อิทธิพลพายุ “มู่หลาน” กระทบชาวเชียงใหม่ใน 9 อำเภอ รวมกว่า 6,000 ครัวเรือน
หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เผย อิทธิพลของพายุ “มู่หลาน” ส่งผลกระทบต่อประชาชน กว่า 6,000 ครัวเรือน ใน 9 อำเภอ ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ กำลังสูบ 28,000 ลิตร ต่อนาที แก้ปัญหาน้ำท่วมขังจุดเสี่ยงซ้ำซากในเขตเมือง
วันนี้ (16 ส.ค. 65) นายอารุณ ปินตา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์จังหวัดเชียงใหม่ ว่า จากอิทธิพลของพายุ “มู่หลาน” ได้ส่งผลกระทบแก่ประชาชนใน 9 อำเภอ 33 ตำบล 201 หมู่บ้าน รวมทั้งสิ้นกว่า 6,000 ครัวเรือน ซึ่งอำเภอที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ที่ อำเภอฝาง และอำเภอแม่อาย โดยในเบื้องต้น อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้ลงพื้นที่ไปให้ความช่วยเหลือแล้ว โดยการสูบน้ำท่วมขังและให้เจ้าหน้าที่ล้างทำความสะอาดบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการประกาศเขตความช่วยเหลือ และประกาศเขตพื้นที่สาธารณภัยต่อไป ส่วนพื้นที่อำเภอท้ายน้ำ ซึ่งได้มีการแจ้งเตือนไปก่อนหน้านี้ว่าให้เตรียมความพร้อมรับมวลน้ำที่จะไหลลงไปนั้น จากการตรวจสอบ พบว่า ยังไม่มีพื้นที่ใดได้รับผลกระทบ เนื่องจากตั้งแต่อำเภอสันป่าตองเป็นต้นไป มีตลิ่งที่ค่อนข้างสูง จึงทำให้น้ำยังไม่ล้นตลิ่ง
ทั้งนี้ จากข้อมูลของศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ได้คาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 16-17 สิงหาคม 2565 ร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งในพื้นที่ภาคเหนือ ส่วนในช่วงวันที่ 18-19 สิงหาคม 2565 จะมีฝนลดลง หลังจากนั้น ในช่วงวันที่ 20-22 สิงหาคม 2565 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะในพื้นที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่ลุ่ม
ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้มีการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะจุดเสี่ยงซ้ำซาก ซึ่งขณะนี้ ได้ขอรับการสนับสนุนเรือท้องแบน รถขนย้ายผู้ประสบภัย รถประกอบอาหาร รวมถึงเครื่องสูบน้ำจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 10 ลำปาง และเทศบาลนครเชียงใหม่ มาติดตั้งไว้ที่บริเวณแยกข่วงสิงห์ และบริเวณกาดก้อม-ศรีปิงเมือง ซึ่งเป็นจุดที่มักจะมีน้ำท่วมขังผิวจราจรเมื่อเกิดฝนตกหนัก โดยเครื่องดังกล่าว สามารถสูบน้ำได้ 28,000 ลิตร ต่อนาที ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบแก่พี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับ สำนักงานชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ และโครงการชลประทานเชียงใหม่ ในการติดตามและแก้ไขปัญหาอุทกภัย อีกทั้งยังได้เตรียมความพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยของหน่วยงานฝ่ายพลเรือน หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานราชการอย่างเคร่งครัด
โดยประชาชนสามารถติดตามข่าวสารเตือนภัย ได้ที่แอพพลิเคชั่น “THAI DISASTER ALERT” และหากได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางแอปพลิเคชันไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น