(มีคลิป) คุมตัว 2 ผู้ต้องหา ชาวจีนก่อเหตุเรียกค่าไถ่

คุมตัว 2 ผู้ต้องหา ชาวจีนก่อเหตุเรียกค่าไถ่ สอบสวนข้อเท็จจริง ด้านผู้การเชียงใหม่ ยันไม่มาเฟีย หวั่นเสียชื่อเสียงเมืองเชียงใหม่ คาดผิดใจกันเรื่องธุรกิจ ขณะที่ทั้งสองฝ่ายยังให้การไม่ตรงกัน พร้อมขอเวลาสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (6 ก.ค.65) ที่สถานีตำรวจภูธรแม่ปิง จ.เชียงใหม่ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ได้ทำการควบคุมตัว MS.LI MIN อายุ 37 ปี สัญชาติจีน ที่ถูกจับกุมได้กับ MR.WANG YU อายุ 30 ปี สัญชาติจีน เพื่อนชาย หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนโม่ ขนาด .38 ยิง MR.WANG XIAOYE อายุ 54 ปี สัญชาติจีน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (5 ก.ค.65) หลังจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ปิง ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทภายในบ้านเลขที่ 14/13 ถ.เชียงใหม่-ลำพูน ซ.7 หมู่บ้านจินดานิเวศน์ ต.วัดเกต อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่

ขณะที่หลังเกิดเหตุทางด้าน MR.WANG XIAOYE อายุ 54 ปี สัญชาติจีน ที่ถูกยิงได้บาดเจ็บ ได้พยายามหนีตายออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว แล้วกระโดดลงน้ำปิง ก่อนจะว่ายน้ำหลบหนีข้ามมาฝั่งตรงข้าม และขอความช่วยเหลือกับทางตำรวจ พร้อมทั้งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลราชเวช ส่วนทางด้าน MS.LI MIN และ MR.WANG YU หลังก่อเหตุได้ใช้รถกระบะโตโยต้าสีขาว หมายเลขทะเบียน ยฉ xxxx เชียงใหม่ ขับไปยังพื้นที่ จ.เชียงราย และทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา ขณะทั้งคู่กำลังจะหลบหนีข้ามแม่น้ำโขงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

โดยทางด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามที่มีข้อมูลข่าวเหตุทะเลาะวิวาทกันของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เกิดขึ้นช่วงบ่ายวานนี้ และต่อมามีข้อมูลระบุว่า ผู้ก่อเหตุเป็นมาเฟียมีการเรียกค่าไถ่กับคู่กรณีซึ่งเป็นชาวจีนชาติเดียวกันเป็นเงินรวม 3 ล้านบาทนั้น เบื้องต้นเกี่ยวกับข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ จากการสอบสวนผู้ต้องหาและตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่า กรณีที่ระบุว่าผู้ก่อเหตุเป็นมาเฟียนั้นไม่ได้เป็นเรื่องจริงแต่อย่างใด แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ทราบว่าเป็นเรื่องของธุรกิจที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้จนกระทั่งเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

โดยจากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ทางสองฝ่ายได้มีการติดต่อซื้อสินค้า แต่ทางฝั่งผู้เสียหายที่ถูกยิง ไม่ตกลงซื้อ แต่ทางฝ่ายของผู้ต้องหาก็ยังบังคับ แต่ขณะนี้ข้อมูลที่ทราบมายังไม่ตรงกัน และต่างฝ่ายต่างให้การในมุมของตัวเองซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง เพื่อดูว่าฝ่ายใดให้การตรงกันกับข้อเท็จจริงมากที่สุด เนื่องจากทางผู้ต้องหาก็ยังไม่ได้ให้การรับสารภาพ รวมทั้งในส่วนของการก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงก็ยังไม่ยอมรับว่ายิงจริง

ส่วนพฤติการณ์ที่บอกว่า มีการเรียกเงิน 3 ล้านบาทก็ยังไม่ชัดเจน เนื่องจากเป็นเพียงคำให้การ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง และเหตุที่มีการเรียกเงินกัน ประกอบกับตอนนี้ทั้งสองฝ่ายก็ให้การที่ไม่ตรงกัน โดยในส่วนของข้อเท็จจริงที่ฟังและตรวจสอบได้ชัดเจนคือ ทั้ง 3 คน และพยานซึ่งเป็นคนไทยอีก 1 คน อยู่ในที่เกิดเหตุ และมีการทะเลาะกัน จากนั้นมีคนใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย แล้วผู้เสียหายโดดลงน้ำปิง ว่ายข้ามฝั่งไปขอความช่วยเหลือ ส่วนฝั่งของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ จ.เชียงใหม่ แล้วมุ่งหน้าไปยัง จ.เชียงราย และไปยังพื้นที่ชายแดน เพื่อจะหลบหนีออกนอกประเทศ

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบในส่วนตัวของผู้ต้องหาหญิง พบว่าเข้ามามนพื้นที่เชียงใหม่กับสามี แต่สามีเดินทางกลับประเทศจีนไปแล้ว และจากการตรวจสอบเบื้องต้นกับทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพบว่ามีสถานะ Overstay หรือการอยู่เกินกำหนดระยะอนุญาตวีซ่า โดยอาศัยอยู่กับเพื่อนชาวไทยและชาวจีนในลักษณะหลบซ่อน

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง และร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในทางหมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยแจ้งกล่าวหา น.ส.ลี่ มิน อีกหนึ่งข้อหา ว่า เป็นบุคคลต่างด้าวพำนักอยู่ในประเทศไทยเกินกำหนดวันที่ได้รับอนุญาต (Over Stay) ส่วนในเรื่องของคดีกรรโชกทรัพย์ กำลังพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีความผิดจริงหรือไม่ต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น