คืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่เฟส 2

วันที่ 21 ก.ค. นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ได้ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เฟส 2 ว่า หลังจากโครงการรถไฟทางคู่ระยะแรกดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้ว ขณะนี้ทางกระทรวงคมนาคมเริ่มผลักดันโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ต่อ โดยเริ่มนำร่องในเส้นทางที่มีศักยภาพก่อน คือ โครงการช่วง ขอนแก่น – หนองคาย

“การดำเนินงานในปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดการเวนคืนที่ดิน เพื่อเสนอข้อมูลไปยังสำนักงบประมาณ โดยกรมการปกครองจะเป็นหน่วยงานที่เข้ามาช่วยสำรวจการเวนคืน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จเพื่อเสนอโครงการเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติภายในเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากนั้นจะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการประกวดราคาทันที เพื่อเร่งรัดในโครงข่ายทางรางสมบูรณ์และสนับสนุนการขนส่งสินค้าทางรางระหว่างไทย ลาว และจีน”

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า หลังจากรฟท.เสนอกระทรวงคมนาคมและที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติการลงทุนรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น – หนองคาย แล้วเสร็จ หลังจากนั้นจะเริ่มจัดทำร่างเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) และเริ่มขั้นตอนประกวดราคาทันที และจะเริ่มขั้นตอนสำรวจอสังหาริมทรัพย์ และจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ในปี 2566 – 2567 โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปี 2566 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จต้นปี 2569

นอกจากนี้ รฟท.ยังอยู่ระหว่างผลักดันรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ในเส้นทางอื่นๆ ให้ครบตามแผนพัฒนา 7 เส้นทาง ประกอบด้วย

1.ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 2.97 หมื่นล้านบาท โดยมีรูปแบบระดับโครงสร้างพื้นดินและทางยกระดับรถไฟ ทั้งหมด 15 สถานี ย่านกองเก็บและขนถ่ายสินค้า 3 แห่ง ได้แก่ 1.สถานีหนองตะไก้ 2.สถานีนาทา 3.สถานีเขาสวนกวาง ความเร็วในการให้บริการ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

2.ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 285 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 6.28 หมื่นล้านบาท

โดยมีรูปแบบระดับโครงสร้างพื้นดิน ทางยกระดับรถไฟ และอุโมงค์ ทั้งหมด 39 สถานี ย่านกองเก็บและขนถ่ายสินค้า 3 แห่ง ได้แก่ 1.สถานีบางกะทุ่ม 2.สถานีวังกะพี้ 3.สถานีศิลาอาสน์ ความเร็วในการให้บริการ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

3.ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กิโลเมตร(กม.) วงเงิน 2.42 หมื่นล้านบาท โดยมีรูปแบบระดับโครงสร้างพื้นดินและทางยกระดับรถไฟ ทั้งหมด 22 สถานี ย่านกองเก็บและขนถ่ายสินค้า 1 แห่ง คือ สถานีชุมทางบ้านทุ่งโพธิ์ ความเร็วในการให้บริการ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

 4.ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 5.73 หมื่นล้านบาท โดยมีรูปแบบระดับโครงสร้างพื้นดิน ทางยกระดับรถไฟ และอุโมงค์ ทั้งหมด 65 สถานี ย่านกองเก็บและขนถ่ายสินค้า 2 แห่ง ได้แก่ 1.สถานีชุมทางทุ่งสง 2.สถานีบางกล่ำ ความเร็วในการให้บริการ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

5.ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 5.68 หมื่นล้านบาท โดยมีรูปแบบระดับโครงสร้างพื้นดิน ทางยกระดับรถไฟ และอุโมงค์ ทั้งหมด 17 สถานี ย่านกองเก็บและขนถ่ายสินค้า 2 แห่งได้แก่ 1.สถานีห้างฉัตร 2.สถานีสารภี ความเร็วในการให้บริการ 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

6.ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 3.75 หมื่นล้านบาท โดยมีรูปแบบระดับโครงสร้างพื้นดินและทางยกระดับ ทั้งหมด 35 สถานี ย่านกองเก็บและขนถ่ายสินค้า 4 แห่ง ได้แก่ 1.ที่หยุดรถบ้านตะโก 2.สถานีบุฤาษี 3.สถานีหนองแวง 4.สถานีบุ่งหวาย ความเร็วในการให้บริการ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

และ 7. ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 6.66 พันล้านบาท โดยมีรูปแบบระดับโครงสร้างพื้นดินและทางยกระดับ ทั้งหมด 3 สถานี ย่านกองเก็บและขนถ่ายสินค้า 1 แห่ง คือ สถานีปาดังเบซาร์ ความเร็วในการให้บริการ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

ร่วมแสดงความคิดเห็น