี​ พ.ศ.​ 2529 ​- 2530 จารึกหลักนี้ถูกเคลื่อนย้าย​ในช่วงระยะเวลาที่มีการปรับปรุง​ประตู​ท่าแพให้เป็น​ […]

ทิศทางราคาข้าวตลาดโลก ปี 2023 – 2024 มีความเสี่ยงพุ่งสูง?

ราคาข้าวในตลาดโลกยังมีความเสี่ยงพุ่งสูง? อินเดียสั่งงดส่งออกข้าวเพื่อที่จะรักษาเสถียรภาพราคาข้าวให้กับคนในประเทศ แต่ก็ทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งสูงทำสถิติในรอบ 10 ปี ถ้ามองในแง่ดีบรรดากลุ่มผู้ส่งออกข้าว ซึ่งรวมถึงไทยด้วยน่าจะได้อานิสงส์ แต่ราคาที่พุ่งขึ้นคือภาระของคนในประเทศ และนักวิเคราะห์หลายคนออกมาแสดงความกังวลถึงสถานการณ์ที่จะส่งผลต่อเงินเฟ้อทั่วโลกที่อาจจะพุ่งสูงขึ้นตามอีกระลอกเป็นไปได้ ปัจจุบันราคาข้าวในตลาดโลกผันผวนพอสมควร โดยเฉพาะหลังจากอินเดียประกาศระงับการส่งออกข้าวเมื่อปลายเดือนที่แล้ว เพียง 3 วัน หลังจากข้อตกลงส่งออกธัญพืชรัสเซียล่ม รัฐบาลอินเดียก็เริ่มบังคับใช้คำสั่งห้ามส่งออกข้าว เพื่อรับมือกับปัญหาในประเทศ ทั้งราคาอาหารที่พุ่งสูง อัตราเงินเฟ้อถีบตัวสูงขึ้นและความกังวลถึงผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนินโญ ที่อาจจะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลงในช่วงที่ตรงกับการเลือกตั้งพอดี  แต่การแก้ปัญหาในครั้งนี้ของอินเดียกลับยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ความไม่มั่นคงทางอาหารของโลกให้ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก โดยราคาข้าวในตลาดโลกทะยานขึ้นสูงสุดในรอบมากกว่า 10 ปี ท่ามกลางความกังวลว่าข้าวในฐานะอาหารหลักของคนมากกว่าครึ่งโลกจะกลายเป็นโดมิโน่ตัวแรกที่ล้มก่อนที่ราคาอาหารประเภทอื่นๆ จะพุ่งสูงตามไปด้วยซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลไปถึงราคาพลังงานและค่าครองชีพในที่สุด  นับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมาอินเดียในกระโดดแซงหน้าไทยและก้าวขึ้นเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก ข้อมูลจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ เอฟเอโอ(FAO) ชี้ว่า เมื่อปีที่แล้วอินเดียครองส่วนแบ่งการส่งออกข้าวมากถึง 40% ของทั้งโลกทิ้งห่างไทยที่เป็นอันดับ 2 เกือบ 3 เท่า ตามมาด้วย เวียดนามปากีสถาน และ สหรัฐฯ ข้าวจากอินเดียถูกส่งไปขายยัง 140 ประเทศทั่วโลก ดังนั้นประเทศที่พึ่งพิงการนำเข้าข้าวอินเดีย อย่าง บังกลาเทศ เนปาล เบนินโตโกและมาลี ต้องรับแรงกระแทกจากนโยบายข้าวของอินเดียไปแบบเต็มๆแต่อาจจะมีทางออกอยู่บ้าง เพราะว่ารัฐบาลอินเดียยังเปิดโอกาสให้ชาติอื่นๆ สามารถเข้าไปขอเจรจาซื้อข้าวแบบจีทูจี(G2G) หรือว่ารัฐต่อรัฐได้ซึ่งหลายประเทศเริ่มมีติดต่อเข้าไปแล้ว แต่อินเดียไม่ใช่ผู้ส่งออกข้าวเจ้าเดียวที่ทำให้ตลาดโลกกังวล นั้นเพราะตอนนี้เมียนมากลายเป็นประเทศล่าสุดที่ออกมาประกาศระงับการส่งออกข้าวนาน 45 วัน เพื่อควบคุมราคาในประเทศ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้สิ้นเดือนนี้และแม้ว่าเมียนมาจะไม่ติด 5 อันดับแรกของประเทศผู้ส่งออกข้าวมากที่สุดในโลกในปัจจุบัน แต่หลายคนกังวลเขาว่าประเทศอื่นๆ อาจจะเคลื่อนไหวตามเมียนมา เพื่อชะลอผลกระทบในประเทศและเตรียมตัวรับมือกับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญที่วนกลับมาเกิดอีกครั้งในรอบ 7 ปีก็เป็นไปได้ สถานการณ์นี้เคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อปี 2008 ตอนนั้น เวียดนาม เริ่มจำกัดการส่งออกข้าวตามมาด้วยอินเดีย กัมพูชา และอีกหลายประเทศ จนกลายเป็นวิกฤตข้าวโลกและทำให้ราคาข้าวพุ่งทะลุ 3 เท่าในเวลาเพียงไม่กี่เดือน แต่สถานการณ์ในตอนนี้อาจย่ำแย่และต่างออกไป เพราะว่าวิกฤติโลกร้อนและสงครามรัสเซียยูเครน  เอฟเอโอ รวบรวมข้อมูลราคาส่งออกข้าวรายเดือนในหลายประเทศมาจัดทำเป็นดัชนีราคาข้าวในตลาดโลก พบว่านับตั้งแต่ สองยักษ์ใหญ่ผู้ส่งออกธัญพืชอย่างรัสเซียและยูเครนเปิดฉากทำสงครามเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามความต้องการข้าวที่เพิ่มสูงขึ้นเพื่อทดแทนธัญพืชที่มีลดลงในตลาดโลก สถานการณ์ในปีนี้กระโดดขึ้นไปเลวร้ายกว่าเก่า โดยเฉพาะหลังจากอินเดียระงับส่งออกข้าวราคาข้าวพุ่งสูงขึ้นประมาณ 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วหรือสูงที่สุดในรอบ 12 ปี และดูจากแนวโน้มในปัจจุบันนักวิเคราะห์บางส่วนบอกว่าสถานการณ์นี้อาจจะยังไม่ดีขึ้นในเร็วๆ นี้ แต่อย่าพึ่งวิตกกังวลมากเกินไป เพราะว่าเกษตรกรและพ่อค้าในเวียดนามเองก็เล็งเห็นถึงโอกาสจากราคาส่งออกข้าวของประเทศที่ปรับตัวกระโดดขึ้นสูงถึง 35% ถือว่าสูงที่สุดในรอบ 15 ปี ก็เลยหันมาเร่งปลูกข้าวเพื่อป้อนความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาดโลก แต่ในไทยยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจนเรื่องข้าวที่ราคาภายในประเทศนั้นตกต่ำลงจนเหลือไม่ถึง 10 บาท ขณะที่กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ประเมินว่าในปีหน้าประเทศผู้ส่งออกข้าวรายอื่นๆ เช่น บราซิล ปากีสถาน และเวียดนาม น่าจะเพิ่มการส่งออกทดแทนส่วนต่างของข้าวอินเดียที่หายไป ส่วนปลายปีนี้ไปจนถึงปีหน้ามีการคาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวของทั้งโลกน่าจะเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยโดยเฉพาะในรัสเซีย ยูกันดา และสหรัฐอเมริกา ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า ภาพรวมราคาอาหารในปีนี้จะต่ำกว่าปีที่แล้วแม้ว่าจะเจอคำสั่งห้ามส่งออกข้าวของอินเดียก็ตาม เพราะว่าผลผลิตข้าวรวมไปถึงธัญพืชอื่นๆ น่าจะเพิ่มขึ้นหลังจากนี้ เพราะสภาพอากาศไม่เลวร้ายมากอย่างที่คิด   ท้ายที่สุดแล้วฟ้าฝนเกิดไม่เป็นใจขึ้นมาหรือว่าปรากฏการณ์เอลนีโญเองก็มีผลกระทบที่ร้ายแรงมากขึ้นก็ต้องมาประเมินสถานการณ์กันใหม่ เรียบเรียงโดย : บ่าวหัวเสือ อ่านข่าวเพิ่มเติม : ชาวนาเจียงใหม่น้ำตาตกขายข้าวนึ่งได้กิโล 9 บาท…

1 2 3 531