จับฆาตกรต่อเนื่อง ช่วยสาวลำพูน

จับฆาตกรต่อเนื่องคาบ้านพัก ช่วยสาวลำพูน โดนลวงผ่านแชท กักขัง ทารุณโหด
ตำรวจ กก.6 บก.ป. ร่วมกันจับกุมตัว นายธนเดช หรือ รุจ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ 473/2565 ลงวันที่ 29 ก.ย. 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย โดยทรมานหรือกระทำทารุณโหดร้าย ”

พฤติการณ์สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ก.ค.2565 เวลาประมาณ 20.40 น. ตำรวจ สน.บางยี่ขัน ได้รับแจ้งพบร่าง น.ส.กมลเนตร อายุ 26 ปี เสียชีวิตอยู่ในบ้านเช่า แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ สภาพศพมีบาดแผลจากการถูกทำร้ายร่างกาย กะโหลกศีรษะแตก เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง กระดูกสันหลังหัก กระดูกซี่โครงหัก ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า นายธนเดช แฟนของ น.ส.กมลเนตร เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ โดยนายธนเดช รู้จักกันผ่านทางแอปพลิเคชันหาคู่ จากนั้นพูดคุยกันผ่านทางเฟซบุ๊ก และนายธนเดช ชักชวนให้มาพักอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านเช่าย่านอรุณอมรินทร์ ซึ่งนายธนเดช มักมีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายด้วยการซ้อม ทุบตี และกระทืบ ภายในบ้านเช่าดังกล่าว และจะกักขัง น.ส.กมลเนตร ไว้ในบ้าน จนภายหลังทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากนั้ยนายธนเดช หลบหนีออกนอกพื้นที่ (ก่อนเกิดเหตุ นายธนเดช และ น.ส.กมลเนตร ทำความรู้จักกันเพียงไม่ถึง 1 เดือน)

ต่อมาตำรวจ กก.6 บก.ป. สืบสวนทราบว่า นายธนเดช หลบหนีมาอยู่ในแมนชั่นแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง และขณะนั้นมีหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อถูกล่อลวง และกักขังอยู่ในห้องพักของนายธนเดช ตำรวจจึงวางแผนช่วยเหลือเหยื่อและจับผู้ต้องหา โดยขณะเข้าจับ พบ น.ส.เนย (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี ชาว จ.ลำพูน อยู่ภายในห้องพักดังกล่าว โดยมีสภาพถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ มีรอยบาดแผลฟกช้ำตามร่างกายเป็นจำนวนมาก ใบหน้าบวมช้ำจนผิดรูป ตำรวจจึงช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุง พร้อมกับจับนายธนเดช (ผู้ต้องหา) ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจสอบ นายธนเดช มีประวัติเคยก่อเหตุหลายคดี ทั้งคดียาเสพติด และคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ได้แก่

  • พ.ศ.2557 ถูกดำเนินคดีข้อหา ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ที่ สน.พระราชวัง
  • พ.ศ.2558 ถูกดำเนินคดีข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ที่ สน.บางยี่ขัน
  • พ.ศ.2559 ถูกดำเนินคดีข้อหา ฆ่าผู้อื่น โดยใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นเสียชีวิต ในพื้นที่ สน.บางยี่เรือ โดยถูกศาลพิพากษาจำคุก 10 ปี 16 เดือน ต่อมาได้รับการลดหย่อนโทษ ถูกจำคุกจริง 5 ปี 10 เดือน และพ้นโทษออกมาเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2564

ทั้งนี้ในส่วนของ น.ส.เนย ตำรวจช่วยเหลือไว้ได้นั้น น.ส.เนย บอกระหว่างถูกช่วยเหลือว่า คิดว่าตนเองจะต้องตายในห้องนี้แล้ว ไม่คิดว่าจะมีชีวิตรอดออกมาได้ โดยรู้จักกับนายธนเดช เมื่อประมาณต้นเดือน ส.ค.2565 ผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ จากนั้นพูดคุยกันผ่านเฟซบุ๊ก โดยแชทคุยกันประมาณ 1 เดือน ต่อมานายธนเดช ลวงให้เดินทางมาหาที่ จ.พัทลุง โดยบอกว่ารักมาก อยากพบเจอ ซึ่งเมื่อประมาณต้นเดือน ก.ย.2565 นั่งรถไฟจาก จ.ลำพูน มาหาที่ จ.พัทลุง ซึ่งหลังจากพบกันครั้งแรกนายธนเดช พาไปทานข้าวที่ตลาด ซึ่งระหว่างนั้นเกิดอาการหึงหวง กล่าวหาว่าไปมองชายอื่น หลังจากนั้นนำจานข้าวปาใส่ใบหน้า และเทน้ำซุปราดศีรษะ พร้อมทั้งใช้กำลังตบตี และฉุดกระชาก มาที่ห้องพักในแมนชั่นที่เช่าอาศัยอยู่ จากนั้นได้กักขัง ไว้ในห้อง ไม่ให้ออกไปไหนไม่ให้ติดต่อกับผู้ใด และใช้กำลังทำร้ายร่างกายเรื่อยมา ซึ่งหากนายธนเดช เสพยาบ้า และมีอาการเมายา หนักขึ้นต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ภายในห้องเป็นระยะเวลากว่า 1 เดือน จนกระทั่งตำรวจเข้ามาช่วยเหลือ
ขณะเดียวกันนายธนเดช รับว่าเป็นผู้ทำร้าย น.ส.กมลเนตร ถึงแก่ความตาย และ น.ส.เนย ได้รับบาดเจ็บจริง สาเหตุที่ทำกับเหยื่อแต่ละคนนั้น นายธนเดช อ้างว่าไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ ทำไปเนื่องมาจากความรัก ความหึงหวง และควบคุมอารมณ์ไม่ได้ จึงพลั้งมือทำร้าย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบว่าที่ผ่านมานายธนเดชฯ มักมีพฤติกรรมชอบแชทคุยกับหญิงสาว โดยจะบอกว่ารักและขอนัดเจอ เมื่อผู้หญิงหลงเชื่อ จะพามากักขังที่ห้องพัก ก่อนจะลงมือทำร้ายร่างกายเหยื่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าอาจมีเหยื่อรายอื่นที่ถูกกระทำในลักษณะนี้อีกหลายราย ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป
สอบสวนกลาง ขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน หากตกเป็นเหยื่อ ถูกนายธนเดช ทำร้ายร่างกายในพฤติกรรมลักษณะเช่นเดียวกันนี้ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุได้ในทันที ทั้งนี้สอบสวนกลางยังขอฝากเตือนภัยไปยังพ่อแม่ผู้ปกครอง ขอให้หมั่นสอดส่องดูแลบุตรหลานของท่านในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ขอให้ใช้อย่างระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพโดยเด็ดขาด.
ที่มาภาพ/ข่าว #สอบสวนกลาง โดย บก.ป.

ร่วมแสดงความคิดเห็น